Author : jes
Pairing : ไม่มีค่ะ เพราะขนกันมาทั้งป้อมอัศวิน
ระดับ : ปลอดภัยไร้กังวล
Disclaimer : ตัวละครทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของคุณ rabbit ค่ะ
-----------------------------------------------------------------------
โรงเรียนพระราชา เอดินเบิร์ก
ทุกๆวันผ่านไปด้วยสภาพเดิมๆ ผู้คนหน้าตาเดิมๆ วิชาเรียนเดิมๆ และอาหารเดิมๆ (??) อยู่แล้ว ยิ่งเป็นช่วงหน้าฝนอันน่าเบื่อหน่ายด้วยล่ะก็...นักเรียนก็จำต้องเผชิญกับฝนที่ตกตลอดทั้งวัน..หนักบ้างเบาบ้างติดกันมาตลอด 3 วัน สภาพแบบนี้อาจทำให้ใครบางคนที่ไม่ชอบอยู่กับความซ้ำซากจำเจถึงกับสติแตกกระเจิงได้โดยง่าย
“โว้ย! ไม่ไหวแล้ว เซ็ง ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ได้ยินมั้ยว่า.....” ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นเสียงใคร
“เออ! ได้ยินแล้วว่าแกกำลังเซ็ง ฉันก็เหมือนกัน โวยวายไปให้มันได้อะไรขึ้นมา” เจ้านักฆ่าเพื่อนซี้ที่ดูท่าแล้ว‘รมณ์บ่จอยพอดูตะเบ็งเสียงเข้าสู้
“หาอะไรหนุกๆเล่นแก้เซ็งกันดีกว่าว่ะ ป่ะ เราไปชวนคนอื่นมาแจมด้วย เกมส์นี้คนยิ่งเยอะยิ่งมันส์” อยู่ดีไม่ว่าดีเฟรินเกิดปิ๊งไอเดียบรรเจิดขึ้นมากระทันหัน แล้วก็ลากคิลตรงไปที่ห้องนั่งเล่นรวมทันที แต่ระหว่างทางกลับเจอโรเวนเข้าให้
“คิดจะทำอะไรแผลงๆอีกล่ะเรา” โรเวนดักคอไว้ก่อน
“เปล่าซะหน่อย..พี่ก็..ผมกะไอคิลจะมาชวนเพื่อนๆเล่นเกมส์แก้เซ็งกันตะหาก” เจ้าตัวดีทำเสียงออดอ้อนอย่างกลัวคำสั่งห้ามเด็ดขาดจากเสธ.ซ้ายของป้อมฯ
หากแต่.....กลายเป็นว่า....
“เกมส์เหรอ น่าสนใจนะ ฝนตกๆอย่างนี้น่าเบื่อจะตาย เล่นอะไรล่ะ เดี๋ยวเอารายงานไปเก็บที่ห้องแป๊บนึงแล้วจะตามไปที่ห้องนั่งเล่นรวมแล้วกัน” โรเวนสั่งแล้วเดินแยกไปอีกทาง...ทำให้เจ้าชายน้ำแข็งก้อนที่เดินสวนทางมาถึงกับงง
‘สงสัยความเบื่อจะทำให้คนเราเกิดอาการเพี้ยนได้’ คาโลคิดเบาๆในใจแล้วเดินตามเฟรินกับคิลไปห้องนั่งเล่นรวมอย่างว่าง่าย (ฉันว่านายเองก็เพี้ยนไปกับเขาด้วยเหมือนกัน – เจส / ฮื่อ ฉันก็ว่างั้น – คาลี่)
“เฮ้! พวกเรา..สดชื่นกันหน่อยเด้ อะไรกัน..ทำท่ายังกับก้อนเต้าหู้ย่นๆ” เจ้าตัวดีที่โผล่หน้าเข้าไปปุ๊บก็ส่งเสียงปั๊บเมื่อเห็นผองเพื่อนชาวป้อมอัศวินแต่ละคนท่าทางสลดหดหู่ นั่งซึมอยู่บนเก้าอี้มั่งตามพื้นห้องมั่ง
“หุบปากไปซะ คนกำลังทั้งเบื่อทั้งเซ็ง” สุดห้าวอย่างครี้ด ธันเดอร์ คงจะเคยพูดเสียงเนือยๆเป็นครั้งแรกในชีวิตก็วันนี้แหละ
“ทำไมเหลือกันอยู่แค่นี้ล่ะ เหลือใครมั่งนี่...มีมาทิลด้า เรน่อน แองจี้ โร กัส ซีบิล ครี้ด นิกซ์ อาชูร่า เอ็ดเวิร์ด” คิลนับจำนวนคนที่อยู่ในห้อง
“คุณคิลจะให้พวกเราทำอะไรเหรอครับ” ซีบิลถามขึ้นอย่างมีความหวัง
“ฉันว่าจะมาชวนเล่นเกมส์ซะหน่อย แต่มีแค่ 13 คนเอง” เจ้าตัวต้นคิดบ่นบู้บี้
“ฉันมีมาเพิ่มอีก 6 คน พอมั้ย” เสียงโรเวนดังขึ้นก่อนจะตบเท้านำทีมไธนอส ลอเรนซ์ ลูคัส ชิวาสและโซมาเนียที่เพิ่งไปเกณฑ์พลเข้ามา
“ง่า..ก็รวมเป็น 19 คน ดีครับพี่ ไม่มากไม่น้อย” เฟรินกลืนน้ำลายลงคอดังเอื๊อก (พวกพี่คิดจะมาเล่นเกมส์หรือจะมาถล่มพวกผมกันแน่เนี่ย - น้องๆ)
“20 คน ฉันเล่นด้วย” อาเธอร์ที่ไม่รู้มาจากไหนอยู่ดีๆก็ทำหน้าตายเดินเข้ามารวมกลุ่มกับเขาด้วยซะงั้น (มาทำอะไรที่ป้อมอัศวินนี่ไม่ทราบ – โรเวน / ก็แวะมาเก็บค่าใช้จ่ายที่ป้อมนายติดตัวแดงอยู่อ่ะดิ แล้วเลยติดฝนอยู่ในป้อมโทรมๆแถวนี้– อาเธอร์)
“เอาล่ะ...เราจะเล่น ปิดตาซ่อนหากัน” เฟรินประกาศชื่อเกมส์ที่เพิ่งคิดได้สดๆร้อนๆ
“เกมส์อะไรของนาย เกิดมาไม่เคยได้ยิน” คาโลรีบปรามเจ้าตัวยุ่งก่อนจะริเริ่มทำอะไรก่อปัญหา
“เล่นแล้วไม่ตายแน่นา” ขนาดคิลคุงยังลังเล
“ผมเล่นครับ” เสียงสนับสนุนเสียงแรกเป็นของหนุ่มน้อยซีบิลที่เบื่อการไม่มีอะไรทำเต็มทนเอ่ยสวนกระแสขึ้นมาทันที
“เออ จะอะไรฉันก็เล่น” ครี้ดชักกระฉับกระเฉงขึ้นมาหน่อย
“นั่นดิ เล่นยังไง ต้องใช้ของกินด้วยมั้ย” อาชูร่าถามด้วยนัยน์ตาแวววับ
“ฉันเล่น” โรบอกสั้นๆ ข้างๆกันเป็นกัสกับเอ็ดเวิร์ดที่พยักหน้าหงึกหงัก
“คืองี้...เราต้องจับฉลากเอาตัวแทนมา 2 คนเอาผ้าปิดตาซะ ส่วนคนที่เหลือก็ให้ซ่อนตัวอยู่แค่ในห้องนี้ ห้ามออกไปไหน และพอคนถูกปิดตาเริ่มออกเดินหาเมื่อไหร่ก็ห้ามขยับตัวหรือเปลี่ยนที่เด็ดขาด พอคนปิดตาเดินไปเจอใครเข้าก็ห้ามเปิดตาออกดู ให้แค่จับๆแตะๆ..ลูบๆคลำๆเอาเท่านั้น แล้วให้ทายชื่อคนที่จับได้ออกมา ใครทายถูกมากกว่าก็ชนะไป” เจ้าตัวยุ่งอธิบายกติกาฉอดๆ
“เล่นๆ เล่นเลย” เสียงดังมาจากกลุ่มรุ่นพี่ที่เอาแต่เงียบตลอดเวลาที่อยู่ในห้อง เจ้าของเสียงแว่นตาเป็นประกายเลยล่ะ
“นายคิดจะทำอะไร ลูคัส ไหนว่าจะเข้ามาดูเฉยๆ” ไธนอสดักคอซาตานเล่นเพราะหมั่นไส้ไอท่าทางกระดี๊กระด๊าของมันเต็มทน (มองหน้าก็รู้แล้วว่ามันคิดอะไรอยู่ – ไธนี่)
“ไม่รุ พูดแล้ว ลืมแล้ว” ซาตานทำเฉย “ตกลงเล่นนะ เล่นๆ”
“ฉันถอนตัว” โซมาเนียตัดสินใจ เพราะดูแล้วเกมส์นี้ผู้หญิงดูท่าจะไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่
“พวกฉันด้วย” สามสาวนางฟ้ารีบชิ่งตามรุ่นพี่ทันที “แต่ไม่ต้องห่วงนะ พวกเราจะเป็นกรรมการกับคอยอำนวยความสะดวกให้” เจ้าแม่มาทิลด้ารับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะ ขณะที่โซมาเนียไปซุบซิบอะไรกับแองจี้และเรน่อนก่อนจะหัวเราะกันคิกคัก (ชักไม่น่าไว้ใจแฮะ – เฟรี่)
“งั้นก็เหลือ 16 คน มีใครถอนตัวอีกมั้ย ไม่มีนะ อ่ะ..จับสลากชื่อคนที่ต้องปิดตามา 2 ชื่อ” เฟรินที่ไม่ยอมให้มีอะไรมาขัดขวางเกมส์นี้ได้เป็นอันขาด...รีบเขียนชื่อทุกคนที่เหลือใส่กระดาษชิ้นเล็กๆ ม้วนแล้วเอาใส่ถ้วยชาเปล่าๆที่ฉวยมาจากมือโรแล้วยื่นให้เรน่อน
“คนที่ต้องปิดตานะคะ คนแรก...ลอ เอ่อ..รุ่นพี่ลอเรนซ์” เรน่อนหยิบม้วนกระดาษที่อยู่บนสุดออกมาคลี่อ่าน
“อีกคนก็..คาโล..คาโล วาเนบลี” แองจี้เอามือควานลงไปในถ้วยแล้วหยิบม้วนกระดาษที่อยู่ข้างล่างขึ้นมาอีก 1 ม้วน
“ทั้ง 2 คนตามฉันมาทางนี้เลย” โซมาเนียตรงเข้ามาฉุดกระชากลากถูลอเรนซ์กับคาโลไปที่มุมห้อง ดึงปลอกแขนแสดงตำแหน่งผู้คุมกฏของตัวเองกับของลอเรนซ์ออกมาผูกตาคนทั้งคู่ไว้แล้วตะโกนบอกลูกทีม “เอ้า! สาวๆ ทำตามอย่างที่คุยกันเลย”
“ได้เลย นาย...ซีบิลมาทางนี้” มาทิลด้าลากแขนซีบิลที่ยังงงๆไปข้างหลังห้อง
“คุณคิล คุณคิลคะ” เรน่อนยิ้มหวานให้จนเจ้านักฆ่าไม่มีมาดหน้าแดงก่ำไปหมด แต่พอเห็นของที่อยู่ในมือเจ้าหญิงคนงามแล้ว คิลก็ชักอยากร้องไห้ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
“อ่า รุ่นพี่...ถือว่าเล่นสนุกด้วยกันเถอะนะคะ” แองจี้เข้าไปยิ้มแหยๆให้...ติ้ด...(เซ็นเซอร์)
“เอาสิ ไม่เป็นไร” 2 รุ่นพี่ที่ชักมันส์ติดลมยิ้มให้อย่างใจดีแล้วนั่งลงยอมให้รุ่นน้องจัดการกับตัวเองได้ตามสบาย
“ทุกคนเตรียมตัว อีก 5 นาที จะเริ่มเล่นแล้ว” โซมาเนียประกาศเสียงดังฟังชัด ทำให้เจ้าพวกทโมนทั้งหลายรีบค้นหาจับจองที่ๆตัวเองจะซ่อนตัวกันยกใหญ่ หารู้ไม่ว่าทั้งลอเรนซ์และคาโลที่ถูกผูกตาอยู่ชักเริ่มเครียดขึ้นมาตะหงิดๆ
“คาลี่” เสียงลูคัสโฉบไปโฉบมาอยู่ข้างหู “ฉันอยู่หน้าเตาผิง ห้ามเธอไปแถวๆนั้นเด็ดขาด เข้าใจ๋ แล้วเฟรี่อยู่ตรงประตู”
น่าน...เริ่มมีการตุกติกเล็กน้อยเกิดขึ้น แต่ดูเหมือนข้อเสนอจะได้รับการสนองอย่างเต็มใจ
“พร้อมนะ” โซมาเนียพาคาโลกับลอเรนซ์มาตรงกลางห้องเมื่อเห็นว่าทุกคนเข้าประจำที่เรียบร้อย
“บอกไว้ก่อนว่า เพื่อความปลอดภัย...ห้ามใครใช้เวทย์หรือใช้อาวุธอะไรก็ตามเด็ดขาด ขอให้จำไว้”
โซมาเนียจับลอเรนซ์หมุนตัวไปรอบๆ 3 รอบพร้อมกับที่มาทิลด้าก็จับคาโลหมุนตัว 3 รอบเท่ากัน
“เริ่มได้”
ท่ามกลางความมืดและความมึนจากการหมุนตัวเมื่อกี๊ทั้งลอเรนซ์และคาโลต่างก็เซกันไปเล็กน้อยแล้วต่างคนต่างก็ค่อยเริ่มคลำทางกันไป (คิดถูกรึเปล่าที่ยอมเล่นเกมส์นี้เนี่ย – ลอรี่ / ประตู ๆ ๆ ๆ ประตูอยู่ทางไหน – คาลี่)
เสียงใครขยับตัวอยู่ทางซ้าย
ลอเรนซ์เดินไปพลางยื่นมือออกไปข้างหน้า...เจอแล้ว...
ผมสั้น...
ตัวเล็ก...
แว่นตา.....
อาฮะ...ได้การล่ะ
“เอ็ดเวิร์ด...เอ็ดเวิร์ด ลอเรนโซ่” ลอเรนซ์พูดชื่อออกมาอย่างมั่นใจ
“ถูกต้อง” โซมาเนียพูด เล่นเอาเอ็ดเวิร์ดที่ยืนตัวลีบพิงข้างตู้หนังสือใบใหญ่ทำหน้างอเพราะถูกจับได้เป็นคนแรก
เดินไปอีกหน่อยลอเรนซ์ก็โชคร้ายเสียหลักล้มลงเพราะชนเข้ากับเก้าอี้ แต่ก็มีโชคดีที่ปนๆอยู่ในนั้น...เจอใครอีกคนแล้ว เจ้านี่นั่งหดแขนหดขาพยายามทำตัวให้กลมเป็นลูกบอลแล้วซุกอยู่กลางกองหมอนนับสิบใบที่เจ้าตัวเอามาสุมๆบังๆตัวเองไว้
คนนี้...ทั้งบ่าทั้งไหล่กว้าง
ผมสั้น...ตัวโต
ไม่ไธนอสก็ชิวาส หรือจะเป็นอาเธอร์?
มือใหญ่ได้รูปเลื่อนไปประคองที่ใบหน้า....ไม่มีหนวด
“ชิวาสรึเปล่า” ลอเรนซ์เดา
“ผิดค่า” แองจี้ตะโกนบอกมาจากมุมห้อง
“หมดสิทธิ์ทายใหม่ หาคนต่อไปเลย” โซมาเนียช่วยสำทับจนลอเรนซ์ต้องยอมปล่อยคนที่อยู่บนเก้าอี้แล้วพยายามตะเกียกตะกายลุกขึ้นให้ได้ แต่ไม่รู้ก้าวผิดเหยียบถูกอะไรเข้าเลยเซถลาไปข้างหน้าเพราะหาอะไรจับยึดเป็นที่ทรงตัวไม่ได้เลย ...ดีที่มือใครบางคนช่วยคว้าเอวเอาไว้ทันก่อนที่นักบวชผู้น่าสงสารจะกลิ้งเข้าไปในเตาผิง...ยังรู้สึกได้ถึงไอร้อนจากเปลวไฟที่ปะทุวูบเข้ามาใกล้ๆอยู่เลย
พอเท้าเหยียบพื้นแล้วพอจะทรงตัวได้ ลอเรนซ์ก็กอดคนข้างๆหมับเข้าให้
อยากเข้ามาช่วยเอง...คิดหนีจากลอเรนซ์คนนี้เรอะ.....ไม่มีทาง ยากส์
จากแขนที่เหนี่ยวคอไว้ทำให้รู้ว่าคนตรงหน้าสูงพอๆกันกับตัวเอง มือขวาเริ่มสัมผัสตั้งแต่ผมสั้นนุ่มๆ ตามมาด้วยผิวหน้าเรียบ ดวงตาเรียวยาวกระพริบปริ๊บๆ เลื่อนมือลงมาอีกหน่อยก็เป็นริมฝีปากบางที่ยิ้มแย้ม...เอ ชักคุ้นๆยังไงบอกไม่ถูก... เพราะความที่อยู่ใกล้กันมาก...มากจนรู้สึกถึงการขยับตัวเต้นของหัวใจกับเสียงหัวเราะเบาๆในลำคอ เมื่อเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย..กลิ่นหอมอ่อนๆของแชมพูสระผมก็ลอยมาเตะจมูก
คำตอบเริ่มปรากฏชัดเจนขึ้นมาในใจ....
เอาล่ะ วิธีพิสูจน์ขั้นสุดท้าย สาธุ ขออย่าให้เป็นเจ้านั่นเล้ย ลอเรนซ์สวดภาวนาแล้วแข็งใจจับมือคนตรงหน้าขึ้นมา..อ่านะ..ลูบๆคลำๆ...เพราะไม่รู้จะทำอะไรได้มากไปกว่านี้
มือเรียวสะอาด เล็บเจียนมนเรียบร้อย มือที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเรียกสัตว์เวทย์ที่แข็งแกร่งออกมาได้
ลอเรนซ์ปล่อยมือทิ้งแล้วรีบเดินหนีทันที แต่แค่ขยับตัวออกห่าง...มือที่เพิ่งถูกสะบัดทิ้งก็คว้าชายเสื้อดึงไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
“อะไรกัน ทั้งลูบทั้งคลำขนาดนั้นยังไม่รู้อีกเหรอว่าใคร..หา ลอเรนซ์” โรเวนที่จับตาดูอยู่ (เหมือนกับคนอื่นๆในห้อง) อดรนทนเงียบอยู่ไม่ไหวต้องส่งเสียงออกมาถามไถ่พร้อมกลั้นหัวเราะกึกๆอย่างไม่กลัวว่าจะทำให้ตัวเองถูกจับได้
“ช่างฉัน” ลอเรนซ์แผดเสียง “แล้วแกจะดึงเสื้อฉันไว้ทำไมลูคัส ปล่อย...”
“ถูกต้องแล้วค่ะ” เรน่อนร้องบอกเสียงดังพลางหัวเราะอย่างอดไม่อยู่
“ดีใจจัง ลอรี่ทายเค้าถูกด้วย” รู้สึกว่าซาตานจะเป็นปลื้มสุดแสนที่ทำให้อีกฝ่ายหลุดพูดชื่อตัวเองออกมาได้สำเร็จ (แหม...ถ้าได้มีการลูบๆคลำๆลอรี่คืนด้วยล่ะก็จะดีมากกกกกกก - ลูคี่)
“แก...ลูคัสฝากไว้ก่อนเถอะ” นักบวชอาฆาตแล้วสะบัดหน้าออกหา‘เหยื่อ’รายต่อไป
“คาโล เฮ้! ทำแต้มบ้างสิ พี่ลอเรนซ์ได้ไป 2 คนแล้วนะ มัวแต่งมโข่งหาอะไรอยู่ เดี๋ยวก็แพ้หรอก” มาทิลด้าตะโกนเร่งคาโลที่พยายามทำตัวเป็นจิ้งจกด้วยการเดินเกาะกำแพงไปเรื่อยๆเพื่อหาประตูให้เจออยู่นั่นแล้ว
‘เอา...ช่วยไม่ได้’ คาโลตัดใจเมื่อเห็นว่าลอเรนซ์เริ่มทำคะแนนทิ้งห่าง
เมื่อกี๊เสียงโรเวน...ดังมาจากทางไหน
ทางขวา...ก็...โซฟาริมห้อง
ชัวร์
เพราะมีกำแพงเป็นจุดเริ่มต้นทำให้เจ้าชายน้ำแข็งพอจะจับทิศทางได้ง่ายกว่าลอเรนซ์ที่เดินค่อนข้างสะเปะสะปะ ก็แค่เดินเกาะกำแพงย้อนกลับไปนิดเดียว มือที่ควานออกไปรอบตัวก็แตะเข้ากับโซฟาตัวยาว ยื่นมือเข้าไปใกล้อีกหน่อยก็เจอคนนั่งอยู่...หนึ่ง..ไม่สิ สองคน
เป็นรุ่นพี่แน่ๆ เพราะตัวโตทั้งคู่
หนึ่งในนี้ต้องเป็นโรเวน แต่...คนไหน ทายผิดก็ไม่ได้ด้วยสิ
‘เสร็จกัน’ คาโลอุทานในใจอย่างนึกไม่ถึง เมื่อฝ่ามือสัมผัสกับศีรษะที่โล้นเลี่ยนเตียนโล่ง
2 คนนี่ไม่มีผมทั้งคู่ แถมยังนั่งเฉยทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ได้เนียนสนิทอีกตะหาก...ก็นะ..คนที่ทำแบบนี้ได้ในห้องนี้มีแค่ 2 คนเท่านั้น คาโลยิ้มน้อยๆก่อนจะตอบ
“เจ้าชายโรเวน ฮาเวิร์ดกับเจ้าชายอาเธอร์ บริสตั้น”
ทั้งห้องเงียบไปชั่วครู่ก่อนที่โซมาเนียจะตัดสินชี้ขาด
“ถูกครึ่งเดียว บอกมาด้วย...คนไหนโรเวน คนไหนอาเธอร์ ตอบผิดอดหมด”
จนได้สิน่า...เอาเถอะ ระหว่างสองคนนี่มีข้อแตกต่างกันอยู่ 2 อย่าง
....ริมฝีปากกับมือ....
เริ่มจากคนทางซ้ายก่อน...ตามด้วยคนทางขวา
รอยยิ้มของโรเวน...เจ้าเล่ห์แต่ดูเผินๆเหมือนจริงใจ ยิ้มของอาเธอร์...เย้ยหยันแต่ก็แฝงความซื่อตรงเอาไว้ไม่น้อย
มือโรเวนได้รูป นุ่ม อบอุ่นตามแบบฉบับของนักวางแผนชั้นดี แต่มืออาเธอร์ใหญ่ เกร็ง แข็งแกร่งอย่างที่ผู้จับดาบออกศึกควรจะเป็น
รู้แล้ว....
“เจ้าชายโรเวนอยู่ทางซ้าย เจ้าชายอาเธอร์อยู่ทางขวา” คำตอบมั่นใจสุดๆ
“ถูกต้อง” สองเจ้าชายที่นั่งท่าเดียวกันแล้วยังนั่งคู่กันบนโซฟาตัวยาวริมห้องร้องประสานเสียงกันลั่นขณะยกมือขึ้นดึงเอาแผ่นยางบางๆสำหรับใช้ปลอมตัวที่แองจี้ขอให้ติดไว้ออกจากศีรษะ
“ต่อๆ ไปต่อเลย” อาเธอร์ที่นึกสนุกไปด้วยขนาดลงทุนโกนหนวดออกยิ้มกว้างแล้วช่วยจับคาโลหันไปทางที่มีคนอยู่..ก่อนที่เจ้าชายไอซ์ซี่จะเดินชนเข้ากับผนังห้อง
คลำทางต่อมาอีกนิด คาโลก็เดินชนอะไรขนาดใหญ่แต่นุ่มๆ หยุ่นๆเข้าสักอย่าง แล้วเจ้าสิ่งนั้นก็ร้องออกมา
“โอ๊ย!”
‘เหมือนเสียงซีบิล’
เขาควานมือออกไปรอบๆตัว ‘ซีบิลแน่ๆ แต่...ทำไมหาไม่เจอล่ะ อยู่ตรงไหน แล้วเมื่อกี๊มันตัวอะไร...ใหญ่ๆ นุ่มๆ...เอ....ช่างเถอะ”
คาโลเดินตรงไปเรื่อยๆก่อนจะชนเก้าอี้แล้วล้มโครมลงไปตรงที่ลอเรนซ์เคยล้มมาก่อนหน้านั้น ดีที่มีกองหมอนนับสิบใบรองรับเอาไว้ ไม่งั้นคงได้เจ็บตัวกันบ้าง...ไม่สิ...มีคนเจ็บตัวแล้วล่ะ ก็เจ้าคนที่ขดกลมซุกอยู่ใต้กองหมอนนั่นไง...
ระหว่างที่รื้อเอาหมอนออกไป มือก็แตะโดนคนๆนั้นไปด้วย
ผมสั้น...ตัวโต
ทั้งบ่าทั้งไหล่กว้าง....
รุ่นพี่อีกแล้ว...เหลือใคร...ไธนอสกับชิวาส
ก่อนหน้านี้ลอเรนซ์ตอบชื่อชิวาสผิดไปหนนึงแล้ว แต่นี่จะใช่คนๆเดียวกันกับที่ลอเรนซ์ทายเมื่อกี๊รึเปล่า..
สักครู่...ความลังเลก็หมดไป ก็คนๆนี้น่ะ..ยังสามารถขดกลมเป็นลูกบอลยักษ์อยู่เฉยๆได้โดยไม่มีขยับเขยื้อนเลยนี่...แสดงว่าไม่จุก ขนาดโดนน้ำหนักของคาโลโถมทับลงไปหมดทั้งตัวก็ยังไม่ร้องสักแอะแสดงว่าต้องเป็นคนที่แข็งแรงมากๆ ถ้าเทียบกันระหว่างไธนอสกับชิวาสแล้ว.....
“พี่ไธนอส...ไธนอส ทิลดอล”
“ทายถูกซะแล้ว นึกว่าจะอยู่ได้นานกว่านี้ซะอีก” ไธนอสขยับขึ้นนั่งตัวตรง แต่ขาคงไปตวัดพลาดโดนใครเข้า เพราะได้ยินเสียงไธนอสหลุดปากขอโทษออกมาเบาๆ แม้ไม่รู้ชื่อ...แต่ก็พอรู้ล่ะน่าว่าแถวๆนั้นยังมีใครอยู่อีกคน
อยู่หนายยยยยยยย…….
คาโลที่ลงทุนบุกเข้ามาควานหาเป้าหมายในดงเก้าอี้นวมนับสิบตัวตรงกลางห้องชะงักไปนิดเมื่อได้ยินเสียงลอเรนซ์ที่อยู่อีกมุมหนึ่งร้องโวยวายขึ้นมา
“ใครขัดขาฉันน่ะ ปล่อยเดี๋ยวนี้ บอกให้ปล่อย”
“แค่ขาโต๊ะน่าลอเรนซ์ เท้านายไปขัดกับขาโต๊ะเข้า ถอยออกไปทางซ้ายนิดนึงก็จะพ้น” โซมาเนียตอบกลับมาพร้อมกับเสียงกลั้นหัวเราะดังกึกกักอยู่รอบๆห้อง…
“เชอะ” ลอเรนซ์ยักไหล่ไม่สนใจ
เชื่อมะ...แค่เสียงกลั้นหัวเราะเบาๆเมื่อครู่นี้ ทำให้คนที่ชักชินกับการอยู่ในความมืดพอจะคาดเดาตำแหน่งที่‘เหยื่อ’น่าจะอยู่ได้
นักบวชกับเจ้าชายน้ำแข็งแอบยิ้มน้อยๆด้วยกันทั้งคู่
สักพักก็ได้ยินเสียงลอเรนซ์เรียกชื่อ โร เซวาเรส ที่ลากเอาเก้าอี้ 3 ตัวมาหันหลังชนกันแล้วเอาตัวเองเข้าไปหลบอยู่ในช่องว่างตรงกลาง...ขนาดผมม้าที่เป็นเอกลักษณ์ประจำตัวยังถูกเสยขึ้นไปเอากิ๊ปติดไว้ แต่สงสัยว่าวันนี้โชคจะไม่เข้าข้างเจ้าห้องสมุดเคลื่อนที่สักเท่าไหร่ หรือไม่ก็เพราะเกมส์ที่คนอย่างเฟรินคิดขึ้นมันต้องอาศัยดวงมากกว่ามันสมองก็ไม่รู้เหมือนกัน...เพราะทันทีที่ลอเรนซ์ยื่นมือเข้าไปในช่องว่างระหว่างพนักเก้าอี้เพื่อเช็กดูว่าเผื่อมีคนแอบอยู่ก็คลำเจอเอากิ๊ปติดผมเจ้ากรรมเข้าให้พอดี
“ใช่แล้ว” มาทิลด้าเป็นคนตะโกนเฉลยให้
ในเวลาไล่เลี่ยกันอีกไม่นาน ลอเรนซ์ก็ทายชื่อ อาชูร่า เอพริล ถูกอีก ด้วยเหตุหลง่ายๆว่าได้กลิ่นคุ้กกี้ช็อกโกแลตลอยมาจากทางมุมห้อง (ก็นั่งอยู่ว่างๆไม่มีอะไรทำ อาจังเลยกินไปพลางๆอ่ะ พี่ลอเรนซ์นี่จมูกดีชะมัด – อาชูร่า / นายเห็นฉันเป็นอะไรไม่ทราบ พูดมาดีๆนะ - คนจมูกดี)
ไม่ได้การ...ต้องรีบทำแต้มบ้างแล้ว
ปังๆๆ
เสียงทุบโต๊ะฝีมือมาทิลด้าเจ้าเก่าดังขึ้น
“ทุกคนฟังทางนี้ ชิวาสอยู่ไหน...ไปพบมหาปราชญ์เลโมธี ด่วน” โซมาเนียเบรกเกมส์ให้ทุกคนได้หายใจหายคอกันบ้าง...ด้วยการเรียกให้ชิวาสลุกออกไปจากห้อง เล่นเอาชิวาสที่กระโดดขึ้นไปยืนอยู่กลางโต๊ะตัวใหญ่และกว้างชนิดที่รับรองว่าถ้าคาโลกับลอเรนซ์ยื่นแขนออกมาหมายจะเอื้อมจับหรือควานหายังไงก็ไม่มีทางเจอตัวคนที่อยู่บนนั้นแน่อนนอกจากว่าจะปีนโต๊ะตามขึ้นไปอย่างเดียว...ถึงกับถอนหายใจเฮือกอย่างบูดสนิท แต่ทำไงได้ล่ะ (ใจร้ายยยยยยยย...อาจารย์ใจร้ายอะไรอย่างนี้ โซมี่ไปด้วยกันมั้ย – ชิววี่ / ไม่...ฉันจะเล่นเกมส์ – โซมี่)
เมื่อชิวาสออกไปแล้ว ทุกอย่างก็กลับเข้าสู่สภาพปรกติ
เกมส์เริ่มดำเนินต่อไป......
คาโลกลับไปค้นหาเป้าหมายที่น่าจะนั่งเก้าอี้อยู่แถวๆนี้ต่อ....เจอแล้ว
สิ่งแรกที่แตะโดนคือผมนุ่ม..ยาว..หยักน้อยๆ แน่นอนว่ามันพันกันยุ่งเหยิงจนแทบไม่เป็นทรงอย่างที่เขาเห็นประจำจนเจนใจ
‘ผมยาว’ คนผมยาวที่ยังไม่ถูกเจอตัวมีอยู่คนเดียว....
ไหนลูคัสว่าอยู่แถวๆประตูไง ทำไมมาอยู่ตรงนี้
โดนซาตานหลอกเข้าแล้วล่ะสิ...
เมื่อแน่ใจว่าอีกฝ่ายนั่งบนเก้าอี้...คาโลก็ย่อตัวคุกเข่าลงเพื่อให้ความสูงของคนทั้งคู่เสมอกัน มือเรียวเลื่อนลงมาแตะบริเวณใบหน้าที่เอาแต่ก้มงุดๆ จะเพราะอะไรก็ตามเจ้าตัวพยายามค่อยๆสัมผัสอย่างเบามือที่สุด เหมือนเด็กที่กลัวจะทำให้ตุ๊กตาตัวโปรดเป็นรอยเสียหาย...คิ้วเรียวรับกับจมูกโด่งและริมฝีปากบาง จากปลายนิ้วที่ปัดผ่านเบาๆทำให้รู้ว่าคนข้างตัวกำลังยิ้ม
“เฟ...” เสียงที่ฉาบด้วยความรู้สึกอ่อนหวานจากหัวใจกำลังจะหลุดจากปากเจ้าชายแห่งคาโนวาลแต่มีอันต้องชะงักเพราะเสียงอึกอักเหมือนจะร้องไห้ก็ไม่ใช่หัวเราะก็ไม่เชิงของคนตรงหน้า..ลงท้ายคนทายชื่อเลยเปลี่ยนไปใช้น้ำเสียงแบบทั้งเข้มทั้งดุแทน
“คิล....คิลมัส ฟิลมัส” คาโลกระชากเสียงอย่างทั้งขำทั้งโกรธ....แต่ก็ไม่ยอมเสียคะแนน
“ใช่ค่ะ” เรน่อนที่ลงมือแปลงโฉมคิลด้วยวิกผมและเครื่องสำอางด้วยตัวเองร้องกรี๊ดอย่างโดนใจจริงๆ เรียกเสียงฮาครืนจากพวกคนที่ถูกจับได้แล้วและเสียงหัวเราะแบบหงุงๆหงิงๆของคนที่ยังซ่อนตัวอยู่ มีแต่เสียงหัวเราะก๊ากๆๆๆๆไม่สมหญิงของใครบางคนเท่านั้นแหละที่ดังกลบเสียงคนอื่นชนิดที่สะกดคำว่าเกรงใจไม่เป็น
“ไม่ตลกเลยนะ” คาโลเสียงเครียด
“ฉันก็ไม่ตลกว่ะ แต่เพื่อเรน่อน..ฉันทำได้ทุกอย่าง แล้วไปๆมาๆเลยชักมันส์ไปด้วย” เจ้านักฆ่าไม่มีมาดสารภาพแล้วกระตุกวิกผมยาวที่ทำให้เจ้าตัวทั้งร้อนทั้งรำคาญออกสะบัด
“คาโลเอ๊ย ฉันล่ะนึกว่าแกจะเสร็จไอคิลมันแล้วซะอีก ตั้งท่าซะยังกะจะขอสาวแต่งงาน ฮ่า ๆ ๆ ๆ...” เสียงตัวปัญหายังลอยมากวนหัวใจไม่เลิก
“นายรู้ได้ไงว่าเป็นฉัน” คิลสงสัย
“ไม่ยาก..ก็แป้งที่หน้า..อีกร้อยวันพันปีฉันก็ไม่คิดว่าคนบางคนจะใช้ของแบบนี้เป็น แล้วที่สำคัญนายมีกลิ่นสะอาดเกินไป คนที่ชอบวิ่งผ่านน้ำน่ะไม่มีกลิ่นสบู่ติดตัวหรอก แล้วสบู่ยี่ห้อนี้ก็เมดอินซาเรส” คาโลเอาคืนด้วยการบรรยายเหตุผลเป็นฉากๆ เสียงฮาตึงถึงได้ดังขึ้นซ้ำอีกรอบ
“แกว่าฉันตัวเหม็น? ” เจ้าตัวดีถามเสียงสูงปรี๊ดดดดดดด รู้สึกเหมือนถูกสบประมาทอย่างแรงทั้งๆที่มันอาจเป็นความจริงก็ได้
“หรือไม่ใช่ แน่จริงยื่นมือมา” คาโลท้าทายกลับไป
ไม่น่าจะมีใครโง่พอที่จะโต้ตอบ
แต่คนๆนั้นต้องไม่ใช่เฟรินที่ลืมตัว...ขยับออกจากหลังบานประตูห้องนั่งเล่นรวมที่ซ่อนตัวอยู่แต่แรก อาศัยความไวโบกมือไปมาใต้จมูกคนสบประมาท
แต่....
น้ำแข็งเจ้าเล่ห์คอยทีอยู่แล้ว...
แค่หัวขโมยยื่นมือมาใกล้ๆเจ้าชายก็คว้าข้อมือฉับแล้วออกแรงรั้งเอาคนตัวเล็กกว่าเข้ามาหา
มือซ้ายที่ตรึงข้อมือบางๆไว้แน่นคลายออก..เปลี่ยนเป็นประคองใบหน้าเล็กๆนั้นไว้แทน...ทำให้รู้ว่าเป็นใบหน้ารูปไข่ที่มีผิวเนื้อเนียนละเอียดซ้ำยังไม่เคยถูกแป้งหรือครีมบำรุงผิวใดๆมาก่อน มือขวาที่ไม่ได้อยู่เฉยๆก็ลองดึงผมนุ่มแต่ค่อนข้างพันกันยุ่งนั้นเบาๆให้แน่ใจว่าเป็นของจริง แล้วค่อยเลื่อนมือลง...ผ่านหน้าผากมนลงมาที่ดวงตา..ผ่านม่านขนตางอนยาวที่กระพริบถี่ๆจนเจอรอยแผลเป็นจางๆใต้ตาข้างซ้าย ไล่ลงมาริมฝีปากบางที่เม้มตึงจนแทบจะเป็นเส้นตรง..บอกให้รู้ว่าเจ้าของกำลังอารมณ์ไม่ดีที่เสียรู้จนพลาดโดนจับได้ มือลดระดับต่ำลงมาอีกเรื่อยๆจนถึงลำคอ...หยุดนิ่งอยู่อีกชั่วอึดใจก่อนจะปล่อยมือออกอย่างเสียดายนิดๆ
“เฟริน เดอเบอโรว์ เดอะทีฟ ออฟ บารามอส...เฟลิโอน่า เกรเดเวล เดอะพรินเซส ออฟ เดมอส” ฉายาทั้งเก่าและใหม่ถูกขานแบบเต็มยศออกมาจากคนที่เพิ่งออกโหมดเจ้าชายน็อตหลวมชั่วคราว
“ถูกๆ” โซมาเนียพยักหน้าหงึกๆ
“เออ..จะชื่อไหนมันก็คนเดียวกันล่ะวะ” เจ้าหญิงหัวขโมยแยกเขี้ยวแล้วสะบัดหน้ากระทืบเท้าถอยห่างออกไป (แกก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นฉัน ยังจะมาจับๆแตะๆหาอะไรอีก – เฟริน / เดี๋ยวผิดคน – คาโลที่แก้ตัวไปน้ำขุ่นคลั่ก / แน่นา รู้นะคิดอะไรอยู่ – เพื่อนๆคนอ่าน)
“นิกซ์ พรินส์วิล” เสียงลอเรนซ์ดังขึ้นที่อีกฟากของห้อง เมื่อนักบวชลองก้มลงควานหาเหยื่อตามใต้โต๊ะแล้วไปเจอเอากล่องเครื่องดนตรีคู่มือที่นิกซ์ทั้งรักทั้งหวงแบบว่าไม่เคยยอมให้อยู่ห่างจากสักลมหายใจ ก็นะ..เจอเครื่องดนตรีแล้วทำไมจะไม่เจอตัวคนเล่นที่นอนแอบอยู่ใต้โต๊ะ...เสร็จไปอีกหนึ่ง
“ใช่แล้วค่ะ” เสียงแองจี้ตอบรับ
นักบวชยังพยายามใช้เซ้นส์ค้นหาไปเรื่อยๆ จนมาหยุดอยู่ที่โซฟาตัวยาวริมห้องที่โรเวนกับอาเธอร์ลุกออกไปแล้ว เดินตรงไปอีกนิด...ก็ได้ยินเสียงถอนใจกับรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆของใครบางคนลอยมากระทบ ลอเรนซ์ยื่นมือออกไปทางทิศนั้นทันที
“อะไรอยู่ตรงนี้...นุ่มๆ...เหมือนตุ๊กตาผ้าตัวเบ้อเริ่ม...แล้วมันมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง ทุกทีไม่เห็นมีนี่” ลอเรนซ์เป็นงงแล้วอ้าแขนออกโอบเจ้าอะไรสักอย่างตัวใหญ่ๆนั่นไว้
โชคเข้าข้าง...แขนไปพาดโดนจมูกใครเข้า ไม่ใช่แค่จมูก...แต่เป็นใบหน้าทั้งหน้าเลยต่างหาก
ยังไม่เจอใครอีก....ครี้ด ธันเดอร์ ซีบิล สเวนกับกัส โทนีย่า
เพราะเจอส่วนใบหน้าอยู่แค่นั้น ลอเรนซ์เลยต้องสัมผัสไปให้ทั่วๆ
หมอนี่...
ไม่ใช้ผ้าปิดตา ...ไม่แน่อาจถอดออกก็ได้
ผิวหน้าเรียบไม่มีรอยแผลเป็น
ที่สำคัญ...ยิ้ม
“ซีบิล สเวน” ลอเรนซ์ขอเดาอีกครั้งแต่ด้วยความมั่นใจเกินครึ่ง
“ถูกค่ะ” มาทิลด้าหัวเราะชอบใจ “รุ่นพี่เก่งจัง”
“งั้นคุณมาทิลด้าจะให้ผมถอดเจ้าชุดเพนกวินนี่ออกได้รึยัง...” หนุ่มน้อยแสนสุภาพที่ถูกมาทิลด้าบังคับให้ใส่ชุดมาสค็อตเพนกวินตัวโตสีดำสลับขาวส่งเสียงอ้อน...ฟังคล้ายๆคนใกล้จะขาดใจอยู่รอมร่อ ก็ทั้งเนื้อทั้งตัวถูกห่อไว้ในชุดขนสัตว์หนาเตอะเหลือแค่ใบหน้าโผล่ออกมาจากช่องเล็กๆใต้จงอยปากเพนกวินหน่อยเดียว ตอนนี้คงทั้งร้อนทั้งหนักเอาเรื่อง
“อย่าเพิ่งถอดเลย น่ารักดีออก น่านะซีบี้นะ” ลูคัสที่ถูกใจเอามากๆร้องห้าม
“นั่นสิ ฉันยังไม่เห็น รออีกหน่อยแล้วกัน” ลอเรนซ์ร่วมด้วยช่วยแกล้ง
ใครจะไปนึก...ตอนนี้ซีบิลทำหน้าบูดเหมือนอย่างที่เห็นลอเรนซ์ทำเปี๊ยบ...เล่นเอาพี่ๆเพื่อนๆโดยเฉพาะมาทิลด้าที่เป็นต้นคิดหัวเราะจนปวดท้องไปหมด
ระหว่างที่ทุกคนกำลังสนใจกับ‘เพนกวินหน้าบูด’ที่พยายามเดินกระต้วมกระเตี้ยมไปยังหน้าต่างบานที่อยู่ใกล้ที่สุดก่อนจะทำท่ากระพือปีกพั่บ ๆ ๆโบกลมให้โชยเข้ามาปะทะใบหน้าอย่างเอาเป็นเอาตายนั้น...
คาโลก็ทายชื่ออัศวินตาเดียวได้ถูก
“ครี้ด ธันเดอร์”
“เออ...ฉันเอง” ครี้ดผู้อุตสาหะแยกส่วนหุ่นชุดเกราะอัศวินขนาดเท่าคนจริงที่ตั้งประดับไว้บนแท่นข้างเตาผิงออกเป็นชิ้นๆแล้วเอามาใส่เข้ากับตัวเองก่อนจะขึ้นไปยืนวางท่าให้เหมือนที่หุ่นเคยทำ แต่ก็ไม่วายพลาดโดนคาโลจับโดนเข้าตรงหัวเข่าที่ไม่มีเกราะหุ้มเข้าให้แล้วยิ่งพอคลำเจอผ้าปิดตาอีกอย่าง...งานนี้ก็จบกัน
เหลืออีกคนเดียว.....
เจอแล้ว....
“กัส โทนีย่า”
“กัส โทนีย่า”
ทั้งลอเรนซ์และคาโลประสานเสียงขึ้นพร้อมกัน
“เมื่อไหร่ ใช่กัสที่ไหน ลอเรนซ์...นายปล่อยมือจากไหล่คาโล ส่วนคาโลก็ปล่อยแขนลอเรนซ์ซะ” โซมาเนียลงมาฮากลิ้งอยู่กับพื้นห้องเหมือนกับอีกหลายๆคนที่มีอาการไม่ต่างกัน เมื่อเห็นคนตาบอด 2 คนแจ็กพอตเดินมาชนกันเองเข้าแล้วแต่ละคนก็พยายามยื้อยุดฉุดกระชากอีกฝ่ายอย่างเอาเป็นเอาตาย
“อ้าว”
ทั้งเจ้าชายและนักบวชอุทานลั่น เมื่อรู้สึกตัว....ต่างก็รีบปล่อยมือออกจากกันแล้วเริ่มต้นแข่งกันตามล่าเหยื่อรายสุดท้ายที่ไม่รู้ว่าซ่อนตัวอยู่ตรงไหนต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น (เกือบไป เกือบได้เป็น‘ทอล์คออฟเดอะทาวน์’เรื่องใหม่แล้วมั้ยล่ะ – ลอรี่ / ดีที่รู้ว่าเหลือกัสอยู่คนเดียว ไม่ต้องลูบๆคลำๆก็ทายได้ ขืนทำแบบนั้นมีหวังถูกงูฉก ตะขาบกัด เหยี่ยวจิกแหงๆ – คาลี่)
“นี่ ลอเรนซ์ คาโล ตอนนี้เธอ 2 คนคะแนนเท่ากันอยู่นะ เพราะงั้นใครเจอกัสแล้วทายได้ก่อนจะเป็นผู้ชนะ” โซมาเนียที่ลองนับคะแนนดู...ตะเบ็งเสียงบอกคนทั้งห้องให้รู้โดยเฉพาะสองหนุ่มที่ถูกปิดตา
เอาล่ะสิ...เมื่อกลายเป็นอย่างนี้ไป คนทั้งห้องก็แบ่งออกเป็น 2 ฝ่ายกันอย่างชัดเจนตามแต่ว่าตัวเองถูกใครจับได้ ไม่ช้า...เสียงตะโกนเชียร์ เสียงบอกทิศทางให้เดินก็ดังขึ้นโหวกเหวก
“คาโล...ไอคาโล ซ้ายโว้ยซ้าย....เออๆพอแล้ว ตรงไป...ตรงไปอีก ไม่ใช่..ขวาอีกหน่อย....มากไป ถอยกลับมาอีกนิด...” เจ้าหญิงเตาหลอมเริ่มออกบัญชาการชี้นิ้วสั่งเจ้าชายน้ำแข็งเหยงๆ
“ลอรี่...ห้ามแพ้เด็ดขาด กลับหลังหัน..ใช่ๆ เดินไปทางขวา 45 องศา หลบเก้าอี้นิดนึง ไม่เป็นไรๆ ลุกขึ้นเดินต่อเร็ว ขวา ขวา ขวา ขวาอีก” เสียงลูคัสตะโกนดังลั่นอย่างไม่ยอมน้อยหน้าเหมือนกัน
ทีนี้...เสียงคนอื่นๆที่อยากช่วยแบบหวังดีประสงค์ร้ายก็ดังขึ้นผสมโรงกันอย่างเมามัน (สนุกอ่ะ ยังกะเล่นวอร์เกมส์ล่าสังหาร – อาเธอร์ที่โดนใจสุดๆ)
สุดท้ายเวรกรรมก็มาตกหนักอยู่ที่คนปิดตาที่น่าสงสารทั้งคู่ที่เดินตามคำบอกกันให้วุ่น....ซ้ายมั่ง ขวามั่ง ตรงไป...เลยหกล้มหกลุก ชนโน่นคะมำนี่กันไปตามระเบียบ
ถึงอย่างนั้นก็อึดกันทั้งคู่ ไม่มีใครยอมแพ้ใคร......
กัส...คนพูดน้อยแต่มีฝีมือดาบเยี่ยมยอดไม่สมกับตัวที่เล็กบางเกือบจะคล้ายผู้หญิง
อยู่ไหนนะ....
สักพักใหญ่ๆ
“เจอแล้ว...กัส โทนีย่า อยู่นี่” เสียงเรียกชื่อกัสที่ขึ้นไปนั่งพิงขอบหน้าต่างบานใหญ่ไว้แล้วเอากระถางต้นไม้แถวๆนั้นมาเรียงเป็นบังเกอร์ขวางหน้าไว้ดังขึ้น
“เฮ...” เสียงเฮดังสนั่นดังขึ้นจากลูกทีมฝ่ายคนที่ทายถูกแล้วได้คะแนนสุดท้ายไปครอง
“ถูกต้องนะค้า...เอ้า...เจอครบทุกคนแล้ว....เอาผ้าผูกตาออกได้เลย” แองจี้ร้องบอกเป็นสัญญาณว่าเกมส์จบแล้ว
ลอเรนซ์กับคาโลกลับคืนสู่แสงสว่างอีกครั้ง...ด้วยความโล่งใจ
“นับคะแนนกัน แหม...จริงๆไม่ต้องนับก็ได้ ก็รู้กันอยู่ แต่สักหน่อยเถอะนะ ถือว่าเป็นการตอกย้ำความพ่ายแพ้ ฮิ ๆ ๆ ๆ” โซมาเนียหัวเราะร่วนแล้วพยักหน้าให้กรรมการผู้ช่วย
“พี่ลอเรนซ์ทายได้...เอ็ดเวิร์ด พี่ลูคัส โร อาชูร่า นิกส์แล้วก็ซีบิล” แองจี้อ่านรายชื่อที่จดไว้
“เป็น 6 คน” มาทิลด้าบอกจำนวนเหยื่อที่เสร็จลอเรนซ์ ดอร์น นักบวชแห่งแอเรียส
“ส่วนคาโล” แองจี้อ่านต่อ “พี่โรเวน เจ้าชายอาเธอร์ พี่ไธนอส คิล เฟริน ครี้ด และกัส”
“ 7 คน คาโลชนะ” โซมาเนียที่เป็นกรรมการใหญ่ประกาศตัวผู้ชนะท่ามกลางเสียงปรบมือจากลอเรนซ์และทุกๆคนที่ร่วมเล่นเกมส์ด้วยกัน
“เย้...” เฟรินกับคิลออกท่าเต้นแร้งเต้นกาแล้วกระโดดเข้ามาจับมือคาโลที่เอาแต่ยิ้มน้อยๆให้เต้นไปรอบๆด้วยกัน
“เลิกแค่นี้ใช่มั้ย ฝนหยุดแล้ว ฉันจะได้กลับ” อาเธอร์มองไปนอกหน้าต่าง
จริงๆฝนหยุดตั้งนานแล้วต่างหากล่ะ แต่ท่านหัวหน้าปราสาทขุนนางทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเพราะห่วงเล่นมากกว่า โด่เอ๊ย!
“ยัง พี่ ยังไม่หมดแค่นี้” เจ้าตัวยุ่งที่ริเริ่มเกมส์ยิ้มกริ่ม
“คนแพ้ต้องถูกลงโทษด้วย”
คำพูดนี้เล่นเอาลอเรนซ์สะดุ้งโหยงแล้วหันไปนิ่วหน้าใส่เจ้าตัวต้นความคิด
“นั่นสิ คนแพ้ก็ต้องถูกลงโทษตามระเบียบ” โรเวนผู้มีไอเดียการทำโทษอันบรรเจิดกลับเห็นด้วยซะอย่างนั้น
เมื่อเสธ.ซ้ายเผด็จการลงมติโดยไม่ถามความเห็น อย่างผู้คุมกฏจะคัดค้านอะไรได้....ก็ต้องปล่อยตามน้ำไป
เฟรินคว้าถ้วยชาที่ใส่ม้วนกระดาษรายชื่อไว้มาเขย่าแล้วส่งให้โรเวน พอไม่มีใครเห็นก็ขยิบตาให้เล็กน้อยเป็นการบอกใบ้เล็กๆ
“หยิบชื่อมาอีก 1คน แล้วออกคำสั่งตามใจพี่แล้วกัน” เจ้าตัวแสบรีบกันตัวเองออกมาจากเรื่องยุ่งๆที่มีทีท่าว่าจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า
“เอางี้ดีกว่า ให้เจ้าชายอาเธอร์เป็นคนจับแล้วกันเพราะไหนๆก็อยู่เล่นเกมส์ด้วยกันจนจบ ส่วนฉันเอาเป็น...ให้ลอเรนซ์หอมแก้มคนๆนี้” โรเวนยิ้มกว้าง..รับถ้วยมาส่งต่อให้อาเธอร์
ตอนนี้ลอเรนซ์ชักหน้าบูดหนักกว่าปรกติ น้องๆก็ส่งเสียงครวญครางออกมากันอย่างพร้อมเพรียงสวนกระแสกับเสียงกรี๊ดอย่างถูกอกถูกใจของโซมาเนียและสามสาวนางฟ้า
“ให้ฉันจับเหรอ..ได้” อาเธอร์ที่ไม่มีใครรู้ว่าไปแทคทีมด้วยกันกับโรเวนตั้งแต่เมื่อไหร่ยักคิ้ว เอานิ้วควานลึกลงไปในถ้วยชาแล้วใช้เทคนิคพิเศษหยิบเอาม้วนกระดาษที่ตัวเองซ่อนไว้ในแขนเสื้อออกมาแทนอย่างแนบเนียนสุดๆก่อนจะส่งให้โซมาเนียรับไปคลี่ดู
“ลูคัส...ลูคัส ซาโดเรีย...ยินดีด้วย” โซมาเนียอ่านชื่อไปพร้อมหัวเราะกิ๊กๆไปจนแทบจะฟังไม่รู้เรื่อง แต่เจ้าพวกทโมนที่ตั้งใจเงี่ยหูฟังอยู่พากันร้องฮือออกมาพร้อมกันอย่างโล่งอกแล้วหัวเราะขำกับท่าทางดีใจเหมือนเด็กเล็กๆของซาตานและท่าช็อกสนิทจวนสติแตกของนักบวช (ม่ายยยยย...มันต้องมีอะไรผิดพลาดสักอย่าง พระเจ้าจอร์จช่วยลูกช้างด้วย – ลอรี่ / ไม่มี มือระดับพวกฉันแล้วจะมีอะไรผิดพลาดได้ยังไง ไม่มีทาง ฮ่า ๆ ๆ ๆ ลอเรนซ์เอ๋ย...ยอมหอมแก้มเจ้านั่นซะดีๆเถอะ – โรเวนแอนด์อาเธอร์)
“ง่า...ฉันทำอะไรผิดไปรึเปล่านี่” อาเธอร์ยังมีหน้ามาทำเป็นไร้เดียงสาถามคำถามที่ไม่ค่อยฉลาดเท่าไหร่แต่ถูกใจ (คนเขียนและคนอ่าน) ชะมัด (ประท้วงๆๆ..ทำไมไม่ให้ฉันแพ้ แล้วได้หอมแก้มเฟ..เอ่อ..น่ะ มั่งล่ะ – คาโล / ก็ลำเอียงไง คนเขียนมันลำเอียงอ่ะ - เจส)
“โอ้! แต้งก์หลาย อาตี้” ลูคัสที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรแต่อยู่ดีๆก็ได้ส้มหล่นยิ้มหน้าบานก่อนจะถอดแว่นตาออกอีกครั้งหลังจากถอดออกตอนที่ลอเรนซ์เข้ามาจับตัวไว้ตอนแรกพร้อมทำแก้มป่อง...ยื่นมาให้
“ลงมือได้เลย” แน่ะ...เร่งซะอีก
ใครก็ตามที่ไม่ได้ชื่อลูคัส...พากันถอยกรูดดดดดดดดดดดดดด...ออกไปอยู่ห่างๆ เพราะไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในวินาทีประวัติศาสตร์ต่อจากนี้
ท่ามกลางความประหลาดใจของทุกคน ลอเรนซ์เดินเข้าไปยืนประจันหน้ากับลูคัสอย่างคนที่ตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว...พลางคลี่ยิ้มน้อยๆให้ แล้วยกแขนขึ้นโอบรอบคอคนตรงหน้าอย่างช้าๆ สองมือประคองใบหน้าคนที่เบิกตาค้างอย่างลืมตัวเพราะความนึกไม่ถึงให้จ้องมองตรงมาไม่ขยับหนีไปไหน ดวงหน้าเกลื่อนรอยยิ้มของนักบวชเลื่อนเข้าไปใกล้ยิ่งขึ้นจนห่างกันอยู่ไม่ถึงคืบแล้วเลื่อนไปบริเวณแก้ม...ก่อนที่จะ
พยานทั่วทั้งห้องเงียบกริบ....ไม่มีแม้สียงหายใจ
“ชาติหน้าเถอะแก ! ! !”
ลอเรนซ์ ดอร์น มีเสียงอยู่เท่าไหร่เป็นเค้นออกมาตะโกนใส่หูคนข้างๆให้ได้ยินชนิดแก้วหู กระดูกค้อน ทั่ง โกลนสั่นเป็นเจ้าเข้า...เล่นเอาซาตานแข้งขาอ่อนยวบทรุดลงไปนั่งกับพื้น...ขี้หูเกือบกระโดดออกมาเต้นระบำได้
ฮา.....ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
เสียงหัวเราะจากคนนับสิบดังสนั่นจนผนังห้องกับเพดานสั่นสะท้าน
“ลอรี่...ฮือ ๆ ๆ ๆ ลอรี่ใจร้ายยยยย” ลูคัสสะบัดหัวไล่ความมึนไปพลางงอแงไปพลาง แต่ยังลุกไม่ขึ้น
“เฮอะ...” ลอเรนซ์สะบัดหน้าที่ขึ้นสีเรื่อจางๆแทบมองไม่เห็น “จบเกมส์แค่นี้...ไม่มีอะไรต่อแล้ว” พูดจบก็เดินโครมๆแทรกผ่านซีบิลกับกัสที่ยืนขวางประตูอยู่ออกจากห้องไปเป็นคนแรก โดยไม่เหลียวหลังมาดูซาตานที่ถูกประทุษร้ายเลยแม้แต่นิด
เอ้า...จบก็จบ เลิกก็เลิก แต่แค่คราวนี้เท่านั้นนะ
เพราะว่า....
“นี่...ถ้าคราวหน้าเล่นเกมส์นี้อีกอย่าลืมไปตามฉันด้วยล่ะ” อาเธอร์สั่งเสีย
“ได้” โรเวนรับคำ “เรายังเหลืออีกคู่นึงที่ยังไม่ได้ทำโทษนี่เนอะ ฉันว่าคราวหน้าเปลี่ยนกติกาเป็นคนชนะถูกทำโทษบ้างดีกว่า...”
ประโยคสุดท้ายถูกใจคาโลเป็นอย่างยิ่ง
ตอบลบกัส ชอบนายจริงๆ
นั่งฮาอยู่คนเดียว..
ตอบลบ