13/11/54

Tokyo Babylon : After Lives! (p1)

Shonen ai Warning : ช่วยไม่ได้ พระ-นายเรื่องนี้เค้ามาเป็นแพ็กเกจคู่ แต่ใจจริงเจสชอบคู่ซุบารุ-คามุยมากกว่าอะ  (ใครเห็นด้วยขอเสียงค่ะ)    

Author : jes

Pairing : มันจะคู่ไหนได้อีก ก็มีอยู่คู่เดียว แต่จะเอาตัวละครอื่นมาช่วยสร้างความร้าวฉาน เอ้ย สร้างสีสันแล้วกันนะ

Rate : NC17+ (อ่านไปเหอะ เขียนไปงั้นแหละ ไม่มีหรอก)

Disclaimer : เนื้อเรื่องและตัวละครเป็นลิขสิทธิ์ของ clamp ค่ะ ที่เจสเอามาเขียนเรื่องราวเพิ่มเติม ใครผ่านไปผ่านมาเจอเข้า..อ่านแล้วสนุกไปด้วยเจสก็ดีใจ ถ้าจะคัดลอกไปไหนก็ขอให้บอกกล่าวกันสักนิดนะคะ

Intro : ปวารนาตัวเป็นแม่ยกหนุ่มน้อยซุบารุคนนี้มาตั้งแต่อยู่ม.ต้น จนบัดนี้ก็ร่วมเกือบยี่สิบปี ไม่เคยนึกเขียนฟิก Tokyo Babylon ตรงๆ สักที ได้แต่เขียน cross กับ baramos เพราะพยายามทำใจยอมรับการตัดสินใจของ clamp ในการกำหนดทางเดินชึวิตของตัวละคร แต่พอไปอ่านเจอซุบารุที่รักในการ์ตูนเรื่องอื่นๆ ไม่ว่าจะ x หรือ tsubasa ก็ต้องถอนใจเฮือก ทำไมน้องถึงไม่มีความสุขในชีวิตกะเค้าบ้างสักทีนะ ชีวิตนี้ช่างรันทดแล้วรันทดอีก อย่ากระนั้นเลย...ถ้าแม่ตัวจริงอย่าง clamp ยังไม่มีคิวว่าง เดี๋ยวแม่ยกอย่างเจสจัดให้เองจ้ะ

-----------------------------------------------------------------------

Chapter 1: destiny or dream

2 เดือนที่ผ่านมา....

หลังจาก.....มังกรฟ้าที่ตั้งใจว่าจะเป็นผู้ ปกป้องและมังกรธรณีที่ยืนยันว่าจะเป็นผู้ เปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ไม่อาจเอาชนะกันได้อย่างเด็ดขาด ทั้ง 2 ฝ่ายจึงตกลงหยุดวงล้อแห่งชะตากรรม..ยุติสงครามระหว่างกันลงชั่วคราว  เพื่อใช้เวลา 15 ปีข้างหน้าเป็นเครื่องมือตัดสินอนาคต ว่าโลก...ยังควรค่าแก่การปกป้อง หรือคุ้มค่าที่จะได้รับเปลี่ยนแปลง...อีกครั้ง

.........

......... 

โตเกียวเริ่มกลับเข้าสู่สถานการณ์ปรกติ

…………………………


สถานีรถไฟฟ้า

“ขอบคุณที่กรุณาครับ”

ชายหนุ่มร่างเล็กก้มลงโค้งคำนับก่อนพลางกล่าวอำลาหญิงวัยกลางคนที่ลนลานรีบโค้งคำนับตอบด้วยความตกใจ

“ทางนี้ก็ขอขอบคุณเช่นกันค่ะ คุณ..เอ่อ....”

แม้จะรู้ว่าคนตรงหน้าอายุ 25 ปีแล้วก็ตาม แต่รูปลักษณ์ภายนอกกลับดูอ่อนเยาว์ราวหนุ่มน้อยที่อายุยังไม่ถึง 20 ปีดี หนำซ้ำเครื่องแต่งกายสีดำสนิทที่สวมใส่อยู่ก็ยิ่งขับผิวที่เดิมคงจะขาวอยู่แล้วให้ขาวจัดมากขึ้น เมื่อคลุมทับด้วยเสื้อคลุมตัวยาวสีเดียวกันก็ยิ่งข่มให้ร่างนั้นดูเล็กบางจนยากจะทำใจให้เชื่อว่าคนๆ นี้จะเป็น.......

ร่างเล็กยืดตัวขึ้น คลี่ยิ้มสดใส

“ซุบารุครับ ...สุเมรากิ ซุบารุ”

................


จากสถานีรถไฟฟ้า ยังต้องเดินต่อไปอีกประมาณ 20 นาทีก็จะถึงอพาร์ตเมนต์ที่พัก

...ห้องพักเล็กๆ ที่เก็บงำทั้งความอบอุ่น ความสุข ความเศร้า ความเจ็บปวด หรือแม้แต่ความทุกข์ทรมานเอาไว้

ทันทีที่ปิดประตูห้อง ชายร่างสูงใหญ่ที่ยืนหน้าตึงกอดอกพิงระเบียงด้านนอกอยู่ก็หันหลังให้ทันที

บรรยากาศอึดอัด อึมครึม คล้ายคนหายใจไม่ออกห้อมล้อมอยู่รอบตัว เล่นเอาเจ้าของห้องที่เพิ่งกลับมาลอบถอนใจเบาพลางเลื่อนบานประตูกระจกที่กั้นอยู่ออกก่อนเดินเข้าไปใกล้

ร่างตรงหน้าไม่หันมามองแม้สักนิด

“โกรธอะไรครับ ตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว”

นัยน์ตาดำรีตวัดมองแล้วเบือนหน้าหนีไปอีกทาง

“เปล่านี่ครับ”

“โกรธผมเหรอครับ” คนถามยังพยายามทำความเข้าใจต่อไป

“ไม่มีอะไร เรื่องของผมมันไร้สาระน่ะครับ อย่าสนใจเลย”

...แต่ท่าทางกับคำพูดของคุณมันตรงข้ามกันเลยนะ

“คุณเซย์ชิโร่....”

มือเล็กๆ ยื่นเข้ามาใกล้ แต่ก็ชะงักค้าง ไม่แตะลงมาบนท่อนแขนแข็งแรงอย่างที่อีกฝ่ายหมายใจไว้ แต่แค่เห็นปฏิกิริยาอึกๆ อักๆ ของคนตัวเล็กกว่าตรงหน้าที่ตอนนี้ทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้จะทำตัวยังไงด้วยแล้ว ใจก็อ่อนยวบไปกว่าครึ่ง

...น่ะ ขอแกล้งอีกนิดก็ดีนะ

“ฮิ ฮิ ไม่โกรธ แค่งอนนิดหน่อยเอ๊งงงงงง เนอะ...เซย์จัง...เนอะ”

จู่ๆ เสียงใสๆ ของหญิงสาวก็ดังขัดจังหวะมาจากข้างในห้อง บรรยากาศสดใสค่อยๆ แทรกเข้ามาแทนที่ ซุบารุหันกลับไปมองแล้วก็ต้องระบายรอยยิ้มออกมา

“พี่”

ร่างโปร่งบางของหญิงสาวนั่งไขว่ห้างหมิ่นๆ อยู่บนโต๊ะทานข้าว แฝดพี่ที่เมื่อก่อนเหมือนกับคนน้องแทบเป็นพิมพ์เดียวกัน ถึงตอนนี้จะโตๆ กันแล้วก็ยังค่อนข้างคล้ายกันอยู่

“ถ้าโฮคุโตะจังมาแล้ว...ก็ดีครับ ผมขอตัวดีกว่า”

ร่างสูงหมุนตัวกลับเชื่องช้า อ้อยอิ่งรอเวลาเล็กน้อย จนรู้สึกถึงสัมผัสเบาๆ จากร่างเล็กที่ผวาเข้ามาดึงแขนเอาไว้แน่นนั่นล่ะ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ทั้งที่ริมฝีปากและดวงตาก็ปรากฏขึ้นชั่วแวบก่อนจางหายไปในวินาทีต่อมา

“คุณเซย์ชิโร่....” ซุบารุละล่ำละลักด้วยความตกใจ “ขอโทษ ผมขอโทษนะ อย่า...อย่าเพิ่งหายไปนะครับ”

เมื่อร่างสูงหันกลับมา นัยน์ตาและรอยยิ้มที่แสนเย็นชาเหมือนเมื่อครั้งยังเป็น ซากุระซึกะโมริก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้า บรรยากาศบีบอัด กดดันชนิดหยุดลมหายใจพุ่งตรงเข้าโจมตีอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวอีกครั้ง จนร่างเล็กได้แต่นิ่งงัน

“เมื่อกี้ทำไมคุณแนะนำตัวแบบนั้น”

“ผม...แนะนำตัว...เอ่อ....” คนตกเป็นจำเลย พูดไม่ออก บทจะโยกโย้โยเยก็พูดกันไม่รู้เรื่อง พอจะเข้าเรื่องก็ตรงเผงเสียจนจับต้นชนปลายอะไรไม่ถูก “ผม...แนะนำตัว....เอ่อ....”

“โธ่เอ้ย!” เสียงผู้หญิงคนเดียวในห้องดังขึ้นอย่างสุดแสนจะขัดใจ พออดรนทนไม่ไหวเลยต้องเดินออกมาร่วมวงสนทนาที่ระเบียงด้านนอกด้วยอีกคน “เซย์จังนี่...พูดอ้อมไปอ้อมมาแบบนี้ ต่อให้อีก 3 วันถัดไป ซุบารุก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี........แล้วก็นะ ซุบารุเอ้ย... เซย์จังเค้าโมโหที่เมื่อกี้เราไปแนะนำตัวกับ...เอ่อ...ว่า “สุเมรากิ ซุบารุ” ไงล่ะ”

“หา”

“ไม่ต้องมาหาอะไรแถวนี้หรอกย่ะ” ว่าพลางเอานิ้วจิ้มหน้าผากน้องชายจึ้กๆ “ทำไมไม่บอกไปล่ะว่า....”

“ซากุระสึกะครับ...ซากุระสึกะ ซุบารุ” เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นกลบเสียงสองพี่น้อง “ตอนนี้คุณคือ ซากุระสึกะโมริคนปัจจุบัน เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจากผม แล้วทำไมยังต้องแนะนำตัวแบบเดิมๆ อีก” 

“คุณเซย์ชิโร่....”  ซากุระสึกะโมริคนปัจจุบัน อึ้ง ตะลึง พูดอะไรไม่ออก

“กิ๊วๆ เซย์จัง ขี้ตู่แบบนี้ไม่ดีนะ ถ้าชอบก็ต้องมาสู่ขอตามประเพณีก่อนสิ” แฝดพี่ได้ทีแกล้งทำท่าสั่งสอน ว่าที่น้องเขย ทันที ก่อนหันกลับมาหาแฝดน้องที่เอายืนนิ่ง “เข้าใจยัง เซย์จังเค้าโมโหที่เธอไม่ยอมใช้นามสกุลเค้าแน่ะ“

“อืม...ต้องทำอย่างนั้นเหรอครับโฮคุโตะจัง งั้นผมคงผิดเองล่ะที่ ข้ามขั้น ไปหน่อย ซุบารุคุงเลยไม่ยอมรับ”

“ก็นั่นน่ะซี้...งั้นตอนนี้ก็รู้ตัวแล้วนะ เซย์จังก็ต้อง...”

“ผม.....ผม.....ผมง่วงนอนแล้ว ขอตัวนะ” เสียงตะโกนลั่นหวังใช้ความโกรธดับอายดังขึ้นก่อนก้าวยาวๆ กลับเข้าไปในห้องส่วนตัวที่อยู่ด้านใน แต่ถึงอย่างนั้นก็ปกปิดใบหน้าที่แดงก่ำไปถึงหูได้ไม่มิด

ลงท้ายก็ยังไม่วายได้ยินเสียงกวนหัวใจดังไล่ตามหลังมา

“ซุบารุคุง พรุ่งนี้เรามีนัดกันนะครับ”

“ใช่ๆ เรื่องที่ขอให้ช่วยน่ะ พรุ่งนี้นะ อย่าลืมซะล่ะ”

เสียงเปิดปิดประตูห้องดังขึ้น ตามด้วยเสียงวิญญาณ 2 ดวงที่หันมามองหน้า ยกมือขึ้นตบแปะกันกลางอากาศ แล้วประสานเสียงหัวเราะลั่น

“น้องชายฉัน เฮ้อ! ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ยังซื่อจนเซ่อเหมือนเดิม เซย์จังเสียใจรึเปล่าที่ต้องมาติดแหง็กอยู่กับคนแบบเนี้ย” สุเมรากิ โฮคุโตะที่ลงไปนั่งกองกับพื้นถามพลางยกมือขึ้นป้ายน้ำตา

“ผมไม่เคยรังเกียจซุบารุคุงที่เป็นแบบนี้หรอกครับ” ซากุระสึกะ เซย์ชิโร่ยิ้มตอบ พลางมองตรงไปยังประตูห้องพักชั้นในด้วยประกายตาที่คาดเดาไม่ออกว่าคิดอะไรอยู่

“ว่าแต่....โฮคุโตะจัง...เราแกล้งซุบารุคุงหนักไปรึเปล่า”

1 ความคิดเห็น:

  1. Subaru x Kamui เชียร์คู่นี้เหมือนกันนน แงงงง เสียใจ เพิ่งเจอฟิคนี้ ทั้งๆที่ตามเรื่องนี้มาเกือบสิบปีแล้วแท้ๆ

    ตอบลบ