5/10/54

FF7 advent children: Cloud & Lightening

Author : jes

Pairing :
เซฟจัง x คลาวด์คุง (คิดว่า..คงเขียนคู่นี้ได้คู่เดียว ขออภัยแม่ยกคู่อื่นด้วย)

Disclaimer :
ตัวละครเป็นลิขสิทธิ์ของ square enix ค่ะ ฟิคนี้เกิดจากการวิวาทะกันอย่างรุนแรงของเจสกับเพื่อนในประเด็นว่า....ถ้าต้องเลือก 1 คนระหว่างคลาวด์คุง ff7 กับเจ๊ไลต์ ff13 จะเลือกใครดี (มีคนบอกว่า...โนมุระซัง(มั้ง)ให้สัมภาษณ์ว่า เจ๊ไลต์คือคลาวด์ภาคสาวงามง่ะ) ลงท้ายก็เห็นตรงกันคือ..ถ้าคลาวด์จะอัพเกรด (?) เป็นเจ๊ไลต์ ก็ไม่ควรอัพเกรดความห้าว เท่ บู๊กระจายวายวอดตามไปด้วย มันทำให้ต่อมโมเอ้มันทำงานไม่เป็นปรกติ เพราะงั้นถ้าคลาวด์คุงจะเป็นสาวงามทั้งที มันก็ต้องโมเอ้แบบคลาวด์ๆ เหมือนเดิมแหละดีแล้ว แต่...คนเขียนเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า...ทำไมถึงลงเอยด้วยฟิคนี้เนี่ย

ปล. อาจจะมีคนไม่ชอบแนวเรื่องแบบนี้ แต่ก็นะคะ...เขียนไปแล้วอะ

Intro :  ความลงทุนของคลาวด์ที่ยอมแปลงร่างเป็นเจ๊ไลต์นิง เพราะอยากไปเจอเซฟิรอธในงานเลี้ยง
ปล. ตอนเขียนฟิคนี้คนเขียนกำลังเห่อเจ๊ไลต์อย่างออกนอกหน้า แต่ว่านายเอกของเราคือคลาวด์ เพราะงั้นถึงหน้าตาจะเป็นเจ๊ไลต์แต่ก็โมเอ้แบบคลาวด์
ปล.. ฟิคนี้เพื่อน (คนเดียวกับที่พูดถึงข้างบน) รีเควสต์มาว่าอยากได้แบบอ่านแล้วเบาหวานกำเริบตายไปข้างนึง แต่...โทษทีเพื่อน เขียนได้แค่นี้ เดี๋ยวยั้งไม่อยู่แล้วมันจะกลายเป็นฉาก nc ไป (อย่ามาหลอกให้เขียนซะให้ยาก)

***เหตุการณ์ต่อจาก ฟิค Secret present ค่ะ ถ้ายังไม่ได้อ่านอาจไม่เข้าใจเนื้อเรื่องบางช่วงได้

-----------------------------------------------------------------------


ค่ำคืนนี้...

ห้องโถงกลางขนาดใหญ่ของตึกชินระถูกปรับเปลี่ยนใหม่ให้เป็นบอลรูมสุดหรูสำหรับจัดงานเลี้ยงรับรองตามคำสั่งของลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของท่านประธาน ขณะนี้คราคร่ำไปด้วยแขกเหรื่อมากมาย ทั้งนักการเมือง นักลงทุน นักธุรกิจชั้นนำมากหน้าหลายตา และบรรดาเซเลบชื่อดังที่ต่างตกปากรับคำเชิญมาร่วมงานกันอย่างพร้อมเพรียง รวมไปถึงโซลเยอร์ทุกระดับคลาสที่ได้รับอนุญาตแกมบังคับให้ต้องมาร่วมงานนี้ทุกคน

จนกระทั่ง...ใครคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น วินาทีนั้นทุกสิ่งพลันหยุดนิ่ง ความเงียบเข้าครอบคลุมอยู่ชั่วอึดใจ...และสายตาเกือบทุกคู่ในห้องต่างจับจ้องไปยังจุดๆ เดียวกัน

ร่างสูงดูจะชินชาเสียแล้วกับการเป็นจุดสนใจที่ไม่ว่าใครก็จับตามอง แต่สำหรับร่างเล็กบางที่เดินคู่มาด้วยแล้วมันไม่ต่างอะไรจาก ฝันร้ายดีๆ นี่เอง จึงไม่น่าแปลกใจที่เจ้าตัวจะเอาแต่ก้มหน้างุดเหมือนไม่อยากให้ใครสังเกตเห็น เท้าก็เริ่มก้าวช้าลงๆ จนเริ่มทิ้งระยะห่าง ท่าทางก็เหมือนอยากจะวิ่งหนีออกไปให้พ้นๆ

แต่แล้ว...ร่างทั้งร่างก็เซวูบ ไม่รู้ว่าเพราะรองเท้าส้นสูงเจ้ากรรมที่ใส่อยู่ทำพิษหรือเพราะฝ่ามือใหญ่ อุ่นจัด ที่เลื่อนมาโอบสะโพกไว้แล้วรั้งเบาๆ ให้เข้าไปใกล้ๆ กันแน่

“ยิ้มหน่อย เร็ว” เสียงทุ้มต่ำที่เจือความสนุกสนานอย่างไม่ปิดบังกระซิบเบาๆ ให้ได้ยินกันแค่สองคน แล้วยกมือขึ้นหยิบปอยผมสีบลอนด์ที่หลุดลุ่ยออกมาจากวิกขึ้นทัดข้างหูให้

..................................................................


เมื่อวาน....


“ไม่”

“ฉันขอปฏิเสธ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ และไม่ ยังไงก็ไม่ ได้ยินมั้ย ห๊า...”

เสียงตวาดแว้ดดังลั่นลอดออกมาจากห้องพักเล็กๆ ของพลทหารชั้นการ์ด ตามมาด้วยเสียงตึงตังดังโครมครามหนักๆ สักสองสามทีก่อนที่ทุกอย่างจะกลับเข้าสู่ภาวะปรกติ

“ชู่ว์ เบาๆ หน่อย” เสียงเจ้าหนุ่มหัวเม่นที่ยืนซ้อนอยู่ด้านหลังกระซิบกระซาบเบาๆ ที่ริมหู “เดี๋ยวการ์ดห้องอื่นเค้าก็ตื่นขึ้นมาได้ยินเรื่องที่เราคุยกันหมดหรอก”

“แซค”  

คลาวด์ที่ดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอดหลวมๆ ยอมลดเสียงลง นัยน์ตาสีฟ้าสดเบิกกว้างขณะหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้ากับ โซลเยอร์เฟิร์สคลาสเพื่อนซี้ ที่ขณะนี้ยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนแทบจะรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ที่เป่ารดข้างแก้ม ก่อนยกมือขึ้นอังที่หน้าผากคนตรงข้ามแล้วไล่ต่ำลงมาที่ซอกคอ

“นายป่วยไปแล้ว ใช่..นายต้องกำลังไม่สบายแน่ๆ ไม่สบายมากๆ เลยด้วย ยังไงไปหาหมอ.....”

“ฉันสบายดี” แซคตวัดเสียงขึ้นจมูกพลางทำหน้ายู่ยี่ขณะลากตัวเจ้าของห้องที่เมื่อกี้ตั้งท่าจะกระโจนหนีออกทางประตูกลับเข้ามาข้างใน วางคลาวด์หย่อนแหมะลงไว้ที่ปลายเตียงแล้วคลายอ้อมแขนออก แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่ยอมปล่อยข้อมือเล็กบางที่ตัวเองยังรวบกำไว้แน่น

“แต่รับรองว่าพรุ่งนี้ต้องป่วยแน่..ถ้านายไม่ยอมทำตามที่ฉันขอร้อง คิดดู...หล่อเลือกได้อย่างแซค แฟร์ ต้องไปงานเลี้ยงคนเดียวโดดเดี่ยว ใครรู้เข้ามีหวังหัวเราะเยาะตาย แล้วแบบนี้ฉันจะมีหน้าไปเจอใครที่ไหนได้อีก นายก็น่าจะเข้าใจนี่นา”

คลาวด์มองคนตรงหน้าแล้วกะพริบตาปริบๆ ด้วยความไม่เข้าใจ

...ใช่ เขาได้ยินเต็มสองหู และไม่..เขาไม่เคยคิดเลยว่าแซคจะพูดอะไรอย่างนั้นออกมา

“ถ้าแค่หาคนควงไปงานด้วยไม่ได้ ทำไมไม่ลองชวนใครสักคนล่ะ แฟนคลับนายก็ออกเยอะแยะ คนสวยๆ ที่ชื่อมิเชลนั่นก็ได้”

“ไม่ได้ ไม่ได้ ไม่ได้”

เมื่อเห็นว่าคลาวด์ยอมอยู่เฉยๆ แต่โดยดี แซคเลยได้ใจลงไปนอนแผ่หรากลางเตียงอย่างเคยเงยหน้าขึ้นมาสั่นหัวดิกพลางทำหน้าย่นหนักกว่าเก่า

“ถ้าฉันชวนมิเชล รับรองว่า..นาตาชา เฮเลน่า อาเรียเน่ เมลิสซา แล้วก็มาริลีน ต้องไม่พอใจแน่ ดีไม่ดีทุกคนยัวะจัดพาลขอเลิกคบกันหมด เหลือไว้แต่ยัยมิเชลคนเดียวก็แย่สิ แล้วถ้ายัยนั่นเกิดบ้าจี้ลุกขึ้นมาทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของฉันอีกล่ะ แค่คิดก็สยองแล้ว”   

“เอ่อ...ถ้างั้น...ก็ชวนไปให้หมดทุกคนเลยสิ เค้าไม่ได้บอกให้พาไปได้แค่คนเดียวนี่นา”

“นั่นก็ไม่ได้เหมือนกัน” แซคยักไหล่ “ฉันขี้เกียจมานั่งคอยดูแลเทคแคร์ทีละหลายๆ คน ขี้เกียจฟังเสียงดังเจี๊ยวจ๊าวน่ารำคาญ ที่สำคัญขี้เกียจเป็นกรรมการห้ามศึกถ้าเกิดการทะเลาะ ตบตีกันขึ้นมา”

“ถ้างั้น....ถ้างั้น....”

คนคิดหาวิธีเอาตัวรอดเริ่มหัวหมุน ชักมึนกับสารพัดสารพันข้ออ้างข้างๆ คูๆ ที่อีกฝ่ายแถไถไถลเถลือกไปได้เรื่อยๆ


...ไม่อยากไปคนเดียว ไปสองคนก็ไม่เอา ยิ่งไปหลายๆ คนยิ่งไม่ได้ใหญ่


...เฮ้อ!


“แล้วนายจะเอายังไงล่ะแซค”

คนที่คิดสะระตะวนไปเวียนมาหลายรอบจนยอมรับว่าจนปัญญาแล้วถามขึ้น

“ฉันถึงมาขอร้องนายไง” พ่อเม่นที่เห็นว่าสถานการณ์ชักเริ่มเข้าข้าง รีบดีดตัวผึงเดียวลุกขึ้นนั่งแล้วโถมเข้ามากอดคอคลาวด์ไว้ “นายจะใจดำไม่ช่วยฉันจริงๆ เหรอ”

“ก็นายจะจับฉันใส่กระโปรงนี่นา” คลาวด์ทำเสียงเหมือนลูกโจโกโบะแสนน่าสงสารที่ใกล้จะขาดใจตายเต็มทีเพราะถูกไล่ต้อน “ฉันเป็นผู้ชาย แซค ทำอะไรแบบนั้นมันน่าอายจะตายไป”

“นายไม่พูด ฉันไม่พูด แล้วใครจะรู้ น่านะ...นะ..” เมื่อรู้ว่าใช้ไม้แข็งไม่ได้ผล มันก็ต้องลองใช้ไม้อ่อนดูบ้าง

“ทีแอบไปสวีตหวานกับเซฟิรอธสองต่อสอง ยังไปได้เลย แล้วทำไมจะไปงานเลี้ยงกับฉันไม่ได้”

“แซค มันไม่จริงเลยนะ!

คราวนี้เสียงลูกโจโกโบะเปลี่ยนมาเป็นมีโมโหกรุ่นๆ แต่ใบหน้ากลับขึ้นสีระเรื่อ

“วันนั้นเซฟิรอธเลี้ยงข้าวเย็นฉัน แล้วฉันก็ไม่ได้ทำอะไรเลย แค่ไม่ได้ใส่ชุดเครื่องแบบก็เท่านั้น”

เรื่องราวของ สุดยอดโซลเยอร์ในตำนานผู้ไม่เคยมีข่าวคราวใดๆ กับผู้หญิงคนไหนมาก่อนแอบควงสาวน้อยหน้าใสไปกินข้าวเย็นด้วยกันในวันวาเลนไทน์ กลายเป็นข่าวลือกระหึ่มให้ได้ซุบซิบกันทั่วมิดการ์ที่กว่าจะซาไปได้ต้องใช้เวลาร่วม 2 เดือน แต่ก่อนหน้านั้นก็เล่นเอาสาวๆ ค่อนเมืองออกมารวมกลุ่มตามล่าศัตรูหัวใจกันให้ควั่ก พอกันกับหนุ่มๆ อีกนับไม่ถ้วนที่ยอมทุ่มสุดตัวแลกกับการได้เห็นหน้าค่าตาคนที่ทำให้เซฟิรอธ ยอมสยบสักแวบ  

...เขาไม่เข้าใจจริงๆ ว่าไอคนที่ไปเห็นเข้าตอนนั้นตาลาย เมา หรืออยากหาเหาใส่หัวตัวเองกันแน่ถึงมองเด็กผู้ชายให้กลายเป็นหญิงสาวไปได้

“นั่นไงล่ะ” แซคยิ้มระรื่น “แค่นายใส่ชุดธรรมดา คนอื่นเค้าก็ดูไม่ออกแล้ว ถ้าแต่งแบบฟูลคอสใครที่ไหนจะจับได้ ....อีกอย่างนะ ไม่อยากเจอเซฟิรอธแล้วเหรอ คนดังอย่างหมอนั่นต่อให้ไม่ชอบงานเลี้ยงแค่ไหนยังไงก็ต้องได้รับคำสั่งให้ไปร่วมงานอยู่แล้วล่ะ ทีนี้นายจะได้นั่งดูยืนดูหมอนั่นให้เต็มอิ่มไปเลย ดีออก”

เจ้าเม่นจอมเจ้าเล่ห์แอบซ่อนสีหน้าปิศาจร้ายไว้ใต้หน้ากากเทวดาแนบเนียน มองดูโจโคโบะตัวน้อยที่ออกอาการตั้งท่าจะกระโดดลงหลุมดักที่ขุดล่อไว้โดยใช้เซฟิรอธเป็นเหยื่อล่อชั้นเยี่ยม

พอหมดเรื่องช็อกโกแลต...ทั้งคลาวด์และเซฟิรอธก็ไม่มีเหตุอะไรให้ต้องเกี่ยวข้องกันอีก โลกของทั้งสองคนเหมือนแยกขาดออกจากกันอย่างสิ้นเชิง ในเมื่อการ์ดอย่างคลาวด์ต้องอยู่ในสนามฝึก ส่วนโซลเยอร์อย่างเซฟิรอธก็ดูมีธุระไม่ก็ภารกิจวุ่นวายอยู่ตลอดเวลา ท้ายที่สุดแล้วคลาวด์ก็ทำได้แค่เหลือบมองอีกฝ่ายยามที่เซฟิรอธเดินผ่านสนามฝึกไม่ก็กำลังขึ้นรถเพื่อไปปฏิบัติภารกิจเท่านั้น

...ที่สำคัญ งานเลี้ยงคราวนี้พวกการ์ดไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วม พวกโซลเยอร์ก็ไม่น่ามีใครรู้จักเขา

คลาวด์เงยหน้าขึ้นช้าๆ หลังจากเงียบไปนาน นัยน์ตาสีฟ้าเต็มไปด้วยความลังเลและเป็นกังวล

“นายแน่ใจนะแซค ว่ามันจะดีจริงๆ จะไม่มีใครจับได้แน่ๆ นะ”

“รับรองเชื่อขนมกินได้เลย” แซคที่ตอนนี้แทบอยากตะโกนร้องให้ก้องโลกด้วยความดีใจตบไหล่คลาวด์ป้าบใหญ่ กอดเด็กหนุ่มแรงๆ แถมอีกทีแล้วรีบกระโดดตัวลอยแล่นถลาออกมานอกห้อง “คืนนี้หลับให้สบาย พรุ่งนี้ฉันจะเอาชุดกับวิกผมมาให้ บาย...”

แค่ประตูห้องปิดลง รอยยิ้มสมหวังของพ่อหนุ่มผมเม่นที่เมื่อกี้แทบเก็บอาการไว้ไม่อยู่ก็ปรากฏขึ้นเต็มหน้าชนิดที่ว่า..ปากแทบจะฉีกถึงรูหู

...ทีนี้ล่ะ

...จะได้รู้กันไปว่า “คู่ควงของแฟร์” มันจะแพ้ “สาวน้อยของเซฟิรอธ”

...คอยดูสิ!

...........................................................


...คิดผิด

คำๆ เดียวที่ดังขึ้นซ้ำๆ ในสมองของแซค แฟร์ ที่อึ้งตะลึงไปพักใหญ่แถมพูดอะไรแทบไม่ออก เมื่อร่างเล็กที่เขาต้องใช้ความพยายามสุดสามารถทั้งขู่ทั้งปลอบ ทั้งผลักทั้งดัน ทั้งรุนหลังให้ยอมเข้าไปเปลี่ยนชุดหลังฉากกั้นเดินกลับออกมา

ทั้งๆ ที่แน่ใจอยู่แล้วว่า...หน้าตาแบบนี้ ตัวก็เล็กขนาดนี้ ถ้าใส่วิกผมสักนิด แต่งหน้าสักหน่อย แล้วก็ใส่ชุดราตรียาวเท่านั้น คลาวด์ก็คงคลับคล้ายคลับคลาผู้หญิงจริงๆ และตบตาคนอื่นๆ ได้ไม่ยาก

...แต่ ให้ตายเถอะ

...ไม่นึกเลยว่ามันจะเหมาะอย่างนี้

สาวน้อยร่างบางที่ยืนอยู่ตรงหน้า ตัวที่ว่าเล็กอยู่แล้วยิ่งดูบอบบางมากขึ้นเมื่ออยู่ในชุดราตรีผ้าพลิ้วยาวกรอมเท้าสีครีมสว่าง เส้นผมสีแดงอมน้ำตาลยาวหยักเป็นลอนเล็กๆ ไล่ระดับระต้นคอไปเกือบถึงกลางหลังไม่มีทางดูออกว่าเป็นวิก ส่วนใบหน้าที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางบางๆ ก็เน้นนัยน์ตาสีฟ้าสดและริมฝีปากบางสีระเรื่อนั่นให้เด่นสะดุดตา  

ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็เป็น สาวน้อยแสนหวานที่ไม่ว่าใครเห็นเข้าก็ต้องกลืนน้ำลายเอื้อก

“แซค อย่าทำให้ฉันใจเสียสิ” แม่สาวน้อยนัยน์ตาสีฟ้าทำหน้าเหยเก “มันดูแย่มากเลยใช่มั้ย”

“ม...มะ....ไม่....ไม่.....ไม่เลย” นี่คงเป็นครั้งแรกในชีวิตล่ะมั้งที่คนอย่างแซค แฟร์ พูดจาติดๆ ขัดๆ “แจ่มมากเพื่อน แบบนี้รับรองว่าไม่มีใครจำได้ชัวร์”

“แต่ฉันว่าพอเถอะนะ เราล้มเลิกความคิดนี้ดีกว่า ถ้าถูกจับได้ขึ้นมาล่ะก็ทั้งนายทั้งฉันไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหน” ท่าทางคลาวด์บอกชัดว่าเจ้าตัวหมดความมั่นใจชนิดที่ต่อให้เอาร้อยเซฟิรอธมาล่อก็ไร้ผล

...ไม่ได้รู้สึกตัวเลยสักนิดว่า ตอนนี้แรงดึงดูดที่ตัวเองมีต่อคนรอบข้าง..มันมากขนาดไหน 

“ไม่มีเวลาแล้วล่ะ อีกครึ่งชั่วโมงงานก็เริ่มแล้ว” แซคในชุดทักสิโดหล่อเนี้ยบรีบกระแอมกระไอเบาๆ ก่อนส่งยิ้มปลอบใจบางๆ มาให้ ตามด้วยการยื่นแขนออกมาให้อีกฝ่ายเกาะแล้วออกเดินนำ “ไม่เป็นไรน่า นายดูดีออก ถ้าไม่สบายใจ..เวลาอยู่ในงานก็พยายามอยู่ใกล้ๆ ฉันไว้แล้วกัน” 

หัวใจเต้นระรัวราวจะหลุดออกมานอกอกเมื่อมือเล็กเอื้อมมาคล้องแขนไว้ พ่อหนุ่มผมเม่นค่อยๆ ผ่อนลมหายใจออกเพื่อปรับสติสตังที่เตลิดเปิดเปิงเมื่อกี้ให้เข้าที่เข้าทาง

... คู่ควงของแฟร์ พร้อมแล้ว

……………………………………………………………….


“เฮ้! แซค ทางนี้”

ระหว่างทางเดินไปห้องจัดเลี้ยง เสียงเรียกชื่อทักทายก็ดังขึ้นจากระเบียงชั้นบน ต้นเสียงคือโซลเยอร์เซคั่นคลาสสองสามคนที่กำลังเดินลงบันไดตรงมาหา

“ไม่ต้องรีบไปหรอกน่า เวลาเปิดงานเลื่อนออกไปอีกชั่วโมง เพราะรูฟัสเจ้าของงานเกิดติดธุระกระทันหัน” หนึ่งในสามคนตะโกนบอก “ตอนนี้ในงานมีแต่พวกนักการเมืองกับนักลงทุนทั้งนั้น น่าเบื่อออก ไปนั่งดื่มที่มุมโน้นด้วยกันก่อนดีกว่า”

ที่บาร์เครื่องดื่มถัดออกไปไม่ไกล บรรดาโซลเยอร์รุ่นเล็กรุ่นใหญ่ต่างยืนรวมตัวคุยกันอย่างออกรส เคียงข้างด้วยสาวๆ ที่แต่ละคนชวนมาร่วมงาน

แต่ก่อนที่โซลเยอร์ทั้งสามคนจะเดินมาถึง คลาวด์ก็ปล่อยมือออกจากแขนแข็งแรงที่ยึดไว้

“แซค ฉันขอรออยู่แถวๆ นี้ดีกว่า”

“ทำไมล่ะ” แซคทำหน้าประหลาดใจก่อนจะเปลี่ยนเป็นกังวลเมื่อเห็นสีหน้าซีดเซียวของอีกฝ่าย “เป็นอะไรรึเปล่า หรือว่าไม่สบาย”

“เปล่า” สาวน้อยแสนหวานพยายามปั้นยิ้มเต็มที่ “อยู่ในสภาพนี้ ฉันไม่รู้จะวางตัวกับเพื่อนๆ ของนายยังไงนี่นา ถ้างานเริ่มแล้วก็ว่าไปอย่าง..แค่นั่งอยู่เฉยๆ ไม่ก็ยิ้มกับพยักหน้าก็พอ”

“งั้นก็ได้” พ่อเม่นยอมตามใจ แม้จะรู้สึกเสียดายนิดหน่อยที่จะได้เปิดตัวสาวสวยคนใหม่ให้พรรคพวกรู้จักช้าออกไปอีกนิด “เดี๋ยวเจอกันนะ”

 ..................................................


“เฮ้อ!

คลาวด์ถอนใจยาวพลางนั่งลงบนราวระเบียงด้านนอกอาคาร ทิ้งเสียงหัวเราะพูดคุยที่ประสมปนเปไปกับโน้ตดนตรีที่บรรเลงคลอเบาๆ ไว้ข้างหลังแล้วหลับตาลง

...เหมือนตัวเองมาอยู่ผิดที่ผิดทาง

...การ์ดที่แอบเข้ามาในกลุ่มโซลเยอร์ แถมยังแต่งตัวเป็นผู้หญิง

...ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงยอมทำเรื่องที่ไม่ว่าจะคิดยังไงก็ แสนจะงี่เง่าสิ้นดี แบบนี้ลงไปได้

...เซฟิรอธจะมางานมั้ยนะ แต่ถึงจะมา..คลาวด์ก็คงไม่มีหน้าเข้าไปทักทาย ขอแค่ได้เห็นฮีโร่ของเขาจากที่ไกลๆ ก็พอใจแล้ว


ช่วยไม่ได้..เมื่อความเครียดและความกังกลที่สะสมมาตั้งแต่วันวานรวมเข้ากับสภาพที่รับตัวเองไม่ค่อยได้ในตอนนี้ทำให้เหมือนมีอะไรอัดแน่นอยู่ในอก สิ่งนั้นค่อยๆ ขยายตัวออกช้าๆ ก่อนจะแผ่ซ่านไปทั่วร่าง เรียกน้ำตาให้ไหลซึม

วินาทีนั้นนิ้วอุ่นๆ ก็แตะลงที่หลังมือ

“ขอโทษนะ เธอหน้าซีดมากเลย เป็นอะไรรึเปล่า”  

คลาวด์ลืมตาขึ้นช้าๆ สิ่งแรกที่เห็นคือเส้นผมสีเงินยาวที่ปลิวล้อกับสายลมที่พัดมาเบาๆ เล่นเอาต้องส่ายหน้าให้กับความไม่ได้เรื่องของตัวเอง

...นี่ เขาอยากเจอเซฟิรอธมากถึงขั้นตาฝาด

แต่...

ไม่ว่าจะกะพริบตาซ้ำๆ สักกี่หน ภาพที่เห็นก็ไม่เลือนหาย หนำซ้ำจะยิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นร่างสูงโปร่งของนักรบผมเงินที่ยืนอยู่ตรงหน้า รอยยิ้มบางเบาฉาบอยู่บนริมฝีปากได้รูป มือข้างหนึ่งจับมือเขาไว้

...เซฟิรอธ ?

...จริงอยู่ เขาอยากเจอเซฟิรอธ จะในสนามฝึกหรือปฏิบัติการอะไรก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่ในสภาพนี้

นัยน์ตาสีฟ้าเบิกกว้างด้วยความตกตะลึง ลมหายใจสะดุดเหมือนหัวใจจะหยุดเต้น ก่อนจะรีบขยับถอยจนแทบหงายหลังตกจากราวระเบียงที่นั่งไว้แค่หมิ่นๆ ดีที่ได้มือใหญ่ช่วยดึงรั้งไว้ไม่อย่างนั้นคงร่วงลงไปแล้ว

“ไม่เป็นไรนะ” เมื่อช่วยพยุงให้อีกฝ่ายนั่งได้มั่นคงแล้ว เซฟิรอธก็ลดมือลงพลางถามย้ำอีกครั้ง

“ไม่เป็นไร ขอบคุณ” คลาวด์ตอบสั้นๆ พลางก้มหน้างุด นึกภาวนาในใจขออย่าให้เซฟิรอธผิดสังเกตอะไรเลย “งานเลี้ยงใกล้จะเริ่มแล้ว รีบเข้าไปข้างในเถอะ”

แต่แล้วโชคชะตากลับไม่เป็นใจ เมื่อเซฟิรอธยิ้มบางๆ ให้แล้วทรุดตัวลงนั่งข้างๆ พลางเงยหน้ามองแสงสีส้มอมทองจางๆ ที่กำลังลับขอบฟ้าเหนือสนามฝึกด้วยท่าทางสบายๆ “ฉันไม่ชอบความวุ่นวาย แล้วก็ไม่ค่อยมีความอดทนเท่าไหร่ ไม่ต้องรีบเข้าไปนักก็ได้”

คลาวด์พยักหน้ารับ แต่เพราะไม่รู้จะพูดอะไรต่อเลยได้แต่นั่งเงียบ สักพักเซฟิรอธก็ลุกขึ้นเดินออกไป ก่อนจะกลับมาพร้อมแก้วไวน์และ ช็อกโกแลตเย็น

“ขอบคุณ” คลาวด์ยื่นมือออกไปรับแก้วช็อกโกแลตมาจิบ คิ้วเรียวขมวดมุ่นเพราะสะกิดใจอะไรบางอย่าง แต่ก็นึกไม่ออกว่าคืออะไร

ทั้งสองนั่งจิบเครื่องดื่มของตัวเองเงียบๆ จนกระทั่งดวงดาวบนท้องฟ้าเริ่มทอประกายระยิบระยับ ความมืดแผ่ขยายปกคลุมไปทั่ว

“ยังไม่เข้าไปข้างในอีกเหรอ” คลาวด์ถามขึ้นก่อนด้วยความสงสัยว่าทำไมป่านนี้ คนดัง หมายเลขหนึ่งที่มีแต่คนต้องการพบถึงเอาแต่นั่งเฉยอยู่ข้างนอก

“ทนอึดอัดไม่ไหวแล้วสิ” เซฟิรอธยิ้มขำก่อนจะลุกขึ้นแล้วยื่นมือออกมา “เข้าไปด้วยกันมั้ย"

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันค่อยเข้าไปทีหลังก็ได้...” ร่างเล็กเว้นจังหวะไปนิดก่อนจะแข็งใจพูดคำสุดท้ายออกมา “...ค่ะ”

ร่างสูงหัวเราะพรืดพลางยื่นปลายนิ้วไปม้วนเข้ากับปอยผมของคนตรงหน้าแล้วออกแรงกระตุกแบบทีเล่นทีจริง

“นอกจากจะเปลี่ยนแนวการแต่งตัวกับใส่วิกแล้ว เธอยังหัดพูดคะขาด้วยเหรอ”

...ประโยคที่ได้ยิน ไม่มีทางจะแปลความหมายเป็นอื่นไปได้ นอกจาก...เซฟิรอธรู้แล้วว่าเขาเป็นใคร

...มิน่า ถึงไม่ถามชื่อหรือแม้แต่จะแนะนำตัวเอง

...แล้วยัง ช็อกโกแลตเย็นแก้วนั้นอีก

วินาทีนั้น...คลาวด์ได้แต่อ้าปากค้าง พูดอะไรแทบไม่ออก สิ่งที่อยากทำที่สุดคือรีบมุดดินหนีให้พ้นอายไปซะเดี๋ยวนั้น

“ไม่เป็นไร ใจเย็นไว้” เซฟิรอธหัวเราะเบาๆ พลางลูบหลังลูบไหล่คนที่นั่งตาโตตัวแข็งทื่อไปมาราวกับจะปลอบใจเด็กน้อยที่กำลังขวัญเสีย

“คะ...คือ...คือ...” คลาวด์หน้าซีดเผือด ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นสบตาคนที่อยากพบมาตลอด เซฟิรอธคงคิดว่าเขาสมองกลับหรือไม่ก็เพี้ยนไปแล้วแน่ๆ ถึงได้ทำตัวงี่เง่าแบบนี้”

“ช่างเถอะ” เซฟิรอธยังยิ้มไม่เลิก เหมือนเห็นเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องสนุก “ถ้ารายงานว่า ฉันรู้ว่ามีการ์ดปลอมตัวเข้ามาร่วมงานเลี้ยงจากการจับมืออีกฝ่าย คงไม่ค่อยน่าเชื่อถือเท่าไหร่”

“ขอบคุณครับ” คลาวด์ค่อยยิ้มออกมาได้นิดนึง แต่แล้วรอยยิ้มก็ค่อยๆ เลือนหายเมื่อได้ยินประโยคถัดไป

“แต่ฉันคงต้องลงโทษเธอ คลาวด์ สไตรฟ์ เอาล่ะ...”

นักรบผู้ยิ่งใหญ่ยืนขึ้นแล้วยื่นมือออกมาข้างหน้าอีกครั้งพลางค้อมตัวนิดๆ

“ถ้ายอมเข้าไปข้างในงานเลี้ยงด้วยกันล่ะก็...จะยอมยกโทษให้ก็ได้นะ มายเลดี้

....................................................................


เซฟิรอธเกลียดงานเลี้ยง โดยเฉพาะงานเลี้ยงไร้สาระที่เสียเวลาไปกับการกิน คุย ฟังเพลง และที่แย่ที่สุดคือการบังคับให้ต้องพาคนอื่นมาด้วย แม้เจ้าตัวตั้งใจว่าจะพยายามปฏิบัติภารกิจช่วงบ่ายให้ช้าที่สุดนานที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อถ่วงเวลาก็ตาม แต่การที่ต้องใช้เวลามากขนาดนั้นกับภารกิจแสนธรรมดาก็ยิ่งทำให้โซลเยอร์ในตำนานหงุดหงิดได้ยิ่งกว่า ลงท้ายก็กลับมาถึงชินระก่อนเวลาเปิดงานเกือบครึ่งชั่วโมงจนได้

ไม่มีการเตรียมตัว ไม่มีอารมณ์แม้แต่จะเปลี่ยนเสื้อผ้า เวลาที่เหลือเล็กน้อยน่าจะพอให้เขาหาที่เงียบๆ เพื่อสงบจิตสงบใจ สงบสติอารมณ์สักพักก่อนจะเข้าไปในบริเวณงานตามที่ได้รับคำสั่ง แต่เมื่อเดินลัดตัดทางเดินออกมาแถวสนามฝึก เซฟิรอธก็สะดุดตาเข้ากับใครบางคนที่นั่งอยู่บนราวระเบียงเข้าอย่างจัง

ผู้หญิง?

คงเป็นคู่ควงที่ใครสักคนชวนมา แต่ใบหน้าเรียวที่หลับตานิ่งกับมือเล็กได้รูปที่ยึดราวระเบียงไว้หลวมๆ กลับดึงดูดสายตาอย่างน่าประหลาด คลับคล้ายคลับคลาว่าเคยรู้จัก หรืออย่างน้อยก็ต้องเคยเห็น

นัยน์ตาสีเขียวกะพริบปริบ คิ้วขมวดมุ่น เมื่อภาพหนุ่มน้อยตัวเล็กบาง ผมสีบลอนด์ นัยน์ตาสีฟ้าปรากฏขึ้นซ้อนทับร่างเด็กสาวตรงหน้าได้สนิท

...ไม่น่าเป็นไปได้

รู้ตัวอีกที...ขาก็ขยับเดินเข้าไปใกล้ ปลายนิ้วก็แตะลงที่หลังมือของอีกฝ่าย

“ขอโทษนะ เธอหน้าซีดมากเลย เป็นอะไรรึเปล่า” 

จากท่าทางตะลึงงันทำอะไรไม่ถูกของคนตรงหน้าและนัยน์ตาสีฟ้าสดที่เบิกกว้าง ยิ่งช่วยยืนยันชัดเจนว่าเขาคิดไม่ผิด

...ถึงเสื้อผ้า ทรงผมจะเปลี่ยนไป แต่แววตา สีหน้าท่าทางใช่จะเปลี่ยนกันได้ง่ายๆ 

เซฟิรอธส่งยิ้มให้แล้วทรุดตัวลงนั่งข้างๆ ชักสนุกกับการเฝ้ามองปฏิกิริยาของสาวสวยตรงหน้าว่าจะทำยังไงต่อไปจนลืมความหงุดหงิดจากงานเลี้ยงไปหมด

เขาพอเข้าใจแล้วว่าเพราะอะไรแซคถึงได้ยึดติดกับหนุ่มน้อยแสนธรรมดาที่ไม่มีอะไรพิเศษคนนี้นัก ถ้าไม่เพราะความอ่อนเยาว์ อ่อนต่อโลก ที่เจ้าตัวแสดงออกมาอย่างซื่อตรง จนไม่ว่าใครที่ได้สัมผัสย่อมไม่อาจต้านทานแรงดึงดูดอันไร้เดียงสานั่นจนต้องยื่นมือเข้าไปปกป้อง..ไม่ว่าจะด้วยความปรารถนาดีหรือปรารถนาจะครอบครองเป็นเจ้าของก็ตาม

...คลาวด์เองก็คงไม่รู้สึกตัว ว่าแท้จริงแล้ว ตัวเอง นั่นแหละคือความ พิเศษ

....แล้ว

....ถ้าเขายื่นมือออกไปบ้างล่ะ

นักรบผู้ยิ่งใหญ่ยืนขึ้นแล้วยื่นมือออกมาข้างหน้าพลางค้อมตัวนิดๆ

“ถ้ายอมเข้าไปข้างในงานเลี้ยงด้วยกันล่ะก็...จะยอมยกโทษให้ก็ได้นะ มายเลดี้

แม้ท่าทางจะบ่งบอกชัดเจนว่าไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่ แต่คลาวด์ก็ยอมจับมือเขาไว้ แล้วลุกขึ้นเดินตามมาแต่โดยดี เรียกรอยยิ้มพอใจให้ปรากฏขึ้นขณะออกแรงกระชับมือเล็กที่กุมไว้

...ถึงตอนนี้ แม้เซฟิรอธจะยังไม่ชอบใจที่ถูกบังคับให้มางานเลี้ยง แต่ก็...รู้สึกดีขึ้นนิดหน่อยเมื่อเข้าใจแล้วว่าการพาใครอีกคนมาด้วยมันดียังไง

..........................................................


งานเลี้ยงเริ่มต้นขึ้นหลังจากรูฟัสที่เป็นเจ้าของงานมาถึง แต่กว่าที่เซฟิรอธและคลาวด์จะเข้ามาในบริเวณงาน แขกเหรื่อส่วนมากก็เข้าไปในบอลรูมกันหมดแล้ว ตามทางเดินด้านนอกจึงเหลือคนไม่มาก

ร่างสูงเดินช้าๆ อย่างสบายอารมณ์ เคียงข้างด้วยสาวน้อยที่คงเดินไม่ค่อยถนัดเพราะต้องใช้ความพยายามอย่างหนักในการทรงตัวให้ยืนและเดินต่อไปให้ได้โดยไม่หกล้มเพราะสะดุดชายกระโปรงหรือไม่ก็พลาดทำรองเท้าส้นสูงที่สวมอยู่พลิกซะก่อนจนเขาอดสงสารไม่ได้

ร่างเล็กสะดุ้งสุดตัวเมื่อรู้สึกถึงท่อนแขนแข็งแรงที่โอบรอบเอวแล้วยกตัวลอยขึ้นจากพื้น

“อะไร..ไม่ ไม่ต้อง” คนพูดแทบลิ้นพันกันด้วยความตกใจ พยายามสะบัดตัวออก ทว่าร่างกายกลับไร้เรี่ยวแรงต่อต้านขึ้นมาเฉย ๆ

“เดินธรรมดายังแทบไม่ไหว” แล้วจะเดินขึ้นบันไดได้ยังไง จับไหล่ฉันไว้แล้วอยู่นิ่งๆ” เซฟิรอธเอ็ดเสียงหนักๆ พลางอุ้มร่างเล็กๆ ขึ้นบันไดไปอย่างไม่หนักเรี่ยวกินแรงเท่าไหร่
ไม่สนใจสายตาที่จ้องมาจนแทบทะลุออกจากเบ้าของคนแถวๆ นั้น

“ขอบคุณ” คลาวด์พึมพำอ้อมแอ้มเมื่อได้กลับมายืนบนพื้น ก่อนจะเริ่มกระสับกระส่ายหายใจไม่ทั่วท้องอีกครั้งเมื่อเห็นประตูห้องจัดเลี้ยงอยู่ตรงหน้า ต่างกับเซฟิรอธที่ชินชาเสียแล้วกับการเป็นจุดสนใจ ร่างสูงอ้าแขนโอบเอาร่างเล็กที่เริ่มเดินทิ้งระยะห่างพลางก้มหน้างุดให้เข้ามาอยู่ใกล้ๆ

“ยิ้มหน่อย เร็ว” เสียงทุ้มต่ำที่เจือความสนุกสนานอย่างไม่ปิดบังกระซิบเบาๆ แค่ได้ยินกันสองคน แล้วยกมือขึ้นหยิบปอยผมสีบลอนด์ที่หลุดลุ่ยออกมาจากวิกขึ้นทัดข้างหูให้

..................................................


เมื่อเข้ามาในบอลรูม เซฟิรอธไม่ได้พาคลาวด์ไปที่โต๊ะสำหรับโซลเยอร์เฟิร์สคลาส แต่กลับเดินตัดออกมาที่ฟลอร์เต้นรำ ที่ที่เมื่อก่อนไม่เคยคิดอยากจะเฉียดกรายมาเลยสักนิด

ในฟลอร์ หนุ่มสาวหลายคู่ต่างสนุกสนานกับการเคลื่อนไหวร่างกายไปตามจังหวะดนตรีรัวเร็วเร่งเร้าจนแทบไม่ได้สนใจคนอื่นรอบตัว แต่พอเพลงจบลง หลายคนที่ทยอยออกจากฟลอร์ก็สังเกตเห็น ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ประจำค่ำคืนนี้

...สาวน้อยของเซฟิรอธตัวเป็นๆ เจ้าของข่าวลือที่เพิ่งซาไปหมาดๆ รับประกันความเข้าใจถูกต้องโดยสุดยอดโซลเยอร์ผมเงินที่ยืนโอบอยู่ข้างๆ


...แย่แล้ว

ชั่วขณะที่คิดอย่างนั้น ก็รู้สึกถึงวงแขนแข็งแกร่งที่โอบประคองตัวเองไว้อย่างนุ่มนวลแล้วพาเดินเข้าไปกลางฟลอร์ คลาวด์เงยหน้าขึ้นมองนัยน์ตาคู่คมที่กำลังจับจ้องตนอยู่
ผมเต้นไม่เป็น คลาวด์สารภาพตรงไปตรงมาพลางส่ายหน้า “จริงๆ นะ คุณจะขายหน้าคนอื่นเปล่าๆ”

เซฟิรอธยังยิ้มอยู่เช่นเดิม ยกแขนโอบรัดรอบสะโพก อีกมือโอบแผ่นหลังของคนที่พยายามขืนตัวหนีไว้

ไม่เป็นไร ฉันจะนำให้”

“แต่...”

“ไม่มีแต่...พร้อมนะ เลดี้”

หลังจากเงียบเสียงไปชั่วครู่หนึ่ง นักดนตรีก็เริ่มบรรเลงเพลงช้า...

เซฟิรอธจับมือเล็กวางบนบ่าของตนแล้วเริ่มนำในท่วงท่าคล้ายโอบกอดกัน หลังจากรอให้คลาวด์เริ่มชินสักพักก็กระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นแล้ววางคางกดลงบนบริเวณขมับของอีกฝ่าย ค่อยๆ ละเลียดอย่างช้าๆ ดื่มด่ำความหอมหวาน นุ่มนวล และอบอุ่นของร่างในอ้อมแขนเต็มที่

 “เอ่อ..แบบนี้เดินไม่ได้” เสียงท้วงเบาๆ ดังขึ้นพลางขยับตัวด้วยความอึดอัด แต่เมื่อไม่ได้รับการตอบสนองนอกจากสีหน้าที่แสดงความพอใจอย่างยิ่ง ก็ได้แต่ปล่อยร่างกายให้ขยับเคลื่อนไหวไปตามการนำของอีกฝ่าย

“ทำไมจู่ๆ ถึงลุกขึ้นมาแต่งตัวแบบนี้” คำถามดังขึ้นแผ่วๆ พลางหมุนตัวไปตามจังหวะเพลง

“แซคเป็นต้นคิด เพราะหาคนมาด้วยไม่ได้ แล้วก็...” ข้อความสุดท้ายติดอยู่ในลำคอ คลาวด์นิ่งไปชั่วอึดใจ มองเส้นผมสีเงินยาวสลวยที่คลี่คลุมร่างของทั้งคู่ไว้ ก่อนจะยอมพูดต่อ “ผมอยากเจอคุณ”

“งั้นเหรอ” ร่างสูงหัวเราะเบาๆ พลางกระฃับร่างในอ้อมแขนแน่นขึ้นอีกนิด

...งานนี้เขาคงต้องขอบคุณแซค

“ถ้าสวนกันตามทางเดินก็ทักกันได้นี่ หรือว่างๆ จะออกไปดื่มกาแฟข้างนอกบ้างก็ได้” 

“ก็คุณยุ่งอยู่ตลอดเวลา” คลาวด์ถอนใจเฮือก “ไม่รู้ว่าถ้ารบกวนแล้วจะโกรธรึเปล่า เลยคิดว่าแค่ได้มองเห็นบ้างก็ดีใจแล้ว”

สำหรับคนตอบนั่นเป็นแค่การตอบคำถามธรรมดา ไม่รู้เลยว่ามันดูเหมือนการออดอ้อนคนฟังขนาดไหน

เซฟิรอธยิ้มมากขึ้น

“ถ้ามีคำสั่งให้พา ผู้ติดตาม ไปด้วย เราอาจจะออกไปปฏิบัติภารกิจข้างนอกด้วยกันได้”

“จริงๆ นะ” คลาวด์เงยหน้าขึ้นรวดเร็วด้วยความดีใจสุดๆ จนไม่ทันรู้สึกว่าจังหวะที่ใบหน้าแหงนเงยขึ้นกระทันหันทำให้ปลายคางที่วางเกยอยู่ก้มต่ำลงมาอย่างไม่ทันระวัง ริมฝีปากบางเลยเฉียดเข้ากับผิวแก้มละเอียดแผ่วเบา

“ฉันไม่เคยผิดคำพูด” เซฟิรอธนิ่งไปชั่วอึดใจ เลื่อนมือขึ้นแตะท้ายทอยอีกฝ่าย บังคับให้ร่างเล็กวางศีรษะลงแนบสนิทกับไหล่ พร้อมกับพยายามคุมน้ำเสียงให้เป็นปรกติสุดความสามารถ “แต่...มีข้อแม้...ถ้าเธอตกลงจะไปกับฉัน ครั้งไหนที่ไปได้ก็ต้องไปทุกครั้ง จะเลือกไม่ได้ 

“ตกลงครับ” คลาวด์ตอบเสียงอู้อี้ ความฝันที่จะได้แสดงฝีมือนอกสนามฝึกเป็นเหตุให้ไม่ทันระวังตัวอะไรทั้งนั้น และเพราะอยู่ในอ้อมแขนของอีกฝ่ายด้วยเลยมองไม่เห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ร้ายที่ถ้าได้เห็นเข้าก็อาจเปลี่ยนใจ

“อีกอย่างนึง...บอกไว้เธอจะได้ไม่กังวล” ดวงตาคมสวยแฝงไว้ด้วยรอยยิ้มสนุกสนาน “อยู่ๆ บรรดาแฟนคลับของแซคก็มาปรากฏตัวที่นี่พร้อมหน้า ตอนนี้แซคคงหัวหมุนวุ่นวายพิลึก แล้วอีกเดี๋ยวข่าวจากคนข้างนอกที่เห็นเราก็คงจะปลิวมาถึงที่นี่ ไม่ก็พวกบนฟลอร์เมื่อกี้นี้ปากโป้ง จะดีกว่าถ้าเธอกลับออกไปก่อนที่จะถูกพวกคนอยากรู้อยากเห็นรุมล้อม”

.........................................................................


คลาวด์ก้มลงหยิบจดหมายที่สอดเข้ามาทางช่องว่างระหว่างพื้นห้องกับประตูด้วยความงุนงง เมื่อวานตอนกลับมาหลังจากติดตามเซฟิรอธไปภารกิจข้างนอกก็ไม่เห็นมีอะไรตกอยู่ แต่เมื่อไล่สายตาไปตามอักษรประหลาดที่เขียนสลับตำแหน่งไปมาเหมือนเด็กเขียนหนังสือไม่เป็นก็ต้องยิ้มกว้าง

...รหัสอักษรที่เขาใช้เขียนบนแผ่นฟอยล์ห่อช็อกโกแลต

...ในชินระมีแค่คนเดียวเท่านั้นที่เข้าใจมัน

กระดาษแผ่นน้อยในซองเขียนแค่สั้นๆ ใจความว่า...

“วันเสาร์หน้า 6 โมงเย็น พบกันที่เดิม ของที่ต้องใช้จะส่งมาให้ทีหลัง...

ปล. ถ้าแซคมาถาม ให้บอกไปว่าเธอจะไปกับฉัน”

ของที่ต้องใช้? คลาวด์ขมวดคิ้วสงสัย แต่แล้วก็เลิกสนใจ มันคงเป็นอุปกรณ์อะไรสักอย่างที่ต้องใช้เวลาปฏิบัติภารกิจคราวหน้าละมัง

...คราวนี้แซคก็ไปด้วย

...ชักอยากให้วันเสาร์หน้ามาถึงเร็วๆแล้วสิ...


หารู้ไม่ว่า...

ในห้องทำงานของสุดยอดเฟิร์สคลาสแห่งชินระ บนโต๊ะตัวเล็กที่เคยวางแผ่นฟอยล์ห่อช็อกโกแลตมีบัตรเชิญถึงโซลเยอร์เฟิร์สคลาสทุกคน

...ใกล้ๆ กันมีชุดราตรีเข้ารูปสีดำสนิท วิกผมสีบลอนด์ยาวดัดเป็นลอนเล็กๆ และอุปกรณ์เมคอัพครบชุดวางอยู่คู่กัน


For เจ๊ไลต์นิง

Jes

2 /10 /54


..................................................


เอ่อ...สารภาพว่าจบไม่ค่อยจะลงค่ะ เลยเอาสีข้างเข้าถูจนถลอกปอกเปือกออกมาเป็นแบบนี้ อีกอย่าง..ขอโทษแม่ยกพ่อเม่นด้วยที่หักหลังอย่างแรง ไว้ฟิคหน้าจะยื่นบท (ผู้ช่วย) พระเอกแสนดีให้เลย

5 ความคิดเห็น:

  1. No.01 ACE (ก็คนเดิมแหละ -*-)11/25/2554

    มาแล้วจ้า...

    ขออภัยที่มาเม้นช้า

    เนื้องจากช่วงนี้กำลังติด Final Fantasy type-o

    นั่งปั่นเวลอย่างเมามัน มีตัวละครให้เล่น 14 ตัว

    กว่าจะนั่งปั่นเวลแต่ละตัว เหงื่อตก - -*แถมตอนจบยังตายกันยกแก๊ง

    หนักกว่า Crisis Coreอีก แค่ Zack ตายคนเดียวยังไม่พอนี่ตายหมด

    โฮะๆเเต่หนู Ace น่ารักมากให้อภัย พอแระ พล่างเรื่องเกมไปหลายบันทัด

    มาเรื่องฟิคกันดีกว่า ถ้าให้เราเลือกระหว่างเจ๊ไลท็กับคลาวด์เหรอ

    เราเลือกคลาวด์อ่ะ อย่างน้อยเราว่าคลาวด์ยังไม่เย็นชาเท่าเจ้แก

    หุหุ เข้าเรื่องพออ่านถึงตอนที่คลาวด์ต้องแต่งหญิงนึกภาพตอนเล่นไฟนอล 7 เลยอ่ะ...

    เซฟี่นายนี่ก็นะ พอเห็นคลาวด์แต่งหญิงไปงานเข้าหน่อยถึงกับหลง

    แล้วนี่คลาวด์จะรู้เรื่องมั้นเนี่ยที่โดนหลอกให้ไปงานเลี้ยงด้วย

    เซฟี่เตรียมของไว้พร้อม นี่นายรอจะออกงานกับคลาวด์อย่างเดียวเลยใช่มิ

    ไม่จัดงานเปิดตัวไปเลยล่ะ ชิชิ

    ขอบคุณจ้าและรอเรื่องต่อไป

    ปล.อ่านครั้งแรกรู้สึกว่าเรื่องนี้น่ารักมากมาย หุหุ

    ตอบลบ
  2. รอฟิคอยู่นะจ๊ะ1/06/2555

    สวัสดีปีใหม่จ้า

    เข้ามาแวบดูว่ามีฟิคอัพรึยัง

    แล้วก็มาหวัดดีปีใหม่ด้วย

    ปีใหม่นี้ขอให้มีความสุขมากๆ

    มีแรงจิ้นฟิคเยอะๆนะ

    หุหุ ขอให้มีความสุขจ้า

    Happy New Year

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ1/11/2555

    เขียนฟิคได้สนุกมากเลยค่ะ เพิ่งเคยเข้ามาอ่าน

    อยากอ่านคู่นี้อีกเยอะๆ (เป็นแม่ยกคลาวด์และเซฟคลาวด์เหมือนกัน)

    เซฟิรอธในฟิคนี้มีบุคลิกที่ตรงใจมากค่ะ อ่อนโยน(นิดหน่อย) ขี้แกล้ง (พอประมาณ) เย็นชา (กับคนอื่นที่ไม่ใช่คลาวด์)

    อืม... รอฟิคผู้ช่วยพระเอกแสนดีของแซคนะคะ เพราะพระเอกต้องเป็นเซฟิรอธสิ หึๆ แต่เท่าที่อ่านๆ คลับคล้ายคลับคลาว่าแซคจะชอบคลาวด์ แต่อ่านไปอ่านมาก็เหมือนไม่ได้ชอบจริงจัง แค่แหย่ๆ ยังไงกันหนอ...?

    ตอบลบ
  4. อรั๊ยน่ารักมากเลยค่า

    ชอบคู่นี้มากๆ แต่หาฟิคอ่านยากสุดเลยT^T ทั้งๆที่น้องโบะออกจะโมเอ้กิ๊วก๊าวขนาดนี้

    ตอนนี้แอบหวานน้ำตาลเรียกพี่ แถมคลาวด์เอ๋ยถูกเขาหอมแก้มไปแล้วยังไม่รู้ตัวอีกแหนะ XD

    คราวนี้ป๋าเซฟคงจะเริ่มชอบคลาวด์ขึ้นมาแล้วใช่ไหมเนี่ย

    แอบอยากอ่านตอน ของวันเสาร์หน้าด้วยจังเลย คลาวด์คงช็อกน่าดูเมื่อรู้ว่าภารกิจคราวนี้คืออะไร 555

    ตอบลบ
  5. โอ้มายก๊อดดดด น่ารักมากๆ น้องคลาวเราหน้าสวยอยู่แล้วล่ะ อวยคู่นี้มานาน สมใจอยากซักที ว่าไปว่ามาครั้งหน้าจะเป็นงานแบบไหนน๊าาาาาา

    ตอบลบ