29/5/54

ประกาศค่า

ก่อนอื่น...ตอบเมนต์ก่อนค่ะ

คุณไม่ระบุชื่อ : ขอบคุณสำหรับคอมเมนต์ค่า ตอนเปิดบล็อกเจอคอมเมนต์เยอะๆ นี่มันช่างกรี๊ดกร๊าดในหัวใจดีจริงๆ (ทุกทีจะมีคุณคนรักคลาวด์เมนต์ให้) ดีใจมากๆ ค่ะ ส่วนภาษาที่ใช้ยังคนอ่านว่าโอเคคนเขียนก็จะลุยต่อล่ะค่า..คือ..แบบว่ากลัวเอาภาษาที่ใช้ที่ทำงานมาเขียนฟิคน่ะค่ะ เดี่ยวได้อ่านฟิคฝืดๆ ประมาณรายงานวิชาการน่ะ ว่าแต่..นี่ใช่แม่ยกหนูคาดาจรึเปล่าคะนี่...^^

คุณคนรักคลาวด์ผู้โมเอ้ :  เซฟจังจามเพราะคลาวด์นินทาจริงๆ ค่ะ ก็ใจมันสื่อถึงกันได้ (เริ่มเลี่ยน) อย่างเจเนซิสมันจะสื่อได้ไงเนอะ ว่าแต่..จีกับแองจีลโทรมาทำไมตอนหน้าเฉลยค่า แต่ถ้าอยากได้คลาวด์แบบโมเอ้ตามชื่อ..รอ side story นะคะ (เห...เด็ก 3 ขวบกับ 12 ขวบ หรือมันจะโชตะมากกว่าโมเอ้ซะก็ไม่รู้ --")

คุณ wind_wander : ฟิคบารามอส งืม... นอกจากที่ดองไว้ก็มีแต่พล็อตค่ะ (ลองดูข้างล่างนะคะ) เจสไม่ได้ตามข่าวมานานเลยไม่รู้ว่าตอนนี้กระแสของบารามอสเป็นยังไงมั่ง ถ้ายังมีคนอ่านอยู่ก็จะเขียนต่อค่ะ ส่วนจะเขียนถึงคู่อื่นนอกจากคู่หูตัวแอลมั้ย..ก็...สารภาพว่าคู่หูแอลแอลนี่ล่ะค่ะเขียนง่ายสุดแล้ว สนุกดีด้วย นอกนั้นก็คู่รุ่นใหญ่ค่ะ "วิลเลียม-ริชาร์ด" ย้ำว่า "วิล-ริช" ค่ะ ไม่ใช่ "ริช-วิล" นะ แต่ถ้าเขียนถนัดมือที่สุดคงเป็นแบบยกมาทั้งป้อมค่ะ แล้วแถมอาตี้มาด้วยอีกคน แต่ถ้ามีคู่ไหนน่าสนใจก็แนะนำกันได้นะคะ

ปล. คือ...อยากทำกรอบเล็กๆ ที่ไว้ให้คนที่เข้ามาดูบล็อกพิมพ์ข้อความที่อยากบอกทิ้งไว้น่ะค่ะ ถ้าใครรู้วิธีก็รบกวนบอกหน่อยนะคะ

....................................................

(เข้าโหมดจริงจัง)

คือ...อ่า...ขอสารภาพก่อนนะคะว่าตอนนี้ฟิคที่เขียนไว้หมดสต็อก...ไม่มีเหลือ TT^TT  มีแต่ไหดองฟิคเรียงเต็มไปหมด แล้วตอนนี้เป็นช่วงใกล้เปิดเทอม งานเข้าแบบว่าต้องหอบงานมาทำที่บ้าน+เสาร์อาทิตย์เลยค่ะ (ใช้คำว่าเปิดเทอม แต่เดาได้ไม่ยากเนอะคะว่า คนเขียนไม่อยู่ในวัยเรียนแล้ว ^^")

ยังไงขอเคลียร์งานก่อนนะคะ แล้วจะปั่นฟิคไปด้วย ตอนนี้ขออัพฟิคช้าหน่อย พอเปิดเทอมแล้วเตรียมอะไรเข้าที่เข้าทางจะอัพทันที คงไม่เกิน 2-3 อาทิตย์ค่ะ


ขอทำความเข้าใจล่วงหน้านะคะ...บล็อกนี้เป็นเขตปลอดภัยต่อสุขภาพ มีเซอร์วิสนิดๆ โมเอ้หน่อยๆ พอให้ชื่นใจ+ยิ้มได้ เพราะงั้นใครที่อยากอ่านฉากหรือ NC แรงๆ ล่ะก็..รอเก้อค่ะ (แต่ถ้าจะจิ้นต่อเองก็ตามแต่ใจ)


นี่เป็นรายชื่อฟิคทั้งหมดที่จะทยอยเขียนค่ะ (ยุทธวิธีวางชื่อฟิคล่อคนอ่าน หุหุ)

1. ฟิคไฟนอลแฟนตาซี "ตามหาพี่ชาย" ตอนสุดท้าย ถ้ายืดก็อาจเพิ่มอีกตอนได้ แต่ใจอยากให้จบได้แล้วล่ะ (แบบว่าเริ่มหมดมุก)
2. ฟิคไฟนอลแฟนตาซี "once upon a time" side story ของตามหาพี่ชาย ตอบโจทย์ว่าคลาวด์คุงไปทำอะไรเข้าถึงโดนเซฟจังเก็บมาเป็นลูกกระจ๊อกประจำตัว
3. ฟิคเซนต์เซย่า sanc-top ที่ยังไม่จบ
4. ฟิคเซนต์เซย่า before 'n after" เอาเซนต์ 2 ยุคมาเจอกัน ทีนี้....ใครจะอยู่....ใครจะไป
5. ฟิคพ่อบ้านฯครอสกับเคาท์เคน "your butler, my butler"
4. ฟิค d gray man "white cat, black cat" เดาแพร์ริ่งได้ชัดแจ๋ว
6. ฟิค d gray man "????" อะไรสักอย่างเกี่ยวกับแวมไพร์นี่แหละ ฟิคนี้เขียนเขียนตามรีเควสต์
7. ฟิคโตเกียวบาบิโลน "life afterward" ที่ดองเงียบ ทั้งๆ ที่เปิดบล็อกเพื่อจะเขียนฟิคนี้นะเนี่ย ฮือออออ.....

หมดยังเนี่ย...

อืม....จริงๆ มีฟิคบารามอสที่พล็อตไว้แต่ยังไม่ลงมือเขียนอีกนะคะ เพราะคิดว่ากระแสบารามอสเงียบลงไปเยอะ คงไม่มีคนอ่านแล้ว+คนเขียนก็พลอยไม่มีไฟไปด้วย แต่ถ้ายังมีคนอ่านก็จะเขียนค่ะ (ไม่งั้นอาจเอาพล็อตไปปรับใช้กับฟิคอื่นได้)

ก็มี....

     - family lxl รุ่นน้องในป้อมโดนวางยากลายเป็นเด็ก 3 ขวบ เหลือรุ่นพี่ 2 คนไว้เลี้ยงเด็ก 555+
     - Cinderella ina princeless night จริงๆ มันเป็นตอนต่อของฟิควิลเลียม-ริชาร์ดที่เขียนแล้วฝาก neoaries ลงในบอร์ด immortal eden น่ะคะ ถ้าเขียนต่อคงต้องลงฟิคเก่าในนี้ด้วย (ถ้าเขียนนะ)
     - little wizard VS dark wagabond ปรกติวิลเลียมจะเป็นพี่ชายใจดี+อ่อนโยนกับเด็ก แต่ถ้าบังเอิญเด็กคนนั้นคือริชาร์ด ????
     - เอิกส์...แน่นอนค่ะ "ฟิคสี่แสบฯ กับฟิคเจ้าชายน้อยอาตี้" ที่ดองข้ามทศวรรษในเด็กดี

      !!!!!!!!!! (OO!)  !!!!!!!!!!

โฮ....นี่มันอารายกาน............TT^TT

16/5/54

FF7 (AU) advent children: ตามหาพี่ชาย....ยยยยยยย! (P9)


Shonen ai Warning : รังสีอัลตราไวโอเล็ตรุนแรงเล็กน้อย (คิดว่านะ) แต่รับรองว่ายังปลอดภัยต่อสุขภาพ


Title : ตามหาพี่ชาย....ยยยยยยย!


Author : jes

Pairing :
ไม่มี๊...ไม่มี อีกอะแหละ

Disclaimer :
ตัวละครเป็นลิขสิทธิ์ของ square enix ค่ะ ไอเดียนี้เกิดขึ้นเพราะความเซ็งตอนฟังสัมมนา เพื่อถ่วงหนังตาไว้ไม่ให้หลับคาโต๊ะเลยขีดๆ เขียนๆ ฟิคมันแก้เบื่อ เลยได้ฟิคนี้ออกมา

Intro : เขียนตามใจอยากค่ะ เนื้อหาเลยไม่ตรงเนื้อเรื่องหลักและค่อนข้างไร้สาระ คิดว่าอ่านเอาสนุกแล้วกันนะเจ้าคะ ตามพล็อตเรื่องคราวนี้ตัวละครหลักจะเป็นฝ่ายชินระทั้งหมด เซฟจัง แซคกี้ แองจีล และเจเนซิสเลยได้มีบทกะเค้าบ้างหลังโดนเจสดองเก็บไว้ไม่เห็นหน้าค่าตาในฟิค brother เลยสักคน (เปลี่ยนมาดองบทเอริธ ทีฟ่า แบร์เร็ต และพวกพ้องคนอื่นๆ แทน -*-)  

แต่แค่อ่านชื่อเรื่องก็รู้แล้วใช่มะว่า...หนีไม่พ้นคลาวด์คุงกับแก๊ง 3 หนุ่มผมเงินตามเคย

ปล. เจสเป็นแม่ยกคลาวด์ค่ะ (หรือจะพูดให้ถูกคือ เซฟี่คลาวด์) อย่าว่าคลาวด์กันเลยนะ ถึงจะยอมรับว่าหมอนี่พึ่งไม่ค่อยได้จริงๆ ก็เหอะ!

-----------------------------------------------------------------------


แจ้งขอปรับเนื้อเรื่องนิดนึงค่ะ

เดิมจากเนื้อเรื่องตอนที่คลาวด์ไปรายงานภารกิจให้เซฟิรอธตอนเช้าก่อนพาพวกเด็กๆ ไปเที่ยว (ที่เซฟให้ยาดมกับมือถือสำรองมาน่ะค่ะ) ตอนที่เซฟยื่นมาซามุเนะให้แล้วบอกว่า

“เอาไปเช็กสภาพ แล้วคอยรับกลับมาด้วย”

ขอแก้เป็น

“เอาไปเช็กสภาพ แล้วฉันจะไปเอากลับมาเอง” นะคะ

คือ...ตอนแรกว่าจะให้คลาวด์พาเที่ยว 2 วัน เลยผูกเรื่องไว้ให้เช้าวันแรกเอาดาบไปซ่อม เช้าวันที่สองเอามาคืน แต่..เรื่องมันยืดค่ะ พอรวบให้คลาวด์ไปเที่ยววันเดียว มันก็จะไม่มีเวลาไปเอาดาบมาคืนเซฟ แล้วเซฟจะใช้แก้เผ็ดโฮโจในตอนนี้ได้ไงล่ะนั่น จะให้ใช้อาวุธอื่นมันก็ไม่ใช่เซฟ เพราะงั้น...ขอแก้เนื้อเรื่องนะคะ

......................



กว่าจะกลับมาถึงชินระก็เย็นเกือบค่ำ

พอขึ้นลิฟต์มาหยุดยืนที่หน้าห้องรองประธานฯ ประตูก็เปิดออกกว้างจากข้างในพร้อมรอยยิ้มโยยวนกวนหัวใจสไตล์เรโน่ ถ้าเป็นเวลาปรกติคงได้เปิดฉากสงครามน้ำลายระหว่างยาซูกับเรโนไปแล้ว แต่เมื่อเห็นคู่กรณีคนอื่นๆ รูฟัส เส็ง ไม่เว้นแม้แต่เซฟิรอธที่นั่งเรียงแถวกันเต็มห้องแถมยังจ้องตรงมาที่ตัวเองเป็นจุดเดียว ผู้มาใหม่ทั้ง 4 คนเลยได้แต่ทำหน้าแหยๆ แล้วก้าวเข้าไปข้างในเงียบๆ

“เอ่อ..” คลาวด์อึกอักขณะกวาดสายตาไปรอบห้อง “ขออภัยที่....”

คำพูดที่เหลือถอยกลับเข้าลำคอโดยอัตโนมัติ เมื่อนัยน์ตาสีฟ้ามองสบเข้ากับดวงตาสีเขียวเยียบเย็นที่ออกคำสั่งให้ หยุดพูดได้โดยไม่ต้องปริปาก จากนั้นนิ้วแข็งๆ ก็เอื้อมมาดึงข้อมือเล็กไว้แล้วดันให้ไปยืนอยู่ด้านหลังเก้าอี้ที่ตัวเองนั่งอยู่ ในขณะเดียวกันร่างสูงใหญ่แปลกตาที่เดิมยืนหันหหน้าเข้าหาหน้าต่างก็หมุนตัวกลับแล้วเดินตรงดิ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็วจนเสื้อกาวน์ตัวยาวสีขาวสะอาดที่สวมอยู่สะบัดพลิ้ว

....โฮโจ ! ! !

สุดยอดนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่อง (ฟั่นเฟือน) ในตำนานของชินระ

...ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้

“ไหน นี่ใช่มั้ย หนุ่มน้อยผมเงินที่เธอบอกว่าจะพามาให้รู้จัก แต่แล้วก็เหลวจนฉันต้องถ่อมาเองถึงที่นี่”

มือใหญ่แข็งแรงราวปลอกเหล็กคว้าหมับเข้าที่แขนของคาดาจ อีกข้างหนึ่งก็ตะครุบบ่ายาซูไว้แน่น นัยน์ตาสีดำสนิทแฝงประกายเลือดเย็นจ้องเขม็งไปที่ลอซซึ่งยืนอยู่ข้างหลัง ทำเอาเด็กหนุ่มทั้งสามใจหายวาบเพราะยังจับต้นชนปลายอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ แต่ในวินาทีถัดมาที่ตั้งสติได้ แต่ละคนก็เริ่มมีปฏิกิริยาต่อต้าน

เล็บที่ไม่ยาวนักแต่คมใช้ได้ของยาซูจิกลงไปที่ท่อนแขนภายใต้เสื้อกาวน์แล้วกระชากเต็มแรงพร้อมๆ กับคาดาจที่บิดแขนไปในทางตรงข้ามแล้วสะบัดออกรวดเร็ว เมื่อหลุดจากที่ถูกยึดตัวไว้ทั้งสองก็ย่อตัวลงต่ำเปิดทางให้ลอซสวนกลับบ้าง

“อย่านะ”

เสียงคลาวด์ร้องห้ามดังลั่นมาก่อน แต่พอจะขยับตัว ปลายมาซามุเนะก็ยื่นออกมาขวางทางข้างหน้าไว้จนเจ้าตัวจนใจที่จะเข้าไปช่วยอะไรได้

“อยู่นิ่งๆ อย่าทำอะไร...หมอนี่..ชอบลอบกัดทีเผลอ พวกเธอจะบาดเจ็บ”

ไม่รู้เพราะเป็นคำเตือนของคลาวด์ในฐานะพี่ หรือวิสัยของน้องที่ดีที่ต้องเชื่อฟังพี่ชาย คาดาจกับยาซูที่เตรียมพร้อมลงมือโจมตีต่อจากลอซชะงักกึกแล้วยอมถอยมาตั้งหลักข้างหลังพร้อมๆ กับลอซที่กระโดดหนีให้พ้นจากรัศมีมือเอื้อมถึงของโฮโจ

“โฮ่..” คนช่อบลอบกัดทีเผลอที่เอี้ยวตัวหลบหมัดขวาของลอซที่พุ่งเข้าใส่ไปได้แบบสบายๆ เหลือบตามองต้นเสียงที่ยืนหน้าบึ้งก่อนยิ้มแสยะ

“ไม่ได้ยินใครชมตรงๆ แบบนี้มานานแล้วสินะ นับแต่...ใช่...ฉันจำเธอได้ เจ้าเด็กเกะกะไร้ประโยชน์ที่ถูกลืมทิ้งไว้เมื่อ 14 ปีก่อน”

เสียงหัวเราะต่ำๆ ดังขึ้นแผ่วๆ ในลำคอเหมือนจะเยาะหยันก่อนทิ้งตัวลงเอนอิงพิงโซฟาแล้วหันไปเลิกคิ้วใส่รูฟัส

“ก็เห็นชัดๆ อยู่แล้วว่า ใช่ ยังจะถามทำไมอีก”

“อยากคอนเฟิร์มให้มั่นใจ..ก็เท่านั้น” รูฟัสถอนใจยาวแล้วยักไหล่ “ทีนี้จะเอายังไงกันดีล่ะ”

“ก็แล้วแต่สิ ดาบดีแต่ไม่เคยลับให้คมมันก็เป็นแค่ดาบทื่อๆ เล่มนึง ไม่เสียดายก็ทิ้งไป หรือคิดว่าจะเก็บเอาไว้ใช้แบบพอถูๆ ไถๆ ไปได้ก็แล้วแต่”

“นี่มันอะไร พวกนายพูดเรื่องอะไรกัน ฉันไม่รู้เรื่อง” คาดาจที่ความอดทนต่ำเป็นทุนเดิมเริ่มหัวเสียขึ้นมาบ้าง ในเมื่อฟังคนโน้นพูดนิดคนนี้พูดหน่อยแต่ไม่เข้าใจอะไรสักอย่างก็เปลี่ยนเป้าหมายเป็นพุ่งเข้าใส่รูฟัสแทน แต่อีกแค่ไม่กี่ก้าวก็จะเอื้อมมือไปขยุ้มอกเสื้อสูทสีขาวนั่นได้ เด็กหนุ่มก็ถูกเส็งที่ยืนประกบติดอยู่ข้างหลังล็อกตัวเอาไว้แน่นจนขยับเขยื้อนไม่ได้ แขนเล็กๆ ถูกกระชากไปรวบไพล่หลังไว้จนต้องสูดหายใจเข้าลึกๆ ด้วยความเจ็บ

รูฟัสยิ้มเย็นก่อนจะยกมือเสยผมด้วยท่าประจำ

“ก็กำลังช่วยเธอหา พี่ชายตัวจริงตามที่สัญญาไว้ไงล่ะ”

นัยน์ตาสีเขียว 3 คู่เบิกกว้าง ในหูได้ยินแต่คำๆ เดียวดังซ้ำๆ ไปมา


...พี่ชาย...


...ตัวจริง...


...พี่ชายตัวจริง


...หมายความว่ายังไง


“ไม่จริง”

คาดาจที่ยังโดนเส็งล็อกตัวไว้ไม่ยอมปล่อยออกแรงอาละวาดทั้งดิ้นทั้งสะบัดกรีดเสียงโวยวายดังลั่น “พี่ชายฉันอยู่นั่น พี่ที่ฉันตามหามาหลายปียืนอยู่ตรงนั้น อย่ามามั่ว”

รูฟัสวางกระดาษ 4 ใบลงบนโต๊ะรับแขกเล็กๆ ที่อยู่ตรงกลางระหว่างเก้าอี้ทุกตัว

3 ใบมีรายละเอียดเหมือนกันเปี๊ยบ แต่ใบที่ 4 ต่างออกไปอย่างเห็นได้ชัด

“ดีเอ็นเอของพวกเธอ 3 คนกับของคลาวด์ สไตรฟ์”

“ไม่นะ” ยาซูที่ปราดเข้ามาคว้าเอากระดาษแต่ละใบมาวางเทียบกันอุทานเสียงแผ่วพลางหันไปหาลอซที่ตะลึงจนทรุดลงไปนั่งอึ้งกับพื้น ส่วนคาดาจก็นิ่งสนิทเหมือนปิดสวิตช์หมดฤทธิ์จะอาละวาดกะทันหันจนเส็งยอมคลายแขนที่ยึดไว้แน่นง่ายๆ แล้วปล่อยให้นั่งแหมะลงบนพื้นด้วยอีกคน


“พี่ชาย”

ลงท้ายเสียงที่สั่นสะท้าน 3 เสียงก็ประสานกันเรียกหา

...ตอนนี้เหมือนโลกทั้งโลกพลิกคว่ำ ทุกอย่างกลับตาลปัตรจนไม่รู้ว่าอะไรคือความจริงกันแน่

“คาดาจ ยาซู ลอซ” คลาวด์ที่ละล้าละลังได้แต่เรียกชื่อของแต่ละคน นัยน์ตาสีฟ้าสดสะท้อนเงาคนที่ยังนั่งเฉย มือเล็กแตะลงบนท่อนแขนแข็งแรงที่ควบคุมมาซามุเนะแล้วขอร้องเบาๆ “เก็บดาบก่อนเถอะครับ”

นัยน์ตาสีเขียวที่แข็งกระด้างอยู่เสมอวูบไหว ริมฝีปากบางเม้มแน่น แต่ก็ยังไม่ลดดาบกลับไป

“และนี่...” รูฟัสถอนใจยาว “ดีเอ็นเอของเซฟิรอธ”

กระดาษใบที่ 5 ถูกวางลงบนโต๊ะ

...รายละเอียดที่ปรากฏไม่ผิดเพี้ยนไปจากทั้ง 3 ใบที่วางอยู่ก่อนแม้แต่น้อย

“พวกเธอ 3 คนมาตามหาพี่ชายที่นี่น่ะถูกแล้ว เพียงแต่...ไม่ใช่คลาวด์ สไตรฟ์ แต่เป็น “เซฟิรอธ” ที่นั่งอยู่ตรงนั้นต่างหาก”

“โกหก เป็นไปไม่ได้ ก็แม่...แม่...” ลอซที่ตัวโตที่สุด แต่ก็ดูเหมือนจะต่อมน้ำตาตื้นที่สุดด้วย

“แม่ ? ของแบบนั้นไม่เห็นจำเป็น จริงมั้ย หืม..” โฮโจทำเสียงเยาะแล้วพยักหน้าล้อเลียนให้เซฟิรอธ “ก็แค่ตัวโคลนในแล็บทดลองที่ถูก...โทษทีฉันไม่เคยจำชื่อพวกผู้ช่วย...ขโมยออกไปเมื่อ 14 ปีก่อนก็เท่านั้น ”

นัยน์ตาสีฟ้าวาววับ มือเล็กๆ กำแน่น เมื่อดวงตาสีดำปรายมองมาแล้วยักยิ้ม

“กลับไปก่อนนะ วันนี้ขอบคุณมาก”

ก่อนที่บรรยากาศในห้องจะเข้าขั้นหมดทางเยียวยา รองประธานฯ ก็ส่งเสียงดังขัดจังหวะพลางส่งรอยยิ้มบางๆ ที่แสนจะขัดกับแววตาแข็งกร้าวให้นักวิทยาศาสตร์ “เรโนจะไปส่งที่ห้องทดลอง”

“ก็ได้” น้ำเสียงไม่ยี่หระดังขึ้นแล้วลุกยืน “ฉันก็ไม่อยากทนนั่งดูละครน้ำเน่า การพบกันของพี่น้องที่พลัดพราก มากนักหรอก”

อีกไม่กี่ก้าวก็จะถึงหน้าประตูแท้ๆ แต่รู้สึกเหมือนมีลมเบาๆ พัดผ่าน โฮโจยืนนิ่งแล้วหรี่ตามองชายเสื้อด้านหลังที่ขาดเป็นริ้วกับมาซามุเนะที่ขยับเปลี่ยนทิศทางปุบปับ

“พลาดไปหน่อย คราวหน้าจะไม่ใช่แค่เสื้อ”

เซฟิรอธพูดเบาๆ ไม่หันหน้ามามองผลงานเลยด้วยซ้ำ

คลาวด์อมยิ้มน้อยๆ แบบไม่ปิดบังก่อนจะรู้สึกถึงร่างอุ่นๆ ที่โถมถลาเข้าหาพร้อมๆ กันจาก 3 ทิศทาง

“พี่ชาย ไม่จริง ไม่จริงใช่มั้ย”

“อยู่ๆ จะมามั่วว่าพวกฉัน 3 คนเป็นโคลนอะไรนั่นได้ยังไง”

“กระดาษพวกนั้นก็ไม่แน่ว่าของจริง อย่างชินระ..จะทำขึ้นมากี่ใบก็ได้...เนอะ”

เจ้าของเสียงทั้งสามจ้องเป๋งมาคล้ายจะคาดคั้นเอาคำตอบที่ตัวเองพอใจเท่านั้น เล่นเอา พี่ชาย (รึเปล่าก็ไม่รู้) พูดอะไรไม่ออก

“คือ...คือว่า”

“30 กว่าปีก่อน ชินระเริ่มพัฒนา “อาวุธมีชีวิต” มีโฮโจเป็นหัวหน้าโปรเจกท์” เสียงคนกุมความลับของชินระดังขึ้นเนิบๆ เรื่อยๆ เหมือนเล่าไปงั้นๆ แต่กลับได้รับความสนใจจากทุกคนในห้อง

“เมื่อ 15 ปีที่แล้ว โปรเจกท์ก็สร้าง นักรบที่สมบูรณ์แบบทุกประการขึ้นมาได้สำเร็จ แต่เปอร์เซนต์ที่จะสร้างนักรบคนถัดไปได้สำเร็จมีต่ำมาก ผู้บริหารตอนนั้นเลยตกลงให้ทดลองผลิตนักรบที่สมบูรณ์แบบเพียงด้านเดียว ที่น่าจะมีเปอร์เซ็นต์ความสำเร็จมากกว่าออกมาแทน โครงการระยะที่ 2 จึงเริ่มต้นขึ้นด้วยการแยกโคลนที่สมบูรณ์แบบ 1 เซลล์ออกเป็น 3 ส่วน...กำลัง ปัญญา และผู้นำ นั่นก็คือพวกเธอ 3 คน”

รูฟัสเงียบไปนิดแล้วเลิกคิ้วให้ชายหนุ่มผมเงินที่ยังนั่งทำหน้าเฉยกับหนุ่มน้อยผมบลอนด์ที่ยืนก้มหน้านิ่งอยู่ในวงล้อมของเด็กๆ ผมเงิน

“จะเล่าต่อมั้ย เธอ 2 คนก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วยนี่”

เซฟิรอธยังคงนั่งเฉย ส่วนคลาวด์ส่ายหน้า รูฟัสไหวไหล่น้อยๆ ยกมือขึ้นเป็นสัญญาณให้เส็งพูดบ้าง

“จากรายงานของทาส์กรุ่นที่แล้ว” เส็งเปิดแฟ้มขนาดใหญ่ในมือ “..อยู่ๆ ระบบรักษาความปลอดภัยของห้องทดลองก็ปิดล็อกตัวเองอัตโนมัติเพราะเกิดเหตุระเบิดจากการทดลองผิดพลาดขึ้น พอมีคำสั่งปลดล็อกระบบรักษาความปลอดภัยแล้วให้พวกโซลเยอร์เข้าไปสำรวจก็พบศพผู้ช่วยวิจัยเพศหญิงนอนตายจมกองเลือดอยู่ในทางเชื่อมระหว่างห้องทดลอง ในมือมีซีลบรรจุโคลนที่ถูกทำลายเสียหาย สภาพศพไม่สามารถระบุตัวตนได้ แต่โคลนในที่เกิดเหตุภายหลังตรวจสอบได้ว่าเป็นแค่โคลนที่ทดลองผิดพลาดแล้วยังไม่ได้ทำลายทิ้งเท่านั้น ทาส์กไม่ได้รับคำสั่งให้ออกตามหา เพราะผู้บริหารเปลี่ยนไปให้ความสำคัญกับการผลิตมาเทเรียมากกว่า”

“ชินระถูกแม่เธอต้มซะสุก” รูฟัสหันไปยิ้มๆ ให้คลาวด์แล้วถอนใจยาว “คิดว่า แม่เธอกับหัวขโมยคงไม่รู้จักกัน ถึงจะหลอกระบบรักษาความปลอดภัยแล้วใช้รหัสนักวิจัยที่ขโมยมาแทรกแซงระบบควบคุมอีกทีเพื่อเอาโคลนที่แบ่งตัวสำเร็จแล้วออกไปได้ แต่ก็อย่างที่รู้... ไม่รอดจากสารพัดสารพันกับดักของโฮโจ แม่เธอคงมาเจอเข้าก่อนทาส์กจะเข้ามาสำรวจเลยสวมรอยถอดเสื้อกาวน์สวมให้ศพ เอาโคลนที่ตายแล้วยัดใส่มือ ส่วนตัวเองก็เอาโคลนออกไป”

เด็กหนุ่มผมบลอนด์ยังคงก้มหน้า ลูกแก้วสีฟ้าหมองจัด ริมฝีปากเม้มแน่นจนเกือบเป็นเส้นตรง

...เป็นใครก็ต้องเสียใจ ที่คนสำคัญที่สุดในชีวิตตัดสินใจเลือกคนอื่น ..ไม่ใช่ตัวเอง

คาดาจละมือที่กอดแขนคลาวด์ไว้ หายใจเข้าลึกๆ เพื่อเดิมพันกับคำถามสุดท้าย แต่ลอซกลับเป็นฝ่ายถามตัดหน้าขึ้นมาก่อน

“ตอนนั้นพี่ชายอยู่ไหน ทำไมแม่ไม่พาพี่มาด้วย”

ทั้งๆ ที่คนตอบพยายามยิ้มแล้วแท้ๆ ไม่รู้ทำไมคนมองถึงรู้สึกว่ามันเหยเกเหมือนใกล้จะร้องไห้เต็มทน

“ติดอยู่ข้างในห้องทดลองน่ะ ออกมาไม่ได้”

...แน่แล้ว แท้จริง..พี่ชายรู้มาตลอดว่าพวกเขาเป็นใคร

...ไม่ใช่น้อง แต่เป็น...........


“วันนี้...พอแค่นี้ก่อนได้มั้ย” คาดาจก้มหน้า พยายามซ่อนน้ำตากับบังคับเสียงให้นิ่งที่สุด “ไว้พรุ่งนี้.. พรุ่งนี้ค่อยคุยต่อเถอะนะ”

ว่าแล้วก็ลุกขึ้นเดินออกไปเงียบๆ มียาซูกับลอซที่ซึมลงไปพอกันเดินตามหลัง


คล้อยหลังพวกคาดาจ รูฟัสก็ลุกขึ้นไปคุยโทรศัพท์ที่ระเบียงด้านนอก เส็งเอาแฟ้มบันทึกไปเก็บ พอในห้องไม่เหลือใคร เสียงคนที่แทบจะไม่พูดอะไรเลยก็ดังขึ้นใกล้ๆ

“ถ้าอยากคุย ก็ตามเด็กพวกนั้นไป”

คลาวด์กะพริบตาปริบเมื่อน้ำหนักจากมือใหญ่อุ่นจัดกดลงบนเส้นผมนิ่ม แม้แค่ไม่กี่วินาทีแต่ก็อุ่นวาบขึ้นมาในอกอย่างน่าประหลาด

“เดี๋ยวค่อยตามไปรายงานภารกิจของวันพรุ่งนี้ตอนค่ำๆ นะครับ”

“ไม่ต้องก็ได้ ฉันมีเรื่องคุยกับรองประธานนิดหน่อย อีกอย่าง...” สีหน้าของเซฟิรอธละมุนขึ้นเล็กน้อย “ฉันไม่มีแม่ อะไรที่ ไม่เคยมีมันน่าจะดีกว่า เคยมีแล้วกลายเป็นไม่มี เหมือนเธอกับเด็กพวกนั้น”  

คลาวด์ยิ้มกว้างพลางเดินเข้ามาด้านข้างเก้าอี้ ย่อตัวลงไปใกล้ๆ แล้วกระซิบแผ่วเบา

“ขอบคุณครับ...วันนี้คุณใจดีจริงๆ ด้วย

...กล้าพูดแค่ประโยคแรกเท่านั้นแหละ ส่วนประโยคหลัง....เก็บเป็นความลับ


..................................................................

อัพรับวันวิสาขบูชาตามสัญญาค่ะ ตอนนี้พยายามแก้ปมทั้งหลายที่ผูกไว้ในเรื่องออกไปได้เยอะ (แม้ว่าบางปมมันจะมารัดคอคนเขียนซะเองก็เหอะ) ถ้าอ่านแล้วงงหรือไม่เข้าใจตรงไหนก็คอมเมนต์บอกไว้ได้นะคะ จะได้ปรับแก้ให้อ่านรู้เรื่องขึ้น

ตอนหน้านี่จะเป็นตอนจบแล้ว (คิดว่านะ) แล้วจะแถมท้ายด้วย side story ตอนเดียวจบอีกเรื่อง

คุณคนรักคลาวด์ : แหะๆ หายเคืองยังคะ อัพตั้ง 2 ตอนแล้วน้า....



9/5/54

FF7 (AU) advent children: ตามหาพี่ชาย....ยยยยยยย! (P8)


Shonen ai Warning : รังสีอัลตราไวโอเล็ตรุนแรงเล็กน้อย (คิดว่านะ) แต่รับรองว่ายังปลอดภัยต่อสุขภาพ

Title : ตามหาพี่ชาย....ยยยยยยย!

Author : jes

Pairing :
ไม่มี๊...ไม่มี อีกอะแหละ

Disclaimer :
ตัวละครเป็นลิขสิทธิ์ของ square enix ค่ะ ไอเดียนี้เกิดขึ้นเพราะความเซ็งตอนฟังสัมมนา เพื่อถ่วงหนังตาไว้ไม่ให้หลับคาโต๊ะเลยขีดๆ เขียนๆ ฟิคมันแก้เบื่อ เลยได้ฟิคนี้ออกมา

Intro : เขียนตามใจอยากค่ะ เนื้อหาเลยไม่ตรงเนื้อเรื่องหลักและค่อนข้างไร้สาระ คิดว่าอ่านเอาสนุกแล้วกันนะเจ้าคะ ตามพล็อตเรื่องคราวนี้ตัวละครหลักจะเป็นฝ่ายชินระทั้งหมด เซฟจัง แซคกี้ แองจีล และเจเนซิสเลยได้มีบทกะเค้าบ้างหลังโดนเจสดองเก็บไว้ไม่เห็นหน้าค่าตาในฟิค brother เลยสักคน (เปลี่ยนมาดองบทเอริธ ทีฟ่า แบร์เร็ต และพวกพ้องคนอื่นๆ แทน -*-)  

แต่แค่อ่านชื่อเรื่องก็รู้แล้วใช่มะว่า...หนีไม่พ้นคลาวด์คุงกับแก๊ง 3 หนุ่มผมเงินตามเคย

ปล. เจสเป็นแม่ยกคลาวด์ค่ะ (หรือจะพูดให้ถูกคือ เซฟี่คลาวด์) อย่าว่าคลาวด์กันเลยนะ ถึงจะยอมรับว่าหมอนี่พึ่งไม่ค่อยได้จริงๆ ก็เหอะ!

-----------------------------------------------------------------------


ทั้งๆ ที่ตั้งใจว่าจะเป็นคนพาเที่ยว แต่เอาเข้าจริง..นอกจากสถานที่หลักๆ ที่บอกไว้ในแผนที่แล้ว คลาวด์ก็ไม่รู้จักที่เที่ยวยอดนิยมของพวกวัยรุ่นเลยสักแห่ง ลงท้าย...ก็กลายเป็นฝ่ายถูกพาเที่ยวซะเอง

......สวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดในมิดการ์

สถานที่ที่เด็กหนุ่มผมเงินทั้ง 3 คนลงมติเป็นเอกฉันท์ว่าอยากไปเที่ยวที่สุด

แรกๆ ก็ตะลุยเล่นเครื่องเล่นกันอยู่ดีๆ แต่หลังจากกินข้าวกลางวันเสร็จแล้วกำลังจะหาอย่างอื่นเล่นต่อ อะไรสักอย่างก็ดลใจให้คาดาจชวนทุกคนเข้าไปทดสอบความกล้าใน “บ้านผีสิง” เสียนี่

ผลปรากฏว่า...เจอดีกันถ้วนหน้า แต่ละคนขวัญผวาสติแตกกระเจิงจนคลาวด์ต้องหอบเอาทั้ง 3 ตัวยุ่งออกมาข้างนอกอย่างทุลักทุเล จำเป็นบทเรียนขึ้นใจว่าทีหน้าทีหลังอย่าหาเรื่องใส่ตัวด้วยการยอมให้เด็กเข้าไปเล่นในบ้านผีสิงอีก

“ฮือ..แง...” เจ้าคนตัวตั้งตัวตีอยากเล่นดีนักท่าจะอาการหนักสุด ในเมื่อเดินๆ อยู่ดีๆ ก็ได้ยินเสียงของตก พอก้มลงมองหาตามความเคยชิน อะไรสักอย่างก็กลิ้งออกมาฉีกยิ้มสยองให้จากใต้เก้าอี้ เล่นเอาเจ้าตัวร้องไม่ออก ตัวสั่นพั่บๆ แถมแข้งขาอ่อนเดินไม่ไหวให้คลาวด์ต้องกึ่งอุ้มกึ่งช่วยพยุงออกมา

“เค้าแกล้งเปิดเสียงของตกน่ะ กะเวลาให้คนมองที่พื้นสักพัก กลไกที่อยู่ใต้เก้าอี้ก็จะกลิ้งหัวตุ๊กตาออกมา” พี่ชายปลอบไปพลางเกร็งแขนขึ้นอีกนิดเพื่อรับน้ำหนักคาดาจที่ยังอ้อนกอดคอไว้ไม่ยอมปล่อย ส่วนมืออีกข้างก็ยกขึ้นลูบหลังลูบไหล่ปลอบอีกคนที่ตอนนี้แทบจะกอดเขาเอาไว้ทั้งตัว

“อะไรก็ไม่รู้เย็นๆ มาจับที่คอ...”  ยาซูที่เมื่อกี้ร้องลั่นบ้าน(ผีสิง)ไปแล้วทีนึงทำคอหดพลางหลับตาปี๋

“ไม่เป็นไร แค่โครงกระดูกปลอมที่อยู่แถวๆ นั้นยื่นมือมาแตะ ที่นิ้วคงมีเซนเซอร์จับความร้อนติดไว้ให้ขยับไปโดนคนที่มายืนใกล้ๆ”

จากนั้นก็เอียงหน้าไปกระซิบปลอบอีก 1 คนที่เหลือ

“ลอซ ใจเย็นๆ ข้างนอกไม่มีอะไรแล้ว ตัวนายมันหนักนะ”

“ไม่เอา เค้ากลัว” คนตัวโตที่สุดแต่ดันขี้กลัวที่สุดเอาแต่ส่ายหน้าไม่ยอมท่าเดียว ตั้งแต่ก้าวเท้าเข้าไปข้างในบ้านผีสิงได้ไม่ถึงสิบก้าว ลอซก็จัดแจงแปลงร่างเป็นน้องหมียักษ์ไซส์ XL เกาะติดหลังพี่หมีไซส์ M ไว้แน่น

ภาพผู้ชาย 4 คนยืนกอดกันนัวเนียอยู่หน้าบ้านผีสิง (ที่แย่ที่สุดคือมีเขาติดอยู่ตรงกลาง) คงดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะคนที่เดินผ่านไปผ่านมามักเบิ่งตาโตแล้วแอบอมยิ้มหรือไม่ก็หัวเราะกันคิกคัก คลาวด์ถอนใจอีกเฮือกใหญ่ก่อนงัดเอาไม้ตายออกมาใช้

“คนขายตั๋วบอกว่าแพนเค้กน้ำผึ้งกับวาฟเฟิลไอศกรีมของร้านที่อยู่ข้างๆ เคเบิลคาร์อร่อยมากเลยนะ”

ได้ผล...

“ไหนๆ ไปทางไหน แพนเค้ก วาฟเฟิล” ลอซหูผึ่งเด้งดึ๋งออกมาทันที ท่าทางจะลืมไปสนิทว่าเมื่อครู่ยังร้องงอแงกลัวผีอยู่แหมบๆ ก่อนทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้เมื่อโดนคาดาจกับยาซูที่จำต้องยอมปล่อยมือตามไปด้วยหันมาประสานสายตา จิก ใส่  

...เพราะพี่ชายไม่มีปฏิกิริยาเหมือนที่คิด แผนที่วางไว้เลยผิดพลาด คนที่ตั้งใจจะเป็น คนปลอบเลยต้องเล่นบทคนกลัวซะเอง

“ถามจริง..พี่ชายไม่กลัวบ้างเลยเหรอ” ยาซูถามด้วยความสงสัยขณะยืนต่อคิวซื้อของกิน

“ก็.....มันชินน่ะ” ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มกระจ่าง นัยน์ตาสีฟ้าสดเป็นประกายระยับ แต่ไม่ยอมตอบอะไรมากไปกว่านี้


ขณะที่แต่ละคนตั้งหน้าตั้งตาจัดการกับขนมของตัวเอง โทรศัพท์ก็ดังขึ้น พอกดรับน้ำเสียงเรื่อยๆ สบายๆ ของแองจีลก็ดังมาตามสาย

“ว่าไง เจเนซิสบอกว่าไปเที่ยวสวนสนุกกัน ดีมั้ย เสียงดังเชียว”

“ครับ” คลาวด์ยิ้มบางๆ พลางตักไอศกรีมเข้าปาก “ทางโน้นมีอะไรรึเปล่าครับ”

“โทรมางั้นแหละ ไม่มีอะไร” แองจีลหัวเราะเบาๆ “ว่าแต่..นายนินทาอะไรเซฟิรอธรึเปล่า เห็นหมอนั่นจามฟุดฟิดตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว ไม่มีอะไรจริงๆ บาย....”

แองจีลวางหูไปง่ายๆ ท่ามกลางความงุนงงของคลาวด์

...เมื่อตอนสายๆ เจเนซิสโทรเข้ามาหนนึง จากน้ำเสียงฟังแล้วดูอึกอักยังไงชอบกล พอรู้ว่าเป็นเขาไม่ใช่เซฟิรอธก็แกล้งหัวเราะกลบเกลื่อนแล้วเปลี่ยนคำถามเป็นตอนนี้เขากำลังทำอะไรอยู่

...จะคุยกับเซฟิรอธ แต่กลับโทรเข้าเบอร์สำรองที่แทบจะไม่เคยเปิดใช้

...แล้วทำไมถึงอยากรู้ว่าเขากำลังทำอะไร

...ไม่เข้าใจจริงๆ


พอท้องอิ่มก็เริ่มหาเรื่องเล่นต่อ แต่ก็ไม่รู้จะเล่นอะไรอีกดีในเมื่อเล่นมันหมดทุกอย่างที่มีในสวนสนุกแล้ว

“พี่ชาย ทะเลอยู่ไกลมั้ย อยากไปทะเล” อยู่ๆ ลอซที่นั่งมองแสงอาทิตย์ที่เริ่มฉาบท้องฟ้าสีน้ำเงินยามบ่ายให้ค่อยๆ กลายเป็นสีส้มอมทองของยามเย็นก็รำพึงรำพันขึ้นมาจุดประกายความอยาก

ตอนอยู่ที่นีเบิลเฮ์ลมซึ่งเป็นหมู่บ้านในหุบเขาก็มีแต่หิมะตอนหน้าหนาวกับทุ่งหญ้าสีเขียวในหน้าร้อน พอมาอยู่มิดการ์ทั้ง 3 คนก็ต้องตั้งหน้าตั้งหาทำงานหาเงินให้พอประทังชีวิต

...เพราะไม่เคยได้เที่ยวตามใจ เลยไม่รู้ว่า ทะเล หน้าตาเป็นยังไง    

“อืมมมม..” คลาวด์ขมวดคิ้ว “สะดวกที่สุดคงเป็นที่จูน่อน เพราะชินระมีศูนย์ฝึกโซลเยอร์อยู่ติดชายทะเลที่นั่น”

เท่านั้น....สายตา 3 คู่ 6 ข้างก็หันมาโฟกัสที่เขาเป็นจุดเดียวกัน

“งั้นไปได้ใช่มั้ย” ยาซูยิ้มกว้างพลางมัดมือชกกันต่อหน้าต่อตา “พี่ชายพาไปนะ.....”

“ไปวันนี้เลย พรุ่งนี้จะได้ตื่นมาดูทะเลแต่เช้า” คาดาจออกอาการเอาแต่ใจตามเคย

“โว้ว ทะเล” ลอซคุงตาโต มองหน้าก็รู้ว่าใจลอยไปถึงทะเลเรียบร้อยแล้ว

“ไม่ได้ ต้องทำเรื่องขออนุญาตก่อน แล้วก็เตรียม.....”

พูดยังไม่ทันจบ คาดาจก็ฉีกยิ้มแล้วคว้าเอาโทรศัพท์มือถือที่ไม่คิดจะเปิดใช้อีกเลยนับแต่ได้เจอคลาวด์ออกมาถือไว้ 

“ไม่ยาก แค่....”

แต่ยังไม่ทันจะได้ทำอะไร เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นขัดจังหวะอีกครั้ง พอคุยจบ คลาวด์ก็ยิ้มบางๆ ส่งให้ แม้จะปิดบังร่องรอยความหนักใจบนสีหน้าได้ไม่มิด

“ท่านรองฯ ให้ทุกคนรีบกลับไปที่ชินระเดี๋ยวนี้เลย”


.......................................................................

มาอย่างสั้นสุดๆ TT^TT  จริงๆ อยากเขียนยาวกว่านี้ค่ะ แต่กลัวไม่มีชีวิตรอดเพราะงานเข้าจนแทบกระดิกตัวทำอย่างอื่นไม่ได้ เลยอัพช้าขนาดนี้

รอไว้ช่วงหยุดวันวิสาขบูชานะคะ จะปั่นแบบยาวๆ ออกมาให้อ่านกัน ถ้าสมองแล่น+ไอเดียพุ่งจะเขียนให้จบเลย  เพราะเหลืออีกไม่เกิน 3 ตอนก็จบแล้ว....จากนั้นจะเขียน side story สั้นๆ สักเรื่อง แก้ต่างเผื่อใครสงสัยว่าทำไมเซฟิรอธฟิคนี้ถึงยึดติดกับคลาวด์เหลือเกิน...มันมีเบื้องหลังค่ะ

ตอบเมนต์

คุณคนรักคลาวด์ : ก่อนอื่นต้องขอโทษที่ต้องให้รออ่านนานค่ะ แล้วก็ขอบคุณมากๆๆๆๆ สำหรับคอมเมนต์ถามไถ่ เพราะพองานเร่งไฟเขียนฟิคก็มอด (เหนื่อย+หมดแรง+หัวไม่แล่น) ได้คอมเมนต์คุณคนรักคลาวด์ที่ล่ะช่วยเติมน้ำมันให้ คราวนี้สั้นหน่อยนะคะ แต่จะรีบเขียนต่อช่วงวันหยุดวิสาขฯ นี้แน่นอน

(คือ...คนเขียนเป็นพวก "ทำอะไรตามใจคือไทยแท้" ค่ะ ปรกติถ้าไม่มีใครแสดงตัวเป็นแฟนฟิคประจำก็จะอัพฟิคตามใจฉัน...แต่ถ้ารู้ว่ามีคนรออ่านล่ะก็..จะพยายามไม่ดองค่ะ...แต่ก็ดองไว้ที่เด็กดีหลายเรื่องอยู่..ง่ะ)


ฝากข่าว

(ไอคุณ)เจ้าสาว : ฟิค black butler+god child ของแกยังไม่เสร็จ รอไปก่อนนะ ขอเคลียร์เรื่องนี้กับเซย่าที่ค้างอยู่ให้หมดก่อน

โซบะถั่วงอก : ฟิคดีเกรย์แมน (ที่จำไม่ได้ว่าไปสัญญาว่าจะเขียนให้เมื่อไหร่) ถ้าอยากอ่านจริงๆ เขียนให้ก็ได้ แต่เป็นตอนเดียวจบนะ ต่อคิวหลังฟิคของเจ้าสาวด้วย

มิสยู : โตเกียวฯ ยังเขียนอยู่ แต่...อยากเขียนเรื่องอื่นก่อนง่ะ เรื่องนี้เขียนสนองตัณหาตัวเอง ช้าได้ไม่เป็นไร

สาวกชิออน : sanc top p2 ยังไม่เสร็จจ้ะ รอเดี๋ยวๆ