21/8/54

FF7 advent children: Secret Present

** โปรดสังเกต ฟิคนี้ไม่ AU

Author : jes

Pairing :
คราวนี้ถึงจะมีพ่อเม่นแซคกี้มาร่วมแจมก็ตาม แต่ยังไงก็ยังเป็นเซฟจัง+คลาวด์คุงอยู่ดีนะพี่น้อง...

Disclaimer :
ตัวละครเป็นลิขสิทธิ์ของ square enix ค่ะ ไอเดียนี้เกิดขึ้นเพราะคุณคลาวด์ผู้โมเอ้คอมเมนต์คุยเรื่องเซฟจังสมัยยังสติดีและยังเป็นผู้เป็นคนเหมือนชาวบ้านเขา (?) ว่า ดีแสนดี ยิ้มง่าย แถมน่ารักสุดๆ ไม่ใช่เซฟิรอธแบบมืดมนหม่นมัวอย่างที่รู้ๆ กัน เท่านั้นล่ะ ไฟเขียนฟิคลุกพรึบ งั้นเรื่องนี้ขอเขียนเซฟจังในแบบออริจินัลแท้ ไม่ AU ให้เป็น “ไนซ์แอนด์เพอเฟกท์กาย” มั่งเหอะนะ

ปล. งัดเอาฟิควาเลนไทน์ที่เขียนแล้วทิ้งขยะไปมาปั้นใหม่จนเสร็จ คิดไปคิดมาลงบล็อกมันซะตอนนี้ดีกว่ารอไปอีก 6 เดือน...เนอะ  

Intro :  ฟิคนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนที่ทุกคนจะยกโขยงกันไปนีเบิลเฮล์ม ตอนนั้นคลาวด์คุงยังเป็นการ์ด+ซี้ปึ้กกับแซคแล้ว อายุคงราวๆ 15-16 ได้มั้งนะ ส่วนเซฟจัง...อ่า ไม่รู้สิคะ คง 20 กลางๆ มั้งนะ (ใครรู้ก็วานบอกหน่อยเถอะค่ะ)

-----------------------------------------------------------------------


“ล้อเล่นน่า แซค”

นัยน์ตาสีฟ้าสดเบิกกว้างขณะมองดูโซลเยอร์เฟิร์สคลาสตรงหน้า ทั้งๆ ที่มีห้องพักหรูหราสมฐานะแท้ๆ แต่เจ้าตัวกลับมานอนแผ่หราเอ้เตอยู่บนเตียงเล็กๆ แข็งๆ ของพวกการ์ด จนเจ้าของเตียงตัวจริงต้องระเห็จไปนั่งแถวปลายเตียง

“ก็มันจริงนี่” พ่อหนุ่มหัวเม่นพยักหน้าหงึกหงักก่อนพลิกตัวกลิ้งไปกลิ้งมาอีก 2-3 ทีแล้วลุกขึ้นคว้ากล่องขนาดเหมาะมือขึ้นจากตะกร้าข้างตัวโยนให้คลาวด์กล่องนึง ตามด้วยการแกะอีกกล่องแล้วโยนเจ้าขนมชิ้นเล็กๆ สีน้ำตาลเข้มข้างในใส่ปาก เคี้ยวกร้วมๆ ท่าทางน่าอร่อย

“แล้วนายก็เอาของเขามา” คลาวด์หรี่ตามองกล่องช็อกโกแลตยี่ห้อดังห่อด้วยกระดาษสีหวานแหววในมือสลับกับแซคที่กำลังแกะช็อกโกแลตอีกกล่องไปมาด้วยความงุนงงและคาดไม่ถึง

“ฉันเอาของที่เขาจะทิ้งมาต่างหาก” แซคสะบัดเสียงใส่งอนๆ แล้วคว้าหมอนมาตบปุๆ จนได้รูปทรงที่พอใจแล้วลงไปนอนต่อ ปากก็เคี้ยวช็อกโกแลตหงับๆ ไปด้วย “วันนี้แค่วันที่ 4 เอง แต่เซฟิรอธก็ได้ช็อกโกแลตเป็นตะกร้าๆ มาตั้งแต่วันที่ 1 ตอนนี้ในห้องพักหมอนั่นมีช็อกโกแลตมันทุกชนิด ทุกยี่ห้อ และทุกขนาด กองโตเป็นภูเขาลูกย่อมๆ เลยล่ะ”

“แล้ว....นายเอาช็อกโกแลตพวกนี้มาทำไม” คนข้องใจยังคงมีปัญหาไม่ยอมเลิก

“ก็...” แซคถอนใจเฮือกพลางตวัดตาค้อนประหลับประเหลือก “พอเปิดประตูห้องเข้าไปเห็นกองภูเขาช็อกโกแลตปุ๊บ แทนที่จะดีใจ..หมอนั่นกลับทำหน้าเครียดปั๊บ จากนั้น.....”

“จากนั้น....” คลาวด์ทวนคำ บนใบหน้ามีเครื่องหมายคำถามที่มองไม่เห็นประอยู่เต็ม

“จากน้านนนนนนนนนนนนนน....” คนรู้ แกล้งลากเสียงยาวแล้วกลับเงียบ ยั่วให้ สมาชิกเซฟิรอธแฟนคลับตัวยงยิ่งอยากรู้มากขึ้น


“แซค!!!


“โอ๋ๆ ไม่เอาน่า อย่าโกรธสิ”

แซคยิ้มขำที่คราวนี้หางเสียง คนอยากรู้ เริ่มมีรอยโมโหกรุ่นๆ แล้วยังจะท่าทางที่แทบจะกระโจนเข้าเค้นคอให้เขาพูดนั่นอีกล่ะ

...อยากรู้นัก ตัวทั้งเล็กทั้งบางขนาดนั้นจะมีแรงทำอะไรเขาได้

“ก็แค่หยิบมาเทเรียไฟร์ระดับมาสเตอร์ขึ้นมา..แวบเดียว ทั้งกล่องทั้งของหายเกลี้ยง ไม่มีเหลือ”

“ฮ้า..”

คำตอบที่ได้ยินเล่นเอาคลาวด์ตะลึงค้าง นัยน์ตาสีฟ้ายิ่งเบิกกว้างมากขึ้นไปอีก

“เขาเผามันทิ้ง เผาทิ้งจริงๆ น่ะเหรอ”

“น่าเสียดายจะตายเนอะ ของดีๆ ทั้งนั้น ฉันเลยเลือกบางชิ้นมากินเองเนี่ยล่ะ” พ่อหนุ่มหัวเม่นยิ้มแฉ่งด้วยความภูมิใจในความคิดของตัวเองเต็มที่พลางชี้ไปที่ตะกร้าซักผ้าใบโตหลายใบที่ล้นปรี่ไปด้วยช็อกโกแลตยี่ห้อดัง ราคาแพงลิบ แถมเท่าที่ดูคงไม่ต่ำกว่าร้อยกล่อง “วันนี้กินหมดนี่แล้วพรุ่งนี้ มะรืนนี้ก็ไปเลือกเอาใหม่ได้ เซฟิรอธไม่ว่าอะไรหรอก เพราะถึงจะเผาของเก่าทิ้งไป ก็มีของใหม่มาแทนเรื่อยๆ อยู่ดี คิดไปคิดมาก็อดสงสารหมอนั่นไม่ได้..ไอการได้ช็อกโกแลตจากผู้ชายด้วยกันนี่ มันก็น่าขนลุกเอาการอยู่...”

แซคยังคงบ่นอะไรต่อมิอะไรงึมงำต่อไปอีก แต่คลาวด์ขี้เกียจจะฟัง ในอกเหมือนลูกโป่งที่ถูกเจาะรูจนแฟบ

...ยังงั้นเหรอ

มือเล็กลูบกล่องช็อกโกแลตในมือแผ่วเบา ก่อนเลื่อนเปิดออกแล้วหยิบชิ้นที่อยู่ใกล้มือที่สุดขึ้นกัดคำเล็กๆ ที่มุมๆ หนึ่ง

...รสชาติหวานหอม นุ่มนวลของช็อกโกแลตนมชั้นดีที่กำลังละลายในปากค่อยๆ ซึมซาบเข้าไปในความรู้สึก

...มันช่างหอมหวาน เว้าวอน และอ่อนโยนเสียจนน้ำตาค่อยๆ ซึมออกมา

แต่

...มันกลับสื่อไปไม่ถึงหัวใจของผู้รับ



...เซฟิรอธ


.......................................


“เอาน่า ทนอีกแค่ไม่กี่วัน นายเลิกทำหน้าบอกบุญไม่รับแบบนี้ซะที”

แซคทำหน้าย่นเมื่อเห็นเจ้าของห้องเปิดประตูเข้ามา พอเห็น ภูเขาช็อกโกแลต ประจำวันนี้ที่กองอยู่บนพื้นข้างโต๊ะทำงานเข้าเท่านั้น เซฟิรอธก็ถอนใจยาวด้วยความหงุดหงิดและรำคาญทันที

“ฉันไม่อยากได้ และมันก็ไม่มีประโยชน์” ชายหนุ่มผมเงินคว้าเอาบรรดาช็อกโกแลตกล่องเล็กกล่องน้อยที่วางทับเอกสารบนโต๊ะทำงานโยนออกไปกองรวมไว้ด้วยกัน “ทำไมถึงได้ชอบยัดเยียดของแบบนี้มาให้นะ”

“นายนี่น้า...” โซลเยอร์เฟิร์สคลาสรุ่นน้องถึงกับส่ายหน้า “หัดละเอียดอ่อนกับความรู้สึกของคนอื่นเค้าบ้างก็จะดี ช็อกโกแลตวาเลนไทน์น่ะ เค้าจะให้เฉพาะคนที่รักหรือคนสำคัญมากๆ เท่านั้นแหละ แบบนี้หมายความว่ามีคนรักแล้วก็เห็นนายเป็นคนสำคัญเยอะแยะเลย”

“ก็แค่รู้จักฉันจากโฆษณาชื่อ “เซฟิรอธ เดอะเกรธ” ที่เคยได้ยิน ไม่มีใครรู้หรอกว่าตัวฉันจริงๆ เป็นยังไง” เซฟิรอธโต้พลางทรุดตัวลงนั่งเตรียมทำงานต่อหลังจากกำจัดกล่องช็อกโกแลตที่เป็นอุปสรรคออกไปจนหมด “ว่าแต่..นายเข้ามาอยู่ในห้องฉันทำไม”

“ก็..มาเลือกช็อกโกแลตที่ชอบไปกินไง” แซครีบตีหน้าซื่อ “นายบอกเองว่าอยากได้เท่าไหร่ก็มาเอาไป”

ยังไม่ทันที่เจ้าของห้องจะได้ตอบว่าอะไร เสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้นเสียก่อน จากนั้นการ์ดที่เป็นเวรส่งของประจำวันนี้ก็เดินเข้ามา

เมื่อเห็นว่าเป็นใคร แซคก็ผิวปากฟิ้วแล้วยักคิ้วส่งให้อย่างล้อเลียน แต่พอเห็นของในมืออีกฝ่ายก็ทำตาโต รีบยกมือขึ้นทำท่าปาดคอก่อนบุ้ยใบ้ไปทางคนที่ตั้งหน้าตั้งตาเขียนรายงานง่วนชนิดไม่สนใจใคร แล้วยื่นมือออกมาเหมือนจะรับของเอาไว้ซะเอง

ช้าไปเสียแล้ว...

เพราะการทักทายอย่างสนิทสนมเกินปรกติของแซคสะกิดความสนใจ ทำให้เซฟิรอธรามือจากเอกสารแล้วเงยหน้าขึ้นมอง

“ขออภัยครับ มีพัสดุส่งถึงท่าน”

ภาพเบื้องหน้าโซลเยอร์ผู้ยิ่งใหญ่คือเด็กหนุ่มตัวเล็กๆ กำลังยื่นกล่องใส่ของหลายสิบใบที่เรียงกันเป็นตั้งสูงมาให้ แม้จะเห็นเด็กคนนี้ไปไหนมาไหนกับแซคบ่อยๆ แต่ก็ไม่คิดจะสนใจ นี่คงเป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นเส้นผมสีบลอนด์สว่างกับนัยน์ตาสีฟ้าใสนั่นใกล้ๆ ก่อนจะคิดต่อไปว่ารูปร่างบอบบางกับท่าทางที่ยังขาดความมั่นใจของเด็กหนุ่มช่างไม่เข้ากันกับเครื่องแบบสีน้ำเงินขึงขังของชินระเอาเสียเลย

แต่พอเลื่อนสายตาต่ำลงมา เซฟิรอธก็ขมวดคิ้วมุ่น อารมณ์ขุ่นเคืองที่เบาบางลงเมื่อกี้แล่นกลับมาเป็นริ้วๆ อีกครั้ง ในเมื่อ...

พัสดุที่เด็กหนุ่มนำมาส่งให้เป็น “กล่องช็อกโกแลต” ทั้งหมด

“ว้าว ช็อกโกแลต”

เสียงร้องลั่นสนั่นห้องที่เสแสร้งแกล้งทำได้ไม่ค่อยเหมือนเท่าไหร่ของแซคดังขึ้นก่อนที่เจ้าหัวเม่นจะถลาเข้าไปคว้ากล่องช็อกโกแลตทั้งหมดมาถือเอาไว้ แถมยังจงใจยืนขวางกลางระหว่างเขากับเด็กนั่นอีกแน่ะ

“ขอบใจนะคลาวด์ แหม..ยี่ห้อนี้ของชอบของฉันเลย” เจ้าเม่นยิ้มแย้มแก้มปริราวกับสาวน้อยวัยใสที่เพิ่งได้ของขวัญชิ้นแรกจากคนที่แอบรักก็ไม่ปาน ตามด้วยการออกแรงดันไหล่เด็กหนุ่มให้ถอยหลังกลับออกไป แต่เจ้าตัวเล็กกลับไม่ยอมทำตามซะงั้น

“แซค” คลาวด์พยายามฝืนตัวต้านแรงดันเต็มที่ “ผู้รับต้องเซ็นเอกสารรับของก่อนนะ แล้วมันเซ็นแทนกันไม่ได้ด้วย”

“เอามานี่”

น้ำเสียงติดจะห้วนดังขึ้นยุติการเล่นชักเย่อของ 1 โซลเยอร์เฟิร์สคลาสกับ 1 การ์ดลงก่อนจะตวัดปากกาในมือเซ็นชื่อในเอกสารที่คลาวด์ส่งข้ามโต๊ะมาให้แล้วเอื้อมมืออีกข้างไปหยิบมาเทเรียในกล่องเก็บออกมาเตรียมร่ายคาถา


“อย่านะครับ”


วูบเดียวร่างเล็กตรงหน้าก็ถลาพรวดเข้าถึงตัว มือเรียวเล็กปล่อยเอกสารรับของที่ควรจะถือไว้ให้ปลิวตกลงบนพื้นง่ายๆ ก่อนคว้ามือใหญ่ได้รูปที่ถือมาเทเรียเอาไว้ก่อนจะกุมแน่น

ตอนนี้ทั้ง 2 ร่างอยู่ห่างกันแค่กระดาษแผ่นบางๆ กั้น เซฟิรอธชะงักไปชั่วครู่ ก่อนที่นัยน์ตาสีเขียวกระจ่างดุจัดจะสบเข้ากับนัยน์ตาสีฟ้าตรงๆ

“คือ....ถ้า....ถ้า....คือ...ถ้าท่าน....ท่าน.....”

เด็กหนุ่มพูดเสียงตะกุกตะกัก ใบหน้าอ่อนเยาว์ซีดเผือด ริมฝีปากบางสั่นระริกด้วยความหวาดหวั่น แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่ยอมปล่อยมือ

“ถ้าท่านไม่ต้องการ ก็ขอช็อกโกแลตพวกนี้ให้เด็กๆ ยากจนในสลัมเถอะครับ พวกเขาคง...ดีใจ”

คงเพราะอะไรสักอย่างในลูกแก้วสีฟ้าสดที่วูบไหวนั่น..ทำให้โทสะในแววตาคมกริบค่อยๆ จางลง ริมฝีปากปากสีอ่อนที่เม้มแน่นจนแทบเป็นเส้นตรงค่อยๆ คลายออก เซฟิรอธผ่อนลมหายใจช้าๆ แล้วพยักหน้า

“ตกลง...รอจนหมดเวลาส่งของแล้วค่อยเอาไปทั้งหมดนั่น ไม่ต้องเหลืออะไรไว้”

“ครับท่าน”

คลาวด์แย้มรอยยิ้มบางๆ ด้วยความดีใจระคนโล่งอกแล้วหันไปยิ้มให้แซคที่ยืนทำหน้าเหมือนกำลังจะขาดใจตายเสียให้ได้กับความใจกล้าบ้าบิ่นที่ไม่เคยมีใครคิดลองของมาก่อน แต่แล้วคลาวด์ก็ต้องกระพริบตาปริบด้วยความไม่เข้าใจอีกครั้งเมื่อหันกลับมาเห็นเซฟิรอธส่งสายตาคุกคามมาให้

“คะ...ครับ?”

“ปล่อยมือฉัน”

เซฟิรอธพูดเสียงต่ำๆ ด้วยใบหน้าเฉยชา แต่ก็ไม่ได้กระชากมือออก เล่นเอาคนที่ยังจับมือไว้หน้าขึ้นสีระเรื่อแล้วรีบปล่อยมือโดยเร็ว ก้มลงคว้าเอกสารบนพื้น แล้วรีบถอยหลังกรูดๆ ไปทางประตู

“อ๊ะ ขะ..ขอ..ขอ...ขออภัยครับท่าน แล้วก็...ขะ..ขอ..ขอ...ขอตัวก่อนครับ”


.................................................

“ท่าทาง...นายจะห่วงเป็นใยเด็กคนนั้นมากนะ”

ลับหลังคลาวด์ เซฟิรอธเลิกคิ้วแล้วแกล้งแหย่คนที่กำลังตั้งหน้าตั้งหาเลือกช็อกโกแลตที่อยากกินต่อไปอย่างตั้งอกตั้งใจ

“หมอนั่นน่ารักนะ” แซคที่หน้าบานเป็นจานดาวเทียมยักษ์แฝดยิ้มกริ่มขณะพลิกกล่องช็อกโกแลตทรงกลมสีชมพูผูกโบฟูฟ่องกับกล่องรูปดาวสีส้มแบบเรียบๆ ไปมาพลางทายใจว่าคลาวด์จะชอบกล่องไหนมากกว่ากัน “ฝีมือดาบไม่เลว แต่ยังต้องฝึกอีกมาก ส่วนนิสัย ความพยายาม กับความมุ่งมั่นนี่...ดีเกินร้อย ที่สำคัญเขาชื่นชมนายมาก รู้แล้วก็อย่าไปทำอะไรจนเขาร้องไห้ล่ะ”

“อย่างนั้นเหรอ” นัยน์ตาสีเขียวฉายแววหม่นหมองแล้วเหยียดยิ้ม “พวกบ้าอุดมคติอีกคน...นั่นอะไร

จู่ๆ หัวข้อสนทนา (นินทา) ก็เปลี่ยนปุบปับ แซคมองตามปลายนิ้วที่ชี้ไปยังอะไรบางอย่างที่วางอยู่บนพื้นใกล้ๆ แล้วหยิบช็อกโกแลตแท่งบางๆ ใหญ่ขนาดฝ่ามือ ห่อด้วยกระดาษฟอยล์สีฟ้าสดที่มีลวดลายสีทองจางๆ ขึ้นมา รู้สึกว่าจะเป็นหนึ่งในของที่คลาวด์เอามาส่งเมื่อกี้

“ชิ้นนี้มาแปลก” แซคขมวดคิ้วแล้วแกะพลาสติกใสที่หุ้มอยู่ด้านนอกออก “ไม่ใส่กล่อง ไม่มีการ์ด สงสัยคนให้จะทำเอง”

“มีสิ” เซฟิรอธคว้า วัตถุต้องสงสัย จากมือแซคมาแกะกระดาษฟอยล์ที่หุ้มอยู่ออกอีกชั้น กลิ่นหอมหวานของไวต์ช็อกโกแลตสีขาวกระจายกรุ่นไปทั่วห้อง เล่นเอาแซคที่ไม่ค่อยเข้าใจอะไรนักถึงกับกลืนน้ำลายเอื้อก

เมื่อรีดฟอยล์ให้เรียบ ลายเส้นสีทองประหลาดที่เขียนด้วยมือก็ปรากฏเด่นชัด

“มันเป็นรหัส” เซฟิรอธหรี่ตาลงพลางเม้มริมฝีปากน้อยๆ อย่างครุ่นคิด

“ใครบางคนกำลังส่งข้อความถึงฉัน”


................................................

จากวันนั้น ช็อกโกแลตก็ดูเหมือนจะมีความหมายกับเซฟิรอธขึ้นมาบ้าง ทุกๆ วันชายหนุ่มจะคอยมองหาช็อกโกแลตแท่งสีฟ้าจากกองช็อกโกแลตเป็นร้อยๆ อย่างตั้งใจ แถมตอนนี้ข้างๆ โต๊ะทำงานตัวใหญ่ก็เพิ่มโต๊ะตัวเล็กเข้ามาอีกตัวสำหรับเรียงแผ่นฟอยล์ที่ได้มาเข้าด้วยกัน

...ช็อกโกแลตวันละแท่งกับรหัสแปลกๆ ที่ชายหนุ่มยังประติดประต่อความหมายไม่ได้

วันนี้..วันที่ 10 แล้ว แต่ฟอยล์ 6 แผ่นที่มีอยู่ก็ไม่ได้ทำให้เข้าใจอะไรมากขึ้น

“มันอ่านว่าอะไรน่ะ” แซคที่ถือตะกร้าใบโตเข้ามาโกยช็อกโกแลตในห้องเหมือนทุกวันเข้ามาเมียงๆ มองๆ แผ่นฟอยล์ที่วางต่อกันเป็นรูปเว้าๆ แหว่งๆ แล้วถามด้วยความสงสัย “ยังกับแผนที่ล่าสมบัติ”

“ฉันก็ยังไม่เข้าใจ” เซฟิรอธถอนใจยาว วางฟอยล์ที่ได้มาวันนี้ที่รีดจนเรียบแล้วลงในตำแหน่งที่ถูกต้องแล้วตอบตามตรง “เท่าที่ดูออก..ลายสีทองพวกนี้เป็นตัวอักษรที่เขียนตามเงาสะท้อนในกระจก แต่...ลำดับมันสลับไปสลับมา ไม่ก็ขาดๆ เกินๆ จนอ่านไม่รู้เรื่อง”

“แล้วนั่น?” หนุ่มผมเม่นละความสนใจจากกองช็อกโกแลตของโปรดมาที่แผ่นกระดาษหลายใบเขียนด้วยลายมือโย้เย้กับรูปวาดที่ถ้าไม่มีนัยน์ตาสีเขียวกับดาบยาวข้างตัวแล้ว แซคคงคิดว่าเป็นรูปตาแก่หัวหงอกสักคนที่ไม่เหมือน “เซฟิรอธ” เลยสักนิด

“จดหมายจากเด็กๆ ค่อยๆ ทะยอยส่งมาตั้งแต่เมื่อ 3 วันก่อน” เซฟิรอธย่นคิ้วให้กับรูปภาพที่ถืออยู่ในมือ รูปคนตัวเล็กๆ นับสิบคนที่ในมือถือกล่องหลากสีกำลังส่งยิ้มกว้างมาให้

“อ้อ” แซคพยักหน้าหงึกหงักแล้วเดินออกจากประตูไป ปล่อยให้เจ้าของห้องจมอยู่กับความคิดและฟอยล์ห่อช็อกโกแลตตรงหน้า

สักพักเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้นอีกครั้ง

“ลืมอะไร แซค”

เซฟิรอธถามขึ้นโดยไม่หันไปมอง แต่ความเงียบเกินกว่าจะเป็นแซคก็ทำให้ต้องหันไปมองจนได้ แต่แล้ว..คนที่อยู่หน้าประตูกลับเป็นหนุ่มน้อย เจ้าของผมสีบลอนด์นัยน์ตาสีฟ้าที่ลากเอารถเข็นใส่ของขนาดเล็กติดมาด้วย

เขาไม่ได้เจอเด็กหนุ่มอีกเลยตั้งแต่วันนั้น ในเมื่อต้องออกไปปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมายทุกบ่าย กว่าจะกลับเข้ามาอีกทีก็มืดค่ำและพบว่ากองช็อกโกแลตน่ารำคาญถูกเก็บออกไปจนหมด

...วันนี้ก็คงมาเอาช็อกโกแลตไปให้เด็กๆ เหมือนทุกวัน

“ขะ...ขออภัยครับ” คลาวด์ที่ละล้าละลังยังตัดสินใจไม่ถูกว่าควรจะเข้ามาข้างในหรือควรรีบออกไปให้เร็วที่สุดจึงจะดีรีบทำความเคารพแล้วก้มหน้างุด “ไม่ทราบว่าท่านอยู่ในห้อง”

“วันนี้ไม่มีภารกิจ.....เข้ามาสิ” เซฟิรอธพยักหน้าอนุญาตเบาๆ แล้วเดินเข้าไปใกล้กองภูเขาช็อกโกแลตกลางห้อง “ฉันจะช่วยด้วย”

ขณะกำลังลำเลียงช็อกโกแลตทั้งหมดใส่ลงในรถเข็นอย่างเงียบๆ มือใหญ่อุ่นจัดก็คว้าข้อมือเล็กมารวบกำไว้แน่น เมื่อนัยน์ตาสีฟ้าที่เต็มไปด้วยความตกใจเงยขึ้นสบ...คำถามที่ นักรบผู้ยิ่งใหญ่ไม่เข้าใจมานานก็หลุดปากออกมา

“ทำไมการให้ของแบบนี้ถึงทำให้ผู้รับดีใจได้ เธอรู้ใช่ไหม”

คลาวด์กระพริบตาปริบด้วยความงุนงงพลางมองเซฟิรอธที่ทำหน้าปั้นยากชั่วครู่ก่อนจะค่อยๆ ยิ้มออกมา

“ลองชิมดูสิครับ”

“ชิม???”

“ครับ ลองเลือกช็อกโกแลตรสที่ชอบ แล้วชิม”

“???”

สำหรับเซฟิรอธ นี่เป็นคำตอบที่ไม่คาดคิดมาก่อน แต่เมื่อจ้องลึกลงไปในดวงตาสีฟ้าที่แสนจะจริงใจและอ่อนโยนตรงหน้าแล้ว...เรื่องแค่นี้ก็คงจะพอลองทำตามได้


...นั่นสินะ ไว้พรุ่งนี้ พอแกะฟอยล์ออกแล้วอาจจะลองชิมช็อกโกแลตข้างในดูสักนิดคงไม่เสียหายอะไร


“เอ่อ...ท่าน....ท่านครับ”

เสียงคลาวด์ดังขึ้นเบาๆ ค่อยๆ เกรงใจยิ่ง

“อะไร”

“คือ...ปล่อย...ปล่อยมือผมเถอะครับ”


…………………………………………………….

“จะทำอะไรน่ะแซค”

เสียงโวยวายของคลาวด์ดังลั่นห้องพัก ก็เพิ่งกลับมาจากซ้อมวิ่งตอนเช้าแท้ๆ แต่พอเปิดประตูก้าวขาเข้าไปในห้องปุ๊บ ก็เจอโซลเยอร์เฟิร์สคลาสที่ไม่รู้ว่าเข้ามารอตั้งแต่เมื่อไหร่กระโดดเข้าชาร์จปั๊บ

“ฉันมาเอาช็อกโกแลตของฉันไง” แซคยิ้มระรื่นขณะโอบคลาวด์ตัวเล็กๆ ไว้จากด้านหลังพลางเอามือขยี้ผมสีบลอนด์ที่ละม้ายคล้ายโจโคโบะจนเป็นกระเซิงอย่างมันเขี้ยว “วันนี้วันที่ 14 กุมภา! วันวาเลนไทน์! ไหนล่ะช็อกโกแลตที่นายจะให้ฉัน”

“คิดจะแกล้งอะไรฉันแต่เช้าน่ะแซค” คลาวด์เบี่ยงตัวหลุดออกจากอ้อมแขนที่รัดเอาไว้หลวมๆ แล้วทรุดตัวลงนั่งตรงปลายเตียงเหมือนเคย “เดี๋ยวฉันต้องไปฝึกการใช้ดาบกับโซลเยอร์เทิร์ดคลาสอีกนะ”

“นายไม่มีช็อกโกแลตให้ฉันจริงเหรอ” แซคแกล้งทำหน้ายู่ยี่แล้วตีโพยตีพายน่าหมั่นไส้ “เสียใจนะเนี่ย เสียใจมากกก...”

“นายเองก็มีแฟนคลับให้มาตั้งเยอะนี่นา แล้วยังจะ...” คลาวด์กวาดตามองตะกร้าใส่ช็อกโกแลตหลายใบที่แซคไปขนมาจากห้องของเซฟิรอธแล้วเอามาหย่อนแหมะไว้ที่ห้องเขา

“แต่ฉันอยากได้จากนายนี่...” แซคยังคงงอแงไม่ยอมเลิก “ได้ช็อกโกแลตจากคนที่ชอบน่ะ..ถึงจะน่าดีใจที่สุด รู้เปล่า นี่แสดงว่า...นายไม่รักฉันเลย โฮ.....”

“แซค!!” คลาวด์ถอนใจเฮือก รับมือไม่ถูกกับท่าทางกึ่งๆ จะแกล้งทำ กึ่งๆ จะเอาจริงของเพื่อนคนนี้ “ฉันว่านายกินช็อกโกแลตที่มีอยู่ให้หมดก่อนเถอะ คงใช้เวลาอีกเป็นเดือนแน่ๆ”

“แค่นี้อาทิตย์เดียวก็เกลี้ยงแล้ว” แซคสะบัดหน้างอนๆ แล้วบ่นบู้บี้ “ฉันไม่ใช่เซฟิรอธนี่ หมอนั่นกินวันละ 3 คำ นายเห็นแผนที่มหาสมบัติบนโต๊ะในห้องหมอนั่นมั้ยล่ะ แรกๆ เซฟิรอธก็แค่แกะเอาฟอยล์ที่ห่อออกมาเท่านั้น แต่สองสามวันมานี้ไม่รู้ทำไมถึงยอมกินช็อกโกแลตข้างในด้วย ถึงจะแค่บิชิ้นเล็กๆ ออกมาชิมก็เถอะ”

“งั้นเหรอ” คลาวด์เผลอยิ้มออกมา แต่เมื่อเหลือบไปเห็นสายตาจ้องจับผิดของแซคก็รีบกลบเกลื่อนด้วยการเดินเลี่ยงไปเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบของใช้จำเป็นออกมาแล้วคว้าอะไรบางอย่างยัดใส่มือคนที่ตั้งท่าจะเอนตัวลงนอน

“ฉันต้องรีบไปสนามฝึกดาบนะแซค แล้วก็...นี่....ที่นายอยากได้”

แซคทำตาโตมองด้านหลังคลาวด์ที่เพิ่งวิ่งออกจากห้องไปแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้กับแท่งช็อกโกแลตในมือ แต่แล้ว..หัวใจของพ่อหนุ่มผมเม่นก็กระตุกอย่างแรงเพราะรู้สึกคุ้นๆ กับ ไวต์ช็อกโกแลตแท่งบางๆ ขนาดเท่าฝ่ามือ ห่อด้วยแผ่นฟอยล์สีฟ้าสดยังไงบอกไม่ถูก

ต่างกันเพียงแค่

ไม่มีลวดลายสีทองที่เขียนด้วยมือ เท่านั้นเอง....


 
......................................................

คลาวด์พยายามตั้งสมาธิให้อยู่กับการฝึกซ้อมอย่างเต็มความสามารถ

สู้กันตัวต่อตัวก็พอไหว แต่สักพักคู่ต่อสู้ก็กลายเป็นสองต่อหนึ่งเสียนี่...

แม้เด็กหนุ่มจะอดคิดไม่ได้ว่าทำไมวันนี้คู่มือแต่ละคนถึงได้ลงมือกันหนักหน่วงนัก แต่จะโทษคนอื่นอย่างเดียวก็ไม่ถูก ในเมื่อใจเขาเองก็ไม่ได้จดจ่ออยู่กับการต่อสู้ด้วยเหมือนกัน

....ทุกเช้า เขาจะเอาช็อกโกแลตที่บรรจงทำขึ้นเองอย่างสุดฝีมือไปไว้ที่หน่วยพัสดุกลางรวมกับของคนอื่นๆ เพื่อส่งต่อไปถึงเซฟิรอธ แต่วันนี้...

...ช็อกโกแลตแท่งสุดท้ายยังวางแอบอยู่ในลิ้นชักข้างหัวเตียง

สำหรับคลาวด์ ทุกสิ่งที่ทำลงไปก็เพราะต้องการดึงดูดความสนใจ แค่เซฟิรอธมองเห็นช็อกโกแลตที่เขาให้ก็ดีใจมากพอแล้ว แต่นึกไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะให้ความสนใจกับมันมากกว่าที่คาด

จะเกิดอะไรขึ้น...ถ้าเซฟิรอธรู้ความจริงว่าตัวเองถูกการ์ดโนเนมคนนึงปั่นหัวมาตลอดหลายวัน

...คลาวด์ไม่อยากถูกเกลียด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเซฟิรอธ


เพียงแค่คิด หัวใจก็พาลเจ็บแปลบขึ้นมา


เคร้ง!

เสียงดาบกระทบกันดังขึ้นเรียกสติให้รู้ว่าตอนนี้คู่ต่อสู้เพิ่มเป็นสามต่อหนึ่งเสียแล้ว วินาทีที่ดาบสั้น 3 เล่มกดน้ำหนักลงมาพร้อมกันและมากเกินกว่าที่จะต้านแรงเอาไว้ได้จนเสียหลัก ดาบยาวเล่มหนึ่งก็ตรงเข้าช่วยสะกัดเอาไว้เสียก่อน

คลาวด์ที่หลับตาปี๋ค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ เมื่อรู้สึกว่าตัวเองล้มลงไปกระทบกับร่างอุ่นๆ ของใครสักคน ซึ่งถ้าไม่ได้คนๆ นี้ มีหวังได้เลือดตกยางออกเพราะคมดาบที่ตวัดเข้าใส่แน่ๆ แต่พอจะเงยหน้าขึ้นมองว่า ผู้ช่วยเหลือเป็นใคร ก็ถูกรวบตัวเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนแข็งแรงนั่นเสียก่อน

เซฟิรอธสะบัดมาซามุเนะเก็บด้วยท่าประจำตัวก่อนจะปรายตาไปยังกลุ่มโซลเยอร์ที่ยืนหน้าซีด

“โซลเยอร์สามคนกับการ์ดหนึ่งคน ดูแล้วไม่ค่อยยุติธรรมเท่าไหร่นะ”

จากนั้นคลาวด์ก็ถูกยกขึ้นทั้งตัวแล้วกึ่งอุ้มกึ่งพยุงเข้าไปในห้องพักใกล้ๆ ก่อนจะวางลงบนเก้าอี้ยาวนุ่มตัวหนึ่ง

“ขอบคุณ..ขอบคุณครับ”

แม้จะพยายามบังคับอย่างไรก็ซ่อนเสียงที่สั่นระริกไว้ไม่มิด และถ้าเซฟิรอธไม่ช่วยพาเขาเข้ามาในนี้ ก็คงได้นั่งคลุกฝุ่นอยู่ตรงนั้นเองเพราะแข้งขาอ่อนยวบลุกไม่ขึ้น ลงท้ายคลาวด์ก็ได้แต่ก้มหน้างุด..สลดใจกับความอ่อนแอของตัวเอง

แต่แล้วเซฟิรอธกลับแบมืออกมาตรงหน้า

“ฉันต้องการฟอยล์แผ่นสุดท้าย”

คลาวด์เงยหน้าขึ้นทันที นัยน์ตาสีฟ้าสดเบิกกว้าง ปากอ้าค้างเหมือนอยากจะพูดอะไรแต่กลับไม่มีเสียงหลุดลอดออกมาจากลำคอ

เซฟิรอธพยักหน้าน้อยๆ

“ช่วงบ่ายฉันมีภารกิจ กว่าจะกลับคงค่ำ เจอกันที่ร้านกาแฟตามข้อความที่ระบุไว้ในฟอยล์สัก 2 ทุ่มน่าจะได้”

“ครับท่าน" เสียงตอบเบาหวิวจนแทบไม่ได้ยิน

เซฟิรอธยิ้มให้จางๆ แล้วเดินจากไป ทิ้งคลาวด์ที่หัวใจเต้นระรัวจนแทบหลุดออกมาจากอกไว้ข้างหลัง





Fin

12/12/2011




อ่ะ...ต่อให้อีกนิดส์




ร้านกาแฟจ้ะ

“เอ่อ...ทำไมถึงทราบครับว่าเป็นผม”

คลาวด์ใช้หลอดคนเกล็ดน้ำแข็งในแก้วช็อกโกแลตเย็นในมือขณะจ้องมองเส้นผมสีเงินยาวสลวยของคนตรงหน้าด้วยความดีใจจนปิดไม่มิด

...เซฟิรอธตอบรับคำชวนมาดื่มกาแฟกับเขา

เรื่องที่เมื่อก่อนคงได้แต่ปลอบใจตัวเองว่าเป็นได้แค่ฝันลมๆ แล้งๆ ...ก็การที่การ์ดไร้ระดับคนนึงจะได้อยู่ในสายตาของโซลเยอร์ที่เก่งกาจที่สุดของชินระน่ะ มันแทบจะไม่มีทางเป็นไปได้

...แต่วันนี้ เดี่ยวนี้ เซฟิรอธคนนั้นอยู่ตรงหน้าเขานี่

“ตอนแรกคิดว่าจะได้เจอเจ้าของรหัสถ้าไปตามเวลานัดที่บอกไว้ในฟอยล์” เซฟิรอธดื่มกาแฟอุ่นๆ รวดเดียวหมดแล้ววางถ้วยลง “แต่มีภารกิจฉุกเฉินเข้ามา ทำให้ต้องไปตามตัวแซคที่หลบไปแอบกินช็อกโกแลตอยู่ในห้องเธอ เลยได้เห็นช็อกโกแลตที่เธอให้แซคและปากกาหมึกสีทองที่วางอยู่บนโต๊ะ”

คลาวด์พยักหน้ารับเบาๆ

...เซฟิรอธแกะรหัสที่เขาเขียนไว้ในฟอยล์ได้แล้ว แต่ยังไม่รู้ตัวคนให้เพราะยังได้แผ่นฟอยล์ไม่ครบ แน่นอนว่าแผ่นที่ยังขาดไปต้องเขียนชื่อคนเขียนรหัสไว้ นั่นเป็นเหตุผลที่คลาวด์ไม่กล้าส่งช็อกโกแลตแท่งสุดท้ายให้ จนกระทั่งถูกทวง

“จะไปกันได้รึยัง”

คำถามห้วนๆ ดังขึ้นพร้อมกับที่คนพูดลุกขึ้นยืน เล่นเอาเด็กหนุ่มที่ยังนั่งยิ้มค้างสะดุ้งสุดตัวก่อนจะหน้าเสียไปสนิท ความสุขความสมหวังที่กำลังดื่มด่ำอยู่พลันหายวับ สุดท้าย..ก็ทำได้แค่วิ่งตามโซลเยอร์ในดวงใจออกไปจากร้าน

ข้างนอก..กลิ่นไอของวันวาเลนไทน์อบอวลไปทั่ว จะมองไปทางไหนก็เห็นแต่บรรยากาศสีชมพูหวานฉ่ำของคู่รักนับไม่ถ้วนที่เดินคู่กันกระหนุงกระหนิง

ร่างเล็กสะดุ้งน้อยๆ เมื่อมือใหญ่เอื้อมโอบไหล่บางรั้งเข้ามาจนชิดแล้วเลื่อนลงกุมมือเล็กไว้หลวมๆ พลางออกแรงดึงเบาๆ ให้เดินไปด้วยกัน นัยน์ตาสีเขียวกระจ่างเป็นประกายละมุนเด่นชัดขณะจับจ้องนัยน์ตาสีฟ้าที่เต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ

“ฉันยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เช้า แล้วกาแฟน่ะ..ไม่อิ่มหรอก ฉันเลยจองร้านอาหารใกล้ๆ เอาไว้ แต่ยังหาคนกินด้วยไม่ได้ เธอคงไม่ใจร้ายปล่อยให้ฉันไปกินข้าวคนเดียวในวันแบบนี้นะ”

คลาวด์กระพริบตาปริบก่อนจะค่อยๆ ยิ้มกว้างออกมาด้วยความดีใจ มือเล็กพลิกกลับประสานเข้าด้วยกันกับมือใหญ่ ซึ่งออกแรงกระชับแน่นขึ้น

“แล้ว ช็อกโกแลตของฉันล่ะ”

เสียงทวงดุๆ ทำให้คลาวด์ต้องยิ้มออกมาอีกครั้ง พลางหยิบช็อกโกแลตในกระเป๋ายื่นส่งให้

“นี่ครับ กรุณารับไว้ด้วย”

เซฟิรอธยิ้มบางๆ ขณะยื่นมือออกมารับไว้ด้วยความเต็มใจ




คราวนี้จบจริงๆ แล้วนะ ^^

เจส

เพราะฟิคที่แล้ว (
once upon a time) ขาดน้ำตาลอย่างแรง ฟิคนี้เลยโด๊ปด้วยช็อกโกแลต พยายามให้หวานขึ้นแล้วค่ะ แต่ติดที่ว่า...ยังไงดีล่ะ คือ จะถามว่าตอนจบนี่เซฟจังชอบคลาวด์คุงรึเปล่า...คงจะยังบอกให้ชัดเจนไม่ได้ เอาเป็นว่า...เซฟจังยอมรับการมีตัวตนของคลาวด์คุงแล้วมากกว่า จากการ์ดโนเนมที่อยู่นอกสายตาเฟิร์สคลาสระดับเซฟจังได้มาเป็น..อย่างน้อยที่สุดก็คนรู้จักล่ะค่ะ แต่ระดับความสัมพันธ์จะพัฒนาไปมากกว่านี้มั้ย...ยังไม่มีพล็อตค่ะ จิ้นเองกันตามใจชอบไปก่อนนะ

ตอบเมนต์

คุณคลาวด์คุงหยุดโมเอ้สัก 2 วิ จะตายมั้ย : เอ่อ...คลาวด์คงไม่ตายค่ะ แต่คนเขียนตายแน่ โดนเซฟจังเอามาซามุเนะเชือดโทษฐานทำให้แฟน (???) เขานิสัยเปลี่ยน 555+ ถ้าไม่โมเอ้ก็ไม่ใช่คลาวด์สิคะ จริงมะ

อีกอย่างเรื่อง once upon a time เป็นแค่ side story ตอนเดียวจบค่ะ แค่อยากเล่าเรื่องเพิ่มจากตามหาพี่ชายเท่านั้น คงไม่มีตอนต่อแล้วล่ะ แต่ถ้าจะเขียนต่อจริงๆ อาจจะเขียนเป็นไดอารี่บันทึกการเดินทางที่คลาวด์คุงกับเซฟจังผลัดกันเขียน แต่ก็ไม่แน่นะคะว่าจะเขียนมั้ย เพราะฟิคอื่นยังดองไว้เต็มไปหมด แล้วก็..จะได้ฤกษ์เริ่มรีไรต์ blue bonding ซะทีไง