26/2/54

(Baramos) : Halloween Night


Author : jes

Pairing : ไม่มี๊ ไม่มี

ระดับ : ปลอดภัยไร้กังวล

Disclaimer : ตัวละครทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของคุณ rabbit ค่ะ

-----------------------------------------------------------------------

ยามค่ำคืนอันแสนมืดมิด....สรรพสิ่งรอบตัวดูสลัวเลือนและเย็นชื้นจากละอองน้ำในอากาศและหยาดน้ำค้างมากมายตามใบไม้และยอดหญ้า บนท้องฟ้ามีเพียงแสงสีเงินซีดจางจากดวงจันทร์ที่แม้แหว่งเว้าจนเหลือแค่เศษเสี้ยวเล็กๆแต่ก็นับเป็นแสงสว่างเพียงหนึ่งเดียวที่มีอยู่และพอช่วยให้อุ่นใจขึ้นมาได้บ้าง

คนกลุ่มหนึ่งยืนออกันอยู่แถวๆนั้นด้วยอาการกระสับกระส่าย หลายคนดูหวาดระแวงกับเงาสะท้อนของสิ่งต่างๆรอบๆตัวที่เวลานี้ดูตะคุ่มๆ พิกล บางคนสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงลมพัดหวีดหวิวไปมาไม่ก็เสียงแมลงและนกที่ออกหากินตอนกลางคืนที่จู่ๆก็เกิดอยากส่งเสียงขึ้นมาอย่างไม่มีปั่มีขลุ่ย แต่ที่แน่ๆมีคนขวัญผวาถึงขนาดลงไปนั่งคุกเข่าสวดมนต์อ้อนวอนต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอให้ตัวเองยังมีชีวิตรอดผ่านคืนนี้ไปได้ด้วยล่ะ

ภะคะวะโต นะโมตัสสะ....นะโมตัสสะ อิติปิโส......

เฮ่ย...เฟรินคิลคุงสะกิดเจ้าหญิงหัวขโมยที่ตั้งท่าหลับตาปี๋พลางสวดมนต์มั่วๆซั่วๆซ้ำไปซ้ำมาไม่ยอมหยุด

นะโม...นะโม.....

สองคนนั่นเดินมาโน่นแล้ว

นะโ...เฮ้ย จริงเหรอวะ ไหนๆ เฟรินลืมตาขึ้นทันควันแล้วรีบมองซ้ายแลขวาหาคนที่อยากเจอมากที่สุดโดยเฉพาะในตอนนี้ เมื่อเห็นคนๆนั้นเดินเข้ามาใกล้ก็แทบจะโผผวาถลาเข้าไปหาอย่างไม่สนใจใครหน้าไหนทั้งสิ้น

ซีบิ๊ลลลลลลล ~!!! ซีบิลจางงงงง ซีบิลจ๋า เสียงกรีดร้องด้วยความดีใจสุดขีดของเจ้าตัวยุ่งที่สุดในป้อมอัศวินเล่นเอาทุกคนที่อยู่แถวนั้นถึงกับเอ๋อรับประทานไปชั่วขณะ เว้นก็แต่เจ้านักฆ่ามาดหลุดที่เอาแต่กลั้นหัวเราะกั้กๆอยู่คนเดียว

เมื่อกี๊ฉันคงกรึ๊บมากเกินไป ท่าจะเมา เจคกระซิบกับเดธ

มั่วน่า แค่น้ำหวานใส่โซดาเนี่ยนะ ถ้านายเมาฉันก็ต้องเมาเหมือนกัน เดธสั่นหัวไปมาแล้วเอานิ้วแคะหู ขณะที่ครี้ดสรุปใจความสำคัญ

ฉันได้ยินไอเฟรินมันเรียกเจ้าซีบิลเต็ม 2 หูเลยว่ะ

ซีบิล...ซีบิลคนดี๊ คนดี เสียงเรียกดังขึ้นอีกครั้งเป็นการรับประกันว่าไม่มีใครหูฝาด

ใครก็ได้จับตัวเฟรินไว้ที เดี๋ยวมีเรื่องเจ้าแม่มาทิลด้าที่เป็นพยานเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างรีบออกคำสั่งบรรดาพรรคพวก หวังจะยุติสภาวะไม่ปรกตินี้โดยเร็ว

ช้าไปแล้ว....

เพราะใช้เวลาแค่ไม่ถึงครึ่งอึดใจ เฟรินก็กระโจนเข้ามาในรัศมีประชิดตัวนักบวชแห่งบารามอสที่เริ่มหน้าซีดเหงื่อตกจนต้องหลบวูบไปแอบอยู่ข้างหลังเจ้าชายแห่งคาโนวาลที่เดินมาด้วยกัน

แล้วเพื่อนฝูงก็มีอันต้องใบ้กินอีกครั้งเมื่อได้ยินคำพูดจากปากเจ้าของฉายา เจ้าหญิงเตาหลอมกับ เจ้าชายน้ำแข็งส่วนคิลคุงก็ลงไปหัวเราะชักดิ้นชักงออยู่กับพื้นเรียบร้อยแล้ว

ไอคาโล ถอยไปนะโว้ย ฉันไม่มีธุระกะแก

ไม่ คาโลปฏิเสธเสียงแข็งแถมยังกางแขนออกเพื่อป้องกันนักบวชผู้น่าสงสารไว้ให้พ้นเงื้อมมือนางมารร้าย

หลบไปไม่งั้นเจอผ่าปฐพี!!!เฟรินตวาดแว้ด (!?) (OO!)

ก็ได้ คทาพิพากษา คาโลยักไหล่แล้วเตรียมเรียกคทาคู่มือ

อย่าทะเลาะกันเลยครับ ซีบิลเห็นท่าไม่ดีเลยรีบตะโกนห้ามศึกแล้วยื่นอะไรสักอย่างในมือออกมาข้างหน้า นี่ครับ ของที่คุณเฟรินอยากได้

นี่นายไปขอผ้ายันต์กันผีจากลอเรนซ์มาให้เฟรินตามที่มันบอกไว้เมื่อวานจริงๆน่ะ คาโลอึ้งไปนิดก่อนจะรู้สึกนับถือคนตรงหน้าขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

จริงอ่ะ แล้วลอเรนซ์ยอมให้มาจริงๆเหรอ คิลหยุดหัวเราะราวกับปิดสวิตช์แล้วกระโดดเข้ามาร่วมวงด้วยอีกคน

ซีบิลยิ้มให้นิดๆตามนิสัย

คนบ้านเดียวกันมันก็ต้องช่วยเหลือกันอยู่แล้วเฟ้ย เชอะ! บอกแค่ไม่กี่คำซีบิลก็เข้าใจ...ไม่เหมือนพวกแก 2 คน อ้อ! ไอโรด้วยอีกคนที่ฉันทั้งอ้อนวอนทั้งขอร้องก็ยังทำเฉย ไอคนใจดำ ปากด่ามือก็คว้าเอาผ้าผืนเล็กๆในมือซีบิลมาเปิดออกดู

ไม่ใช่ผ้ายันต์อย่างที่ต้องการ....

แต่เป็นมีดสั้นสีเงินขนาดเล็ก 2 เล่มเป็นประกายวาววับอยู่ในห่อผ้า

เอกลักษณ์ประจำตัวผู้คุมกฎลอเรนซ์ ดอร์น ที่ใครเห็นเป็นต้องกลืนน้ำลายดังเอื้อก

พี่เค้าบอกว่า....กล้าขอก็กล้าให้ แต่บังเอิญเขียนยันต์ไม่เป็น ถ้าอยากได้ก็ให้เอามีดบินไปแทนครับ แล้วผมก็ไม่กล้าขอยืมคัมภีร์มนตร์สวรรค์ของพี่เค้าด้วยอ่ะ ซีบิลอธิบายด้วยสีหน้าโล่งอกโล่งใจที่ได้ของมาโดยปลอดภัยไม่เสียชีวิตไปซะก่อน

เอาวะ ก็ยังดี เจ้าหัวขโมยถอนใจเฮือกแล้วหยิบมีดสั้นเล่มนึงออกมารวมไว้กับสารพัดสมบัติที่เอาติดตัวมาด้วย ในที่สุดฉันก็ได้เครื่องรางครบ มีน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ของเอ็ดเวิร์ด ซาลาเปากับข้าวสวยเสกของโคลว์ ไม้แหลมของกัส ลูกประคำหัวกระเทียมของซีบิล แล้วก็มีดบินของลอเรนซ์

แต่พอจะหยิบมีดบินอีกเล่ม ซีบิลก็รีบตะครุบทั้งมีดทั้งผ้า(เช็ดหน้า) มาเก็บไว้ซะเอง

อีกเล่มของผมครับ หนุ่มน้อยพูดหน้าตาย

หา! นายเป็นนักบวชไม่ใช่เรอะ อาชูร่าที่ดูเหตุการณ์อยู่เงียบๆถามขึ้นหลังจากกลืนคุ๊กกี้เนยสดถุงเบ้อเริ่มลงท้องไปหมดแล้ว

นักบวชแล้วไง โคลว์โต้ นักบวชก็กลัวผีเป็นเหมือนกันนี่หว่า จริงมั้ยกัส

ภาพกัสจังที่พยักหน้าหงึกๆนี่ต้องแปลว่า เห็นด้วย100%’ อย่างไม่ต้องสงสัย

แล้วนักบวชกับหมอผีน่ะมันคนละสปีชี่ย์กันนะเพื่อน เอ็ดเวิร์ดรีบสนับสนุนต่อทันทีแล้วทำท่าขนลุก ดีไม่ดี ผีมันอยากลองของแกล้งหลอกแต่นักบวชขึ้นมาล่ะ บรื๋ออออออ

ที่พูดมาก็มีเหตุผล โรดีดนิ้วเป๊าะพลางยักคิ้วให้ นัยน์ตาสีมรกตเป็นประกายพราวระริก แต่ในบรรดาพวกเราก็มีแต่พวกนายที่เป็นนักบวชนี่แหละที่พอจะเป็นที่พึ่งได้คืนนี้ กลางป่าที่เคยเป็นสนามรบในสงครามเอเดน - เดมอสที่ทุกคนกำลังยืนอยู่นี่

อย่าพูดสิฟะ ไม่รู้มีคนตายเท่าไหร่ เฮ้อ! เกิดเป็นคนต้องรักศักดิ์ศรี แต่ถ้าต้องเจอผีนี่ขอถอยดีกว่า ขนาดนักรบวัยโจ๋อย่างครี้ด ธันเดอร์ยังหน้าซีด

พวกแกยังไม่เท่าไหร่ แต่ฉันนี่สิเจ้าหญิงจอมยุ่งเริ่มโอดครวญบ้าง

จริงดิ เจ้าหญิงแห่งเดมอสมาให้หลอกถึงที่ พลาดงานนี้จะมีหวังเสียใจตายรอบสองคิลคุงดีดนิ้วเปาะอย่างนึกอะไรเด็ดๆออก

ระวังตัวดีๆนะเฟริน พวกวิญญาณเอเดนที่ตายไปมีสิทธิ์มาชำระแค้นเอาคืนกับนายแทนเอวิเดสก็ได้โรแกล้งทำตาโตบ้าง

ไม่ก็พวกผีเดมอสมันเกิดอยากมาเข้าเฝ้าเจ้าหญิงเพื่อแสดงความจงรักภักดีก่อนไปเกิดใหม่ วะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ขนาดเมื่อกี๊ยังหวาดๆอยู่แท้ๆ แต่โจ๋อย่างครี้ดก็ฮากลิ้งได้

แกไปเดินห่างๆฉันเลยนะเฟ้ย เจ้าลูกครึ่งเดมอส ตอนนี้เราไม่รู้จักกัน ชิ่วๆเจคกับเดธรีบรับมุขทันที

พวกแก๊...ไอ$&@#*+!^$@#&!+ !#@$^%&*^$#!#@$%%^%$##%@ ขอให้พวกแก aaa bbb ccc แล้วก็ eee ด้วย แง่งงงงงง....ไอพวกบ้า!!! เฟรินหลุดด่ารัวเป็นชุดชนิดที่คนเป็นเจ้าหญิงเขาไม่ทำกัน แต่แปลกแฮะ...คราวนี้เจ้าชายน้ำแข็งที่มีหน้าที่คอยปรามกลับทำเฉยซะงั้น

ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆเสียงหัวเราะดังสะท้อนไปทั่วผืนป่าที่ครั้งหนึ่งเคยนองไปด้วยเลือดของทั้งมนุษย์และปิศาจเหมือนจะเป็นสาสน์ท้ารบกลายๆ

ปุ้ง...ปุ้ง...ปุ้ง

พลุสีแดง 3 ลูกถูกจุดขึ้นเป็นสัญญาณเรียกรวมพล

..........................................................

นักเรียนปีสองป้อมอัศวินร่วมร้อยกว่าชีวิตถูกเรียกให้มารวมตัวกันที่ลานกว้างบริเวณชายป่ากับบรรยากาศที่สุดแสนจะโรแมนติก คือ ยิ่งตกดึกก็ยิ่งมืด พอยิ่งมืดก็ยิ่งหนาวจนสะท้านไปทั้งตัว เปล่า...ไม่ใช่เพราะอากาศเย็นหรอก แต่เกิดจากอาการเสียวสันหลังวาบๆอยู่ตลอดเวลาต่างหาก

ฮือออออ ฮือๆๆๆๆ โอ๊ย! ฉันกลัวเจ้าขโมยแหกปากโวยวายแบบไม่อายสายตาชาวบ้านพลางกอดแขนเจ้าชายไอซ์ซี่ที่เริ่มปวดหัวตุบๆแบบไม่ยอมปล่อย

คนเยอะขนาดนี้ ผีเผอที่ไหนมันจะกล้าโผล่ออกมาเจ้านักฆ่าเพื่อนซี้ที่ถนัดการส่งคนไปเป็นผีพยายามปลอบใจ

ทว่าไร้ผล...

เงียบไปเลยไอคิล แกเคยเป็นผีมาก่อนเรอะถึงรู้ดีนัก เฟรินขึ้นเสียงสูงปรี๊ดดดดดก่อนจะชะงักกึกแล้วช็อกค้างขึ้นมาอย่างกระทันหัน....นัยน์ตาสีน้ำตาลเบิกกว้างพลางจ้องเป๋งไปยังภาพที่ได้เห็นเบื้องหน้า แขนขาก็พาลอ่อนยวบจนต้องลงไปนั่งสั่นพั่บๆอยู่กับพื้น ริมฝีปากเผยอขึ้นแต่กลับไม่มีเสียงใดจะกรีดร้องออกมาจากลำคอ

....ก็อยู่ดีๆกลับมีควันสีขาวมากมายที่ไม่รู้ว่ามาจากไหนพุ่งขึ้นมาจากพื้นดินเป็นสายพร้อมเสียงร้องโหยหวนที่ดังเอคโค่ไปทั่ว สักพักเงาร่างๆนึงเริ่มปรากฏตัวอย่างช้าๆ

แต่ใช่เฉพาะเฟรินคนเดียวที่สติแตกกระเจิง รู้สึกว่าทุกๆคนที่ถูกเรียกตัวมารวมกันที่นี่ล้วนมีอาการไม่ค่อยแตกต่างกันเท่าไหร่

ไม่นานนัก เงาร่างนั้นก็เริ่มชัดเจนขึ้น

ชัดขึ้นๆๆ

ชัดขึ้นๆๆๆๆ ชัดขึ้นเรื่อยๆ

ชัดขึ้นเรื่อยๆจนพอดูออก

พี่โรเว๊นนนนนนน พี่ทำอะไรของพี่ห๊า......เจ้าตัวดีโวยวายลั่นเมื่อแน่ใจว่าเงาที่เห็นเหมือนกับเจ้าชายโรเวนแห่งเจมิไนเจ้าของตำแหน่งเสธ.ซ้ายของป้อมฯชนิดไม่มีผิดเพี้ยน

....ไหงเจ้าคนที่กลัวมากที่สุดกลับเป็นคนแรกที่รู้ก่อนเพื่อนว่าโดนรุ่นพี่แกล้งเข้าให้ล่ะเนี่ย

เก่งนี่ รู้สึกตัวเร็วจัง โรเวนในชุดเสื้อคลุมตัวโคร่งมีฮู้ดสีดำตามแบบฉบับของยมทูต มือขวาถือเคียวเกี่ยววิญญาณ มือซ้ายถือเดธโน้ตพร้อมปากกาหันมาฉีกยิ้มกราดไปทั่ว

เมื่อพอรู้แล้วว่าเจ้าผีกำมะลอนั่นเป็นใคร แขนกับขาก็เริ่มมีความรู้สึก ปากกับลิ้นก็กลับมาใช้งานได้เหมือนเดิมอีกครั้ง

โหยพี่ เกิดใครหัวใจวายตายขึ้นมาว่าไง ใครรับผิดชอบ ครี้ดที่พอได้สติกลับมารีบร่วมด้วยช่วยโวยทันที

แหม...ก็ไม่เห็นมีใครเป็นอะไรนี่นะ ไหน...ใครตายแล้วบ้างยกมือขึ้น โรเวนยังเห็นทุกอย่างเป็นเรื่องชวนหัว

ไม่ตลกเลยพี่ คราวนี้เป็นเสียงประสานจากรุ่นน้องนับสิบคนที่เริ่มลืมตัวว่ากำลังพูดอยู่กับใคร

ก่อนศึกสายเลือดระหว่างรุ่นพี่ระดับหัวกะทิ 1 คนกับรุ่นน้องนับร้อยๆคนที่มีปนๆกันทั้งหัวทั้งหางกะทิจะระเบิดขึ้น ก็มีเสียงสวรรค์ดังขึ้นขัดจังหวะ

เอ้า! พอได้แล้วจ้ะเด็กๆทุกคน

มิสแรมเซิลนั่นเอง

นี่ก็ดึกมากแล้ว ส่วนเธอก็ได้เปิดตัวแบบสุดอลังการล้านแตกอย่างที่ขอมาเรียบร้อยแล้วนะโรเวน รีบๆเข้าเรื่องกันสักทีดีมั้ยจ๊ะ

เพราะเป็นอาจารย์คนสำคัญที่สุดของป้อมฯเลยไม่มีใครขัดแย้งอะไร

เอาล่ะ ฟังให้ดีนะทุกคน สีหน้าท่าทางยมทูตโรเวนบอกชัดว่าเอาจริง คืนนี้...เราจะมาเล่น เกมส์ทดสอบความกล้า กัน กติกาก็ง่ายๆ...ภายในเวลา 3 ชั่วโมง ให้ทุกคนพยายามค้นหาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่มีใบสีม่วงและลำต้นสีขาวที่มีอยู่เพียงต้นเดียวในส่วนที่ลึกและมืดที่สุดของป่านี้ให้เจอ

ใช่ตรงแสงสีขาวๆ สว่างๆ ที่อยู่ไกลๆนั่นรึเปล่าพี่ใครสักคนเอ่ยถามขึ้นมาทำให้สายตาทุกคู่เล็งโฟกัสตรงไปยังกลุ่มแสงสีขาวนวลในป่าลึกที่ให้ความรู้สึกว่ามันช่างห่างไกลกับที่ๆกำลังยืนอยู่ซะเหลือเกิน

ถูกต้อง พอเจอแล้วก็เอาผ้าเช็ดหน้าปักชื่อของตัวเองที่ทางสภาสูงแจกให้เมื่อวานไว้ไปผูกไว้ที่กิ่งไม้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย เริ่มจับเวลาเมื่อนักเรียนคนสุดท้ายก้าวเท้าเข้าไปในป่า สุดท้ายขอเตือนทุกคนด้วยความหวังดีว่ามหาปราชญ์เลโมธีได้กางเขตอาคมกางล้อมรอบบริเวณที่เล่นเกมส์ไว้แล้ว อย่าคิดหนีเด็ดขาดและนักเรียน 1 คนจะสามารถผูกผ้าเช็ดหน้าที่กิ่งไม้ได้แค่ 1 ครั้ง เพราะฉะนั้นลืมไปได้เลยถ้าคิดจะฝากผ้าเช็ดหน้าให้เพื่อนช่วยเอาไปผูกให้น่ะ เข้าใจมั้ย"

รับทราบรู้สึกเสียงตอบรับจากน้องๆแต่ละคนจะไม่ค่อยเต็มเสียง เต็มใจ เต็มปากเต็มคำกันสักเท่าไหร่ แต่อาศัยว่าพูดพร้อมกันเสียงเลยค่อนข้างดังพอใช้

ดีมาก...อ้อ! อีกอย่างนึง แต่พวกเธอน่าจะรู้กันดีอยู่แล้วนะว่าถ้าปฏิบัติภาระกิจครั้งนี้ไม่สำเร็จล่ะก็...โดน!!! ขอรับรองด้วยชื่อของเมจิกพรินซ์เลย เอ้า.....เริ่มทะยอยๆกันเข้าไปได้แล้ว อีกนิดๆ พอเข้าไปในเขตอาคมแล้วจะใช้เวทมนตร์กับวิชาการต่อสู้ไม่ได้นะ ขอให้โชคเลือด เอ๊ย โชคดีทุกคน

สักพักใหญ่ๆ...เหล่าผู้กล้าตัวน้อยๆที่ออกอาการกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเพราะถูกบังคับจิตใจอย่างรุนแรงก็หายเข้าไปในป่าลึกจนหมด

และแล้วเกมส์ทดสอบความกล้าของเด็กปี 2 ก็เปิดฉากขึ้นพร้อมๆกับที่...

เอาล่ะจ้ะทุกคนเสียงมิสแรมเซิลดังขึ้นอีกครั้งเมื่อนักเรียนปี 6 ป้อมอัศวินพากันออกมายืนเรียงหน้ากระดานแทนที่น้องปี 2 จนครบหมดทุกคน

พวกน้องๆเข้าไปในป่ากันหมดแล้วนะ ต่อไปหน้าที่ของพวกเธอก็คือ...ทำทุกวิธีทางชิงเอาผ้าเช็ดหน้าที่ปักชื่อน้องมาให้ได้ พยายามสะสมผ้าเช็ดหน้าให้ได้มากที่สุดนะจ๊ะ ที่สำคัญห้ามให้น้องรู้เด็ดขาดว่าใครเป็นคนเอาผ้าเช็ดหน้าไป คนไหนทำพลาดจะโดนปรับแพ้ทันที ระวังตัวกันด้วยนะทุกคนเพราะพวกเธอก็จะใช้เวทมนตร์กับวิชาการต่อสู้ในเขตอาคมไม่ได้เหมือนกัน ถ้าพร้อมแล้วก็ลงมือได้เลย

...เชื่อเลย เด็กปี 2 ที่เล่น เกมส์ทดสอบความกล้า กลายเป็นเหยื่อให้พี่ปี 6 ฝึก วอร์เกมส์ล่าสังหารโดยไม่รู้ตัว

แต่ที่แย่ที่สุดคือ....มีรอยยิ้มเย็นๆที่แสนจะไม่เป็นมิตรแอบแฝงอยู่ในมุมมืดโดยที่ไม่มีใครรู้ 

...........................................

เวลาที่เหลือขณะนี้ 2 ชั่วโมง 30 นาที

เสียงฝีเท้าที่เดินไปมาบนพื้นดินที่เต็มไปด้วยใบไม้แห้งดังสวบสาบทำลายความเงียบสงัดโดยรอบแต่ช่างไม่เข้ากันเล้ยกับเสียงคร่ำครวญหวนไห้ของพวกไม่รู้จักเวล่ำเวลา

ฮือ ๆ ๆ ๆ พ่อจ๋า แม่จ๋า ตาจ๋า ช่วยหนูด้วย หนูกลัวจะตายอยู่แล้ว แง๊...ไม่ต้องเดาก็รู้เนอะว่าเสียงใคร

ใครก็ได้ช่วยทำให้มันหุบปากทีครี้ดที่เดินนำอยู่ข้างหน้าตะโกนขึ้นมาอย่างประสาทเสียสุดๆ

อีกอย่าง...คุณเฟรินอยากพบท่านอลิเซียกับอดีตไฮคิงจริงๆเหรอครับ เรียกหามากๆเดี๋ยวก็มาจริงๆหรอกซีบิลถามขึ้นอย่างเดาไม่ออกว่าจริงๆมันหวังดีหรือประสงค์ร้ายกันแน่

….นั่นเด่ะ แม่อลิเซียกับพระเจ้าตาซี้แหงไปแล้วนี่หว่า

ฮือ...แม่จ๋า ตาจ๋าไม่ต้องมาแล้วก็ได้ พ่อจ๋าอยู่ไหนมาช่วยหนูทีเด้ เจ้าหญิง 2 ดินแดนชักอาการหนักมากขึ้นทุกทีๆ

นายจะกลัวอะไรนักหนานะเฟริน สาวน้อยแองจี้แว้ดเข้าให้อย่างเหลืออดเหลือทนเต็มที

นั่นสิคะ อย่างตอนนี้ถ้าเกิดอะไรขึ้น...คุณเฟรินจะเป็นคนที่ปลอดภัยมากที่สุดแท้ๆเจ้าหญิงเรน่อนคนงามที่เดินคู่กับคิลอยู่ด้านหลังรีบแจกแจงบ้างหวังจะให้เจ้าคนปัญหามากรู้จักสงบสติอารมณ์ก่อนที่พวกเพื่อนๆจะรวมหัวกันซัดมันให้สลบแล้วลากศพมันไปผูกไว้ใต้ต้นไม้แทนผ้าเช็ดหน้า

ด้วยความรักเพื่อน รู้ดีว่ามันกลัวผียิ่งกว่ากลัวตายเลยยอมจับกลุ่มเดินมาด้วยกันตั้งแต่ย่างเท้าเข้ามาในป่า ขนาดคาโลกับคิล...คนนึงรับหน้าที่เคลียร์ทางข้างหน้าอีกคนคอยระวังหลัง มีสี่นักบวชคอยเดินขนาบ 4 ทิศล้อมกรอบเจ้าตัวยุ่งไว้ ยังจะคนอื่นๆที่เดินล้อมหน้าล้อมหลังตามกันมาเป็นพรวนนี่อีก แต่เฟรินก็ยังไม่หมดปัญหาเสียที.....

(ภาพออกมาเป็นแบบนี้ค่ะ)

                                       ครี้ด              คาโล 
เจค                                                     เดธ
                                      โร                นิกส์

                                             เอ็ดเวิร์ด
                   แองจี้                                                  มาทิลด้า
โคลว์  เฟริน   กัส     
                                               
ซีบิล
                   ทิวดอร์                                                อาชูร่า
คิล               เรน่อน
        ซอร์โร

ว้ากกกกกกก เสียงใครก็ไม่รู้..คงเป็นปี 2 คนอื่นที่เดินล่วงหน้าไปก่อนร้องขึ้น เล่นเอาทั้งกลุ่มหยุดกึกแล้วกลืนน้ำลายเอื๊อก

โฮ แม่จ๋า ตาจ๋า บอกแล้วว่าไม่ต้องม๊า...ไม่ต้องมา ทำไมไม่เชื่อกันบ้าง อุ๊บ!” เสียงกวนประสาทเงียบไปเพราะมีใครสักคนอดรนทนไม่ไหวเอาขนมปังก้อนโตยัดปากเข้าให้

เฮ้ย!” ครี้ดที่เป็นแนวหน้าคู่กับคาโลร้องลั่นเมื่อมีตัวอะไรดำๆบินตัดหน้า

มนุษย์ค้างคาว เดธว่าบ้าง

แบทแมนบ้านแกเซ่ะ นี่มันค้างคาวดูดเลือดเฟ้ย อาชูร่าตะโกนตอบมาจากข้างหลัง

ค้างคาวตัวโตบินร่อนลงมาที่พื้นก่อนปรากฏร่างในชุดผ้าคลุมตัวยาวสีดำ ผมสั้นสีดำสนิทพลิ้วตามสายลมที่พัดมาเป็นจังหวะ ผิวขาวจัดเกินกว่าคนธรรมดา ดวงตาเป็นประกายสีแดงสด ที่สำคัญคือเขี้ยวเล็กๆที่งอกแหลม.....ท่านเคาท์แวมไพร์หัวเราะเสียงเย็นชวนขนลุก

แดร็กจังเหรอ งั้นต้องเจอไม้แหลมตอกวิญญาณ เอาเลยกัส ลุยโลดเพื่อน ทิวดอร์โยนภาระให้กัส เฮลซิ่งเอาง่ายๆ

ไม่ล่ะ กัสตอบกลับด้วยใบหน้าสิ้นไร้ความรู้สึก มีเมื่อไหร่ไม้หลงไม้แหลม ตอนเฟรินมาขอฉันเพิ่งกินลูกชิ้นปิ้งหมดพอดี ไม่เชื่อถามเอ็ดเวิร์ดดูก็ได้

อะไรนะ แกหลอกฉัน เฟรินที่กลืนขนมปังเข้าไปทั้งก้อนโวยวายยกใหญ่ก่อนจะทำตาโตแล้วชี้ไปที่ร่างอีกร่างนึงที่อยู่บนต้นไม้ใกล้ๆ นะ...นะ....นั่น...นั่น...นั่นอะ...อะ....อะ...อะไรน่ะ

พอรู้ว่ามีคนสังเกตเห็น ปิศาจจิ้งจอกในชุดกิโมโนสีขาวสะอาดก็กระโจนพรวดลงมาจากกิ่งไม้ เส้นผมสีทองอ่อนยาวเหยียดเป็นประกายสะท้อนแสงจันทร์ปิดบังใบหูรูปสามเหลี่ยมเล็กๆไว้เกือบมิด นัยน์ตาสีเหลืองอำพันจ้องตรงมาที่กลุ่มเหยื่อชนิดตาไม่กระพริบก่อนจะแย้มริมฝีปากออกน้อยๆด้วยความพอใจ

เอ็ดเวิร์ด น้ำมนต์ล่ะ แองจี้ชักเสียงสั่นขึ้นมาบ้าง

เมื่อกี๊หิวน้ำ เลยซดไปหมดแล้ว สาธุคุณเอ็ดยิ้มแหยพลางยกขวดเปล่าให้ดู

เอ้า เอาไป เฟรินที่ชักอยากจะเป็นลมไปให้รู้แล้วรู้รอดรีบยัดเยียดขวดน้ำมนต์ที่ตัวเองบังคับให้เอ็ดเวิร์ดทำพิธีให้เมื่อวานกลับคืนไปให้เจ้าของ นี่ด้วย...ซาลาเปากับข้างสวยเสกของแก รีบๆจัดการเจ้าพวกนั้นเร็วเข้า

ขอบใจนะเฟริน กำลังหิวอยู่พอดี หลวงพี่โคลว์ยิ้มแฉ่งแก้มแทบปริที่ได้ของกินที่โดนแย่งไปเมื่อช่วงกลางวันคืนมา พอดีกินหมูปิ้งหมดแล้วเหลือแต่ข้าวเหนียว ยังนึกอยู่เลยว่ากว่าจะครบ 3 ชั่วโมงมีหวังท้องร้องแย่

ขะ...ข้าวเหนียว เฟรินทวนคำ ไหนแกว่าเป็นข้าวเหนียวเสกที่ขอเก็บไว้เป็นเครื่องรางป้องกันตัวเองไงวะ

แหม...ถ้าไม่บอกอย่างนั้นนายก็ยึดไปหมดสิ แล้วฉันจะเอาอะไรกินล่ะ โคลว์ตอบแบบไม่สะทกสะท้านแถมยังมีหน้าไปเจรจาขอแลกเครื่องดื่มเสียอีก

เอ็ด

โอเค

และแล้วซาลาเปา 2 ลูกก็แลกได้น้ำมาครึ่งขวด ท่ามกลางเสียงร้องกรี๊ดอย่างขัดใจจริงๆของเจ้าแม่มาทิลด้า

หมายความว่า...น้ำมนต์ก็ของปลอมงั้นเรอะ

ฮื่อ เอ็ดเวิร์ดพยักหน้าหงึกหงัก ก็เฟรินเซ้าซี้จะเอาให้ได้ ฉันไม่รู้จะทำยังไงเลยส่งขวดน้ำเปล่าให้แทน

เจ้าตัวยุ่งสะดุดใจเล็กน้อยแล้วก้มลงมองลูกประคำหัวกระเทียม 108 หัวที่ห้อยคออยู่พลางหันไปหรี่ตามองนักบวชแสนสุภาพที่ยืนตีหน้าเจี๋ยมเจี้ยมอยู่ไม่ห่าง

เจ้าซีบิล นายอย่าบอกนะว่า...

เอ่อ...ผมเห็นมันแขวนอยู่หลังห้องอาหารดราก้อนน่ะครับ เลยขอยืมมาก่อน กะว่าพอเกมส์จบแล้วค่อยเอาไปคืนที่

ว้ากกกกกกกกก พวกแก...ไอเพื่อนซังกะบ๊วย ไอเพื่อนสับปะรังเค จาฟ้องแม่...ฮือๆๆๆๆๆ หัวขโมยสะอื้นไห้ น้ำตาไหลพรากๆอย่างสุดกลั้น

กรรม...กรรมไม่ต้องแบ พวกนักบู๊ทั้งหลายก็พลอยปลงตกกับความไม่เอาไหนของพวกนักบวชไปด้วย

เว้ยเฮ้ย...พวกแก๊ เสียงครี้ดดังมาจากแนวหน้า สู้ตายเว้ย พวกมันจะโจมตีแล้ว

พริบตาเดียวทั้งแวมไพร์และปิศาจจิ้งจอกก็พุ่งตัวเข้าโจมตีแบบดูโอ ยิ่งไปกว่านั้นไม่รู้ว่าไอผีมัมมี่ที่พันผ้าพันแผลเก่าๆขาดๆสีเหลืองอ๋อยตลอดทั้งตัวกับแม่มดเมดูซ่าที่ผมทั้งหัวเป็นงูเลื้อยพันกันไปมาแถมบางตัวยังแลบลิ้นแผล็บๆชวนสยองดันโผล่มาร่วมแจมด้วยตั้งแต่เมื่อไหร่

ตุ้บ! ตั้บ!

โครม...

เพี๊ยะ….

ผัวะ!

เปรี้ยง!

นี่แน่ะๆๆๆ

เมื่อทุกคนรวมพลังกันสู้ ในที่สุดธรรมะก็ชนะอธรรมอยู่วันยังค่ำ....(คิดว่างั้นนะ)

พอถูกทิวดอร์กระชากเอาผ้าพันแผลที่พันไว้แถวๆใบหน้าขาดติดมือออกไปปุ๊บ...มัมมี่ขี้อายก็รีบกระโดดหนีปั๊บพร้อมคว้าหมับเอาอาชูร่าติดมือไปด้วย ส่วนเมดูซ่าก็อาศัยทีเผลอกระชากคอเสื้อลากเจคกับเดธหายตัวแว๊บไปพร้อมกันจนได้

เสร็จไปสามล่ะ

คุณคาโลครับ ระวัง ย๊ากกกก ซีบิลตะโกนแล้วคว้าเอาลูกประคำกระเทียมที่เฟรินถอดทิ้งไว้เพราะชักทนกลิ่นไม่ไหวฟาดโครมลงไป แม้จะไม่โดนปิศาจจิ้งจอกอย่างที่หวังไว้แต่ยังไงซะก็ช่วยเจ้าชายน้ำแข็งที่เมื่อไร้เวทมนตร์ก็พาลจะกลายเป็นบุคคลไร้ค่าไว้ได้ล่ะน่า

ว้ากกกกก เจ้าพ่อเจ้าแม่ช่วยลูกช้างน้อยด้วยยยยยย

ใครก็ได้ช่วยที ได้ยินม้ายยยยยย เฮลป์มี พลีส

แย่ล่ะสิ...เอ็ดเวิร์ดกับโคลว์ดันพลาดท่าถูกท่านเคาท์แวมไพร์จับตัวไว้ได้ ตอนนี้กำลังส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลืออย่างเอาเป็นเอาตายดังสนั่น

เจ้าหัวขโมยตัวยุ่งไม่รู้จะทำยังไงเลยตัดสินใจเดิมพันกับเครื่องรางชิ้นสุดท้าย เพราะมั่นใจ 1000% ว่าเป็นของแท้แน่นอน

เฟี้ยว.....ฉึก

ไม่มีทางซะหรอกที่ฝีมือปาเป้าของหัวขโมยจะสู้นักบวชชั้นเซียน มีดบินจึงแหวกอากาศไปจิ้มจึ้กบนโคนต้นไม้ใหญ่ห่างจากเป้าหมายไปเป็นวา แต่ไม่รู้เพราะอะไรท่านเคาท์กลับทำท่าสะบัดหลบราวกับว่าชาติก่อนเคยจบชีวิตลงด้วยพายุมีดบินมาก่อนซะงั้น โคลว์เลยฉวยโอกาสบิดข้อมือหลุดออกจากกรงเล็บแหลมยาวได้สำเร็จก่อนที่ท่านเคาท์จะพุ่งตัวหนีหายไปพร้อมเอ็ดเวิร์ดผู้โชคร้ายและปิศาจจิ้งจอกที่ยอมรามือแต่โดยดี

....โหย เครื่องรางของเจ้าพ่อลอรี่นี่ศักดิ์สิทธิ์สุดยอดจริงๆ คิดถูกชะมัดที่ใช้ให้เจ้าซีบิลมันไปขอมาให้ เฟรินคนนี้ขอคารวะ

งานนี้กว่าจะหายใจหายคอกันได้คล่องๆก็มีผู้กล้าพลีชีพไปแล้ว 4 คน อาเมน....

แต่ในเมื่อชีวิตยังไม่สิ้นมันก็ดิ้นรนกันต่อไป จริงมั้ย

เหลือเวลาอีก 1 ชั่วโมง 40 นาที

คราวนี้เส้นทางเริ่มเปลี่ยนจากพงไม้หนาทึบสุดแสนจะเงียบสงัดมาเป็นแนวหลุมฝังศพที่กระจายตัวเป็นวงกว้างท่ามกลางแสงจันทร์ซีดๆ เรียกได้ว่าจะหาเส้นทางที่เหมาะกับการทดสอบความกล้ายิ่งไปกว่านี้ไม่มีอีกแล้วววววว......

....เอาวะ ลองคนมันจะกลัว เห็นอะไรมันก็น่าขนหัวลุกไปหมดแหละ จะเจ้าชาย เจ้าหญิง นักฆ่า นักรบหรือนักบวชก็ไม่เว้น

ทุกคนแข็งใจหน่อยนะครับ เกือบแล้วเสียงปลอบใจดังมาจากหนึ่งในสามนักบวชที่เหลืออยู่

ฮ่า...ฮ่า เกือบอะไรของนายวะเจ้าซีบิล เกือบรอดหรือเกือบตาย

ท่าทางมุขฝืดๆของครี้ดจะไม่ได้ช่วยให้บรรยากาศดีขึ้นสักเท่าไหร่

เกือบพ้นเขตสุสานตะหากย่ะ ถ้าไม่รู้จะพูดอะไรให้มันสร้างสรรค์กว่านี้ก็เงียบๆไปซะแองจี้ที่หน้าซีดลงๆแว้ดใส่พลางควงคทาในมือแล้วหันไปเหล่มอง ตัวปัญหา

ชะ...ชะ...ใช่...พวกเราต้องสู้เพื่อศักดิ์ศรี เพื่อเกียรติยศและเพื่อชัยชนะ เอ้า!สู้โว้ย หัวขโมยที่ตัวสั่นเป็นเจ้าเข้ารับคำตามด้วยแหกปากตะโกนประโยคที่เจ้าตัวคิดว่าสร้างสรรค์สุดๆแล้วออกมาทันที เล่นเอาเพื่อนๆประทับใจจนตัดสินใจได้ว่า.....ถ้าจบเกมส์นี้แล้วตูยังมีชีวิตรอด เห็นทีต้องเลิกคบกับมัน.....

โป๊ก!

โอ๊ย.....

เปล่า...คทาในมือแม่มดแองจี้ยังไม่ทันได้ขยับ แต่ฝักดาบในมือเจ้าหญิงแห่งอเมซอนกลับประเคนลงไปแทน

นั่นมันคำประกาศสงครามไม่ใช่เหรอยะ แล้วพวกในหลุมนี่ก็ทหารทั้งนั้น เกิดบ้าจี้ลุกขึ้นมาตามคำสั่งล่ะก็ เสียงมาทิลด้าชักขาดๆหายๆด้วยความหวาดเสียวเป็นกำลัง

แต่ละคนก้มหน้าก้มตารีบเร่งฝีเท้าขึ้นอีกนิดเพื่อให้ออกจากเขตสุสานโดยไว แต่ความซวยมันเป็นใจช่วยให้ตาไวสังเกตเห็นใครบางคนยืนหันหลังให้อยู่ในพงหญ้าที่ขึ้นรกสูงท่วมหัว

เสื้อคลุมยาวๆ สีดำ แถมมีฮู้ด???

พี่โรเวน เจ้าตัวยุ่งกรี๊ดลั่นด้วยความดีใจสุดขั้วก่อนจะจ้ำพรวดๆเข้าไปหา ขอกระโดดกอดให้หายกลัวสักทีเถอะน่า

มาทำอะไรอยู่ตรงนี้อ่ะพี่ ฮะ..ฮะ..เฮ้ย....ผะ...ผะ...ผะ...ผี...ผีนี่หว่า...ผีหลอก ช่วยด้วยยยยยย

เจ้าตัวยุ่งช็อกค้างพลางถอยกรูดแล้วทรุดลงไปชักกระตุกกับพื้นเมื่อร่างที่อยู่ในพงหญ้าหันกลับมาหาอย่างช้าๆ ชายผ้าคลุมโบกสะบัดขึ้นลงตามสายลมแรงที่อยู่ดีๆก็พัดขึ้นมาทำให้เห็นโครงกระดูกสีขาวโพลนที่ซ่อนอยู่ข้างใต้!!!!! แล้วพอเลื่อนสายตาขึ้นมองใบหน้า....ใช่แล้ว....หัวกะโหลกผีดีๆนี่เอง

ทั้งกลุ่มยืนตะลึงกันอยู่ไม่นาน แต่พอเจ้าโครงกระดูกเดินได้ขยับใกล้เข้ามา เสียงหวีดร้องโวยวายของอัศวินขวัญอ่อนก็ดังก้องป่าแบบน็อน-สต็อป สองขาทำงานก่อนที่สมองจะร้องสั่งการซะอีก ลงท้ายก็วิ่งหนีกันกระเจิดกระเจิงไปคนละทิศละทางอย่างช่วยไม่ได้

ท่านแม๊ ท่านแม่เจ้าขา ช่วยหนูด้วย

ว้ากกกกกกกกกก อย่าเข้าม๊า....บอกว่าอย่าเข้ามา ฮือๆๆๆๆๆๆ กลัวแล้ว อย่ามาหลอกมาหลอนกันเลย

รีบๆไปผุดไปเกิดซะเถอะครับ แล้วผมจะทำบุญกรวดน้ำไปให้ พรุ่งนี้เช้าเลย

อยากกินอะไรขอให้บอก แต่อย่ามาแกล้งหลอกกันแบบเน้ ฮือออออ เค้ากลัวนะตัวเอง

.................................

เหลือเวลาอีก 1 ชั่วโมง 10 นาที

เราอยู่ตรงไหนแล้วมาทิลด้าที่เริ่มจะสงบสติอารมณ์ได้สำเร็จถามขึ้น

เรากลับเข้ามาในป่าอีกแล้วล่ะ ใกล้ต้นไม้ที่ว่าขึ้นมาอีกนิดด้วย เจ้าขอทานกำมะลอพยายามสูดลมหายใจเข้ายาวๆเข้าปอดพลางมองไปรอบๆตัวนิดนึงแล้วค่อยตอบคำถาม

งั้นเรารีบไปกันต่อเถอะ แองจี้พยายามพยุงตัวลุกขึ้นยืนจนได้แม้จะยังหอบฮักๆอยู่ก็ตาม ไม่รู้มีคนอื่นอยู่แถวนี้มั่งรึเปล่า

อย่าตะโกนเรียกเลย มาทิลด้าตัดสินใจ

ฉันก็ว่างั้น เราเหลือกันแค่นี้ ตะโกนไปก็อันตรายเปล่าๆ ทุกคนคงไปรวมกันที่ต้นไม้ เราก็รีบไปมั่งดีกว่าโรพยักหน้าน้อยๆเป็นเชิงเห็นด้วยแล้วออกเดินนำไปเป็นคนแรก เล่นเอาสองสาวมองตากันแล้วออกเดินตาม

.....ว่าไงก็ว่าตามกันสิ

เดินกันมาเงียบๆสักครู่ใหญ่ๆ แองจี้กับมาทิลด้าก็ต้องมองหน้ากันอีกครั้งแล้วหันกลับไปมองแผ่นหลังของพ่อห้องสมุดเคลื่อนที่ที่เดินนำสบายๆไปเรื่อยๆ

ถ้ามีคอร์สวิชาเดินป่ารับรองหมอนี่ต้องได้คะแนนท็อปแน่ เพราะตอนนี้ทั้ง 3 คนเข้าใกล้วงเวทสีขาวมากขึ้นทุกทีๆ เฮ้อ!ค่อยโล่งใจขึ้นมาหน่อย

ทันใดนั้น...ท่านผู้นำก็ผงะในจังหวะเดียวกับที่ท่านผู้ตามชะงัก อยู่ๆก็มีผีดิบจีนกับซอมบี้คืนชีพโผล่หน้าออกมาจากหลังต้นไม้ใหญ่ สองแขนยื่นตรงออกมาข้างหน้าเหมือนอยากจะทักทาย ไม่ใช่....อยากจะบีบคอตะหากเล่า

กรี๊ดดดดดดดด สองสาวหวีดร้องอย่างลืมตัว ความกลัวทำให้มือกระตุกจนฝักดาบและคทาในมือถูกประเคนลงบนหัวผีดิบคืนชีพทั้งสองตัวชนิดกรรมการให้คะแนนไม่ทัน

กรี๊ดดดดด นี่แน่ะๆๆๆๆๆๆๆ

เจอเข้าแบบนี้ไม่ว่าผีที่ไหนก็ต้องเผ่น

พอได้แล้ว มันหนีไปหมดแล้วล่ะ โรพูดหัวเราะๆหลังจากยืนมองสองสาวด้วยความอึ้งอยู่หลายนาที

เหรอ ค่อยยังชั่ว แองจี้ค่อยๆลืมตาขึ้นอย่างหวาดๆ

แทนที่จะช่วยกันไล่ นายมัวยืนบื้ออะไรอยู่ไม่ทราบมาทิลด้าขึ้นเสียงใส่อย่างพยายามจะกอบกู้ฟอร์มที่หลุดกระจายเมื่อกี้ให้กลับคืนมา

ก็ฉันกลัว แล้วพวกเธอเก่ง เจ้าโรยังยิ้มได้พลางว่าเข้านั่น

งั้นคราวนี้พวกฉันเป็นคนนำ นายเดินตามมา

เอาล่ะสิ...พอภาพต้นไม้สีม่วงใบสีขาวเข้ามาปรากฏในสายตา แม้จะยังอีกไกลแต่พอรู้แล้วว่าต้องเดินไปทางไหน สองสาวก็จับมือกันปฏิวัติชิงอำนาจการเป็นผู้นำทันที

ตามสบาย เธอนำไปสิ โรยังยิ้มได้อยู่ทั้งที่ดวงตาและริมฝีปาก

อีกนิดๆ อีกนิดจะถึงแล้ว เย้! โอ้ลัลล้า..ฮะฮ่า

สวบ....

ขนาดนี้แล้วยังอุตส่าห์มีภูติ ผี ปิศาจตามมารังควานจนได้

กรี๊ดดดดดดด อ๊ายยยยยยยย ท่านผู้นำทั้งสองถึงกับหมดสภาพ เมื่อโดนผีนางไม้ห้อยหัวต่องแต่งลงมาจากต้นไม้ในระยะประชิดตัว ดาบกับคทาตกลงกับพื้นเพราะมือไม่มีแม้แรงจะจับจะยึดไว้ได้

ซ่า....

เสียงของเหลวถูกสาดใส่อะไรสักอย่าง

กรี๊ดดดด.... ผีนางไม้ร้องโหยหวนขณะกระเด้งตัวกลับขึ้นไปบนต้นไม้ตามเดิม

ลุกขึ้นเร็ว วิ่ง โรปราดเข้าคว้าทั้งอาวุธทั้งฉุดแขนเพื่อนให้ออกวิ่ง

มะ..เมื่อกี๊นายเอาอะไรสาดใส่นางไม้น่ะ แองจี้ยังสงสัย

อะไรเหรอ อ๋อ...ชาเขียวร้อนไง ฉันชงใส่กระติกติดตัวมาด้วย จริงๆไม่ร้อนเท่าไหร่แค่อุ่นๆเท่านั้นแหละ ยังพอมีเหลืออยู่ เอามั้ย แต่ขนมปังไม่มีแล้วนะ...เฟรินกินไปแล้ว

....ที่แท้เจ้าของขนมปังปริศนาก็นายนี่เอง เจ้าโรตีบอย

ก็ดี....โอ๊ย!...ไม่อ๊าวววววว ไม่เอาแล้ว

ข้างหน้ามีเงาตัวอะไรดักรออยู่อีกจนได้......

....................................

คุณคิล...คุณคิลคะ เรนอนกลัวอ่า เจ้าหญิงคนงามเกาะแขนเจ้านักฆ่าไม่มีมาดแจ แล้วที่อ้อนเนี่ยไม่ใช่อะไรร๊อก...ก็เจ้ากัสที่เดินอยู่ข้างๆมันแสนจะเย็นชาซะจนไม่น่าอ้อนเลยอ่ะดิ ส่วนนิกส์นี่...คิดซะว่าไม่มีตัวตนก็ยังได้

ไม่รู้วิ่งหนีเอาท่าไหนถึงหลุดมาอยู่แถวๆลำธารสายเล็กๆนี่ได้ แต่ก็ดีไปอย่างที่เห็นต้นไม้ที่เป็นเป้าหมายอยู่อีกไม่ไกล

เราเดินเรียบตามลำน้ำแล้วค่อยตัดเข้าป่าช่วงใกล้ๆต้นไม้ดีกว่ากัสเสนอ

รู้ป่ะว่านายคิดผิดอ่ะ กัสจังจ๋า....

บังเอิญแหล่งน้ำแถวนี้มันมีตัวประหลาดแอบอยู่ แหม...พูดถึงปุ๊บก็โผล่มาปั๊บเลย

ผิวน้ำแตกกระจายเมื่อปิศาจน้ำทั้งสองปรากฏร่าง

กัปปะตัวเขียวอื๋อแถมมีสาหร่ายพันรุงรังเต็มตัวกับปิศาจไซเรนที่มาพร้อมพิณคู่มือ

กรี๊ดดดดดดดด เสียงกรี๊ดสนั่นจากสาวน้อยคนเดียวในกลุ่ม

....เฮ่อ! ทำไมพวกผู้หญิงถึงชอบส่งเสียงชวนหนวกหูเวลามีอะไรเกิดขึ้นด้วยนะ กัสคิดในใจพลางขมวดคิ้ว แต่ เอ...นี่มันไม่ใช่เวลามาสงสัยนี่หว่า (นายเพิ่งรู้ตัวเหรอกัส)

อะจ๊ากกกกก คิลคุงลืมตัวตั้งท่ากระโดดเข้าช็อตตามถนัดแต่เพราะติดอยู่ในข่ายอาคมเลยไม่เกิดกระแสไฟฟ้าอย่างเคย ซ้ำร้ายยังโดนกัปปะตะครุบตัวไว้ได้ซะอีก

คุณคิลหลบซ้ายหน่อยค่ะ เสียงเรนอนดังขึ้นพลางยิ้มโหดแล้วยกขวดสเปรย์พริกไทยดำในมือขึ้นฉีดแบบไม่ยั้ง

อ๊ากกกกกกก กัปปะลงไปดิ้นปั่ดๆก่อนจะตะเกียกตะกายกลับลงไปในน้ำตามเดิม

ฮืออออ คุณคิลไม่เป็นไรนะคะ เรนอนตกใจหมดเลย พอภาระกิจช่วยเหลือตัวประกันเสร็จสิ้น เจ้าหญิงคนงามกลับไปตีบทอ้อนอีกครั้ง ขณะที่นักฆ่าไม่เหลือมาดกำลังเหงื่อตก

....มะ เมื่อกี๊ เรนอน ม่ายยยยยยยย ทำไมเธอน่ากลัวยิ่งกว่าผีอีก

อีกด้านหนึ่งเป็นศึกเกียรติยศของนักดนตรี นิกส์ ปะทะ ปิศาจไซเรน

วินาทีต่อมานิกส์ก็โวยวายลั่นขึ้นมาเป็นประโยคแรกในฟิกนี้แล้วดูท่าจะเป็นประโยคสุดท้ายด้วย

มั่ว...ไม่ได้เล่นเองนี่ ลิปซิ้งทั้งนั้น แล้วเพลงนั่นฉันเป็นคนเล่นเองในงานต้อนรับเหล่ากษัตริย์ตอนมาเอดินเบิร์ก มั่วแล้วยังก๊อบเพลงคนอื่นอีก แบบนี้อภัยให้ไม่ได้แล้ว

ปิศาจไซเรนจ๋อยไปนิดที่ความลับแตกก่อนจะแสยะยิ้มแล้วตรงเข้าตะปบคอเสื้อนิกส์ที่ยัวะจัดจนทำอะไรไม่ถูกลากลงน้ำไปเฉยเลย

ลงท้ายก็เหลือแต่เสียงกัสที่ตะโกนไล่หลังไป

แล้วฉันจะเก็บเครื่องดนตรีของนายไว้ให้ ไม่ต้องห่วง

จากนั้นกัสก็ยืนไว้อาลัยให้นิกส์อยู่ชั่วอึดใจเลยไม่รู้ตัวเลยว่าอะไรบางอย่างโผล่ออกมาจากเงาไม้และกำลังคืบคลานเข้ามาใกล้

ระวัง คิลตะโกนเตือนอยู่ข้างหลัง

ช้าไปแล้ว...

แค่หันกลับมา...ก็โดนตัวอะไรไม่รู้ดำๆจับหมับเข้าที่ข้อเท้าแล้วลากตัวเข้าไปในพุ่มไม้ใหญ่ที่อยู่ใกล้ๆ

ในที่สุด กัสก็ได้คำตอบในสิ่งที่เจ้าตัวเพิ่งสงสัยอยู่เมื่อกี๊

เหวออออออออออ

!!!!!

เฮ้! กัส เป็นไงมั่ง คิลตั้งท่าจะกระโจนเข้าไปช่วยตามเคย แต่ก็โดนเรนอนดึงแขนเสื้อไว้อีกแล้ว เรนอนว่าเราห่วงตัวเองก่อนน่าจะดีกว่านะคะคุณคิล...

ตอนนี้มนุษย์หมาป่าท่าทางกระหายเลือดเกิน 10 ตัวกำลังล้อมกรอบคนทั้งคู่อยู่

................................................

เอ๊ะ เมื่อกี๊เสียงคุณกัสนี่ครับ อยู่แถวๆนี้ด้วยซีบิลพึมพำพลางชะงักฝีเท้าแล้วหมุนไปหมุนมาหาต้นเสียง

เสียงกัสไม่ผิดแน่ ขนาดคาโลยังยืนยัน คงตกใจอะไรสักอย่างถึงส่งเสียงดังผิดปรกติแบบนี้

ไม่น๊าาาา ถ้านักบวชมือดีอย่างกัสไม่รอด ฉันจะตายคราวไหนถ้าไม่ใช่คราวนี้..โรคปากเบาแต่กำเนิดนี่มันรักษาไม่หายจริงๆ แถมอาการยังมากำเริบเอาเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ซะอีก

กลุ่มนี้ดูท่าจะดวงเฮ็ง(ซวย)ที่สุดแล้วล่ะที่บังเอิญต้องจับพลัดจับผลูไล่ตามหัวขโมยที่วิ่งเตลิดมาถึงทุ่งหญ้าขนาดใหญ่ แม้บริเวณนี้จะมีแสงจันทร์ส่องสว่างมากกว่าที่อื่นก็ตามแต่บรรยากาศรอบตัวก็ค่อนข้างวิเวก วังเวง วิเว๋โว๋ ยังไงบอกไม่ถูก

งั้น....คุณคาโลพาคุณเฟรินไปที่ต้นไม้ก่อนนะฮะ ผมขอตัวไปดูคุณกัสทางโน้นหน่อย นักบวชแห่งบารามอสเดินเลี่ยงออกไปโดยไม่สนใจเสียงโวยวายของเจ้าหญิงคนสำคัญที่ไล่หลังมา ยังไงซะนักบวชก็ต้องเข้าข้างนักบวชด้วยกันอยู่วันยังค่ำล่ะน่า

ไม่นานนักก็เห็นข้างหลังของซีบิลอยู่ไกลๆ......ตอนนี้จึงมีเพียงเสียงฝีเท้าของคน 2 คนเท่านั้นที่ค่อยๆเดินย่ำไปตามผืนหญ้าที่ชื้นไปด้วยละอองน้ำค้าง ลมเย็นพัดกระโชกอย่างแรง 

แกจะมาเดินเบียดฉันทำไม ออกไปห่างๆหน่อยก็ได้

"หัวขโมยงี่เง่าพอยิ่งกลัว...ก็ยิ่งจินตนาการ...พาลจะยิ่งสติแตกมากขึ้นเท่านั้น ฉันขี้เกียจวิ่งไล่ตามจับอีกรอบ" เจ้าชายน้ำแข็งตอบเสียงเย็นชาแต่ก็ยังไม่ยอมทิ้งระยะห่าง ดูดีๆจะรู้ว่ายิ่งขยับเข้ามาใกล้มากขึ้นกว่าเดิมอีก

"ใครงี่เง่า !! แกว่าใคร หา จะไปไหนก็ไปเลยไป!!!! ไอ้น้ำแข็งก้อน!!!" เจ้าหญิงเตาหลอมสะบัดหน้าพรืดก่อนจะสะอึกกึ๊กเมื่อเห็นคาโลเดินทิ้งห่างออกไปจริงๆ

ฮิ...ฮิ...ฮิ ๆ ๆ ๆ ๆ

เสียงหัวเราะ??? เสียงหัวเราะแผ่วๆลอยตามลมมา

ลางสังหรณ์ไม่ค่อยดีเริ่มส่อเค้าเมื่อเห็นเจ้าของเสียง....

ใต้เงาจันทร์มีผู้หญิงใส่ชุดขาวยืนส่งยิ้มเย็นๆมาให้ ผมสีเงินยาวจรดพื้นของเธอปลิวสะบัดตามแรงลม

เจ้าตัวดีถึงกับลมหายใจติดขัดเมื่อนึกถึงบรรดาสารพัดสารพันผีที่เจ้าห้องสมุดเคลื่อนที่มันเคยเลกเชอร์ให้ฟังก่อนหน้านี้

เสน่ห์ของเจ้าหญิงหิมะทำให้ผู้ชายหลงใหลได้มากกว่าผู้หญิง ไม่นานคนที่หลงชื่นชมก็จะถูกแย่งไปทั้งร่างกายและวิญญาณ

คาโล๊....คาโลอย่าเข้าไปนะแก อยากตายรึไง แล้วนี่ก็เหลือแกอยู่คนเดียว เกิดตายขึ้นมา...จะมีใครคอยปกป้องฉันล่ะ หา

ที่พูดแรกๆก็ดูเป็นห่วงเป็นใยดีอยู่หรอก แต่ประโยคท้ายๆนี่สิ.....จริงใจเป็นบ้า

คาโล เมื่อเห็นคนสำคัญที่สุดไปหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเจ้าหญิงหิมะ เฟรินก็เกิดแรงฮึดขึ้นมาอย่างประหลาด แต่พองัดเอาผ่าปฐพีขึ้นมาตั้งท่าจะโจมตีคาโลก็ยกมือห้ามพลางถอนใจยาวแล้วยักไหล่เดินย้อนกลับมา

ตัวปลอมน่ะ อย่าสนใจเลย

เล่นเอาทั้งหญิงเตาหลอมของแท้และเจ้าหญิงหิมะของเทียมเป็นงง

....จริงด้วย มาม้าหมอนี่เป็นจอมภูติแห่งสโนว์แลนด์นี่นะ กะอีแค่เจ้าหญิงหิมะ โด่เอ๊ย...จิ๊บๆ

สุดท้ายเสียงหัวเราะก๊ากๆไม่สมหญิงก็ดังสะเทือนเลื่อนลั่นแทนที่เสียงหัวเราะเย็นๆของเจ้าหญิงหิมะที่หายแว๊บไปไหนแล้วก็ไม่รู้สงสัยจะอายที่หลอกไม่สำเร็จ

คะ...คาโล ปละ..ปล่อยนะโว้ย แกจะทำอะไรฉันเฟรินหัวเราะค้างแล้วกระชากเสียงใส่เจ้าคนฉวยโอกาสที่อยู่ๆก็เบียดเข้ามาใกล้พลางรวบตัวหัวขโมยไว้ในอ้อมแขน

เงียบ คาโลสั่งเสียงเฉียบขาดแล้วเบี่ยงตัวออกให้เห็นว่ามีลูกไฟดวงเล็กๆมากมายลอยขึ้นมาจากใต้พื้นดิน

ละ...ลูกไฟวิญญาณ?เจ้าตัวยุ่งเสียงแห้งพลางกลืนน้ำลายเหนียวหนับลงคอ

คราวนี้ท่าจะของจริง เจ้าชายที่ต้องกลายสภาพมาเป็นหมอผีชั่วคราวขมวดคิ้วผูกติดกันเป็นโบ แต่นึกยังไงก็นึกวิธีปราบลูกไฟวิญญาณไม่ออก

แล้วจะเงียบทำไมล่ะวะ แหกปากหาคนช่วยเข้าเด้เฟรินด่าเข้าให้แล้วตะโกนขึ้นด้วยน้ำเสียงเดี่ยวๆ

ช่วยด๊วยยยยยยย ช่วยด้วย ช่วยด้วยจ้า ซีบิ๊ลลลลลลลลล ซีบิลอยู่หนาย ถ้าได้ยินแล้วให้รีบกลับมาช่วยด่วน นี่เจ้าหญิงสั่งนะ ไม่งั้นฉันจะฟ้องท่านตาชามัลจริงๆด้วย

เสียงขอความช่วยเหลือดังก้องไปในความมืดยามราตรีแต่จะมีใครได้ยินบ้าง.....

.................................................................

เวลาเหลืออีก 40 นาที

เอ๋ เสียงคุณเฟรินนี่ซีบิลที่เดินห่างออกมาชะงักก่อนตัดสินใจเดินกลับไปตามเสียงเรียก เพราะไม่ว่าจะทำยังไงก็หานักบวชแห่งกิลดิเรกไม่เจอ

เฮ้! นั่นอะไรน่ะ อะไรสักอย่างกำลังย่องกระดึ๊บๆแฝงกายลัดเลาะไปตามเงาไม้ที่ทอดตัวอยู่บนพื้น

พุ่มไม้...พุ่มไม้นี่นา.....พุ่มไม้ขนาดใหญ่ธรรมดา

แต่เมื่อกี๊ตอนเดินผ่านแถวนี้เป็นพื้นหญ้าโล่งๆ ไม่เห็นมีพุ่มไม้สักนิด....ที่สำคัญ....มันเดินได้!!!!!!

พอซีบิลเดินเข้าไปใกล้ ผีพุ่มไม้(!?)ก็หยุดนิ่งอยู่กับที่แล้วยื่นมือข้างนึงออกมา

ไม่รู้ว่าเพราะทื่อบื้อ ฉลาดน้อย หรือมั่นใจมากไปหน่อยว่าอีกฝ่ายมาดีก็ตาม พอเห็นมีมือยื่นออกมาหนุ่มน้อยก็รีบส่งมือให้

หมับ...

ทันทีที่มือ 2 ข้างของคน 2 คนประสานกัน แรงดึงมหาศาลก็เกิดขึ้น ร่างทั้งร่างของซีบิลที่ยังไม่ทันได้ตั้งหลักถูกกระชากเข้าไปในพุ่มไม้ทันทีอย่างไม่ปรานีปราศัย....ตกใจจนร้องไม่ออก

.....สาธุ..พระพุทธองค์ พระผู้เป็นเจ้า ใครก็ได้....โปรดช่วยนักบวชตัวน้อยๆคนนี้ด้วยเถอะ ผมยังไม่อยากตาย แต่ถ้าต้องตายจริงๆก็ขอตายแบบศพสวยได้มั้ยฮะ(!?)

กว่ารู้ตัวอีกครั้งก็ลงมานั่งคลุกฝุ่นอยู่กับพื้น..มีใครสักคนที่นั่งซ้อนอยู่ข้างหลังเอามือปิดปากไว้

สัญญานะว่าจะไม่ร้อง โอเค๊ เสียงที่คุ้นๆว่าเคยได้ยินจากไหนสักที่ดังขึ้นที่ข้างหู

พอคนตัวเล็กกว่าพยักหน้าเร็วๆ คนตัวโตกว่าก็ค่อยๆคลายอ้อมแขนออก

เจ้าชายโรมซีบิลกะพริบตาปริบๆเมื่อเห็นหน้าผู้ประทุษร้าย

อือฮึ ฉันเอง ไม่ใช่ผีที่ไหนหรอกน่า หัวหน้าแผ่นดินประชาชน....เจ้าชายโรม โอดิสซียิ้มแฉ่งพลางยกมือขึ้นปัดผมสีทองยาวหยักศกของตัวเองออกให้อีกฝ่ายเห็นใบหน้าชัดๆ

....เจ้าชายโรมจริงๆด้วย

เธอนี่ซื่อดีจริงๆนะ ขนาดยอมจับมือฉันเนี่ย มุขฝืดขนาดนั้นยังอุตส่าห์หลงเชื่ออีก ถ้าเป็นปิศาจจริงๆป่านนี้โดนกินไปแล้ว

ก็ผมไม่รู้สึกถึงไอปิศาจหรือจิตสังหารเลยตะหากครับ รุ่นน้องต่างหอแก้ตัวไปน้ำขุ่นๆ แล้วหัวหน้าแผ่นดินประชาชนมาทำอะไรอยู่แถวนี้ไม่ทราบ

อ๊ะ ฉันก็มาร่วมสนุกกับเกมส์ของป้อมอัศวินน่ะสิ โรมยักคิ้วแล้วยกโครงพุ่มไม้ปลอมที่คงเคยใช้เป็นฉากตอนแสดงละครเวทีขึ้นแล้วออกเดิน...เป็นการบังคับให้ซีบิลต้องเดินตามไปด้วย

หมายความว่า... ซีบิลใจหายวาบเมื่อเห็นพุ่มไม้เดินได้อีกพุ่มนึงเดินเข้ามาหาตามหลังมาด้วยผู้หญิงผมเงินในชุดขาวอีก 1 คน

ไง อาเธอร์ โรมร้องทัก

ดี สนุกเป็นบ้า แกล้งดึงขาคนโน้นมั่งดึงแขนคนนี้มั่ง ทำเสียงประหลาดๆอยู่ข้างๆมั่ง อยากแต่งแฟนซีมาซุ่มแกล้งเด็กก่อนเองนี่นา...คงช็อกกันไปหลายคน เสียดายไม่เจอเจ้าโรเวน..จะหลอกซะให้เข็ด หัวหน้าปราสาทขุนนาง....เจ้าชายอาเธอร์ เลโอนาท บริสตั้น ยักคิ้วให้แล้วมองมาที่ซีบิล นั่นเหยื่อนายเหรอ

อาฮะ แล้วนั่นก็.. โรมพยักหน้าแล้วหันไปยิ้มให้กัสที่เดินหน้าบึ้งตามหลังอาเธอร์มา

อื้ม...

ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ เสียงหัวเราะสนุกสนานของ 2 เจ้าชายดังขึ้นพร้อมๆกับเสียงตวาดแว้ดของอีก 1 เจ้าหญิง

หุบปากนะยะ เงียบๆไปเลย ฮึ!”

ใจเย็นน่าวีช่า หลอกใครไม่ได้ก็อย่ายัวะสิ อาเธอร์หันไปยั่วโมโหเจ้าหญิงแห่งสโนว์แลนด์...วีช่า โนเอลเล่น

เธอก็ปลอมตัวแนบเนียนดีนี่นา ข้อมูลเจ้าหญิงหิมะเธอก็รู้ดีที่สุด แล้วทำไม... โรมสงสัย

ไปเจอคุณคาโลเข้า แล้วเค้าดูออกว่าเป็นตัวปลอมใช่มั้ยล่ะครับซีบิลหัวเราะคิกก่อนจะรีบยกมือปิดปากตัวเองทันทีเมื่อสบเข้ากับดวงตาสีเขียวเรืองๆของหัวหน้าปราการปราชญ์ ส่วนกัสที่แอบหัวเราะไม่มีเสียงก็รีบปั้นหน้าทำท่าเฉยตามเดิม

ทันใดนั้น

ปุ้ง....ปุ้ง....ปุ้ง

พลุสีน้ำเงิน 3 ลูกถูกจุดขึ้นเป็นสัญญาณบอกหมดเวลา

......................................

เกมส์จบลงในเวลา 0.00 น.

เริ่มต้นเช้าวันใหม่พอดี

สุดท้ายทั้งรุ่นน้องปี 2 และรุ่นพี่ปี 6 ก็มารวมตัวกันที่หน้าต้นไม้ที่มีผ้าเช็ดหน้าสีขาวผูกอยู่หร็อมแหรมแทบนับผืนได้

ทั้งๆที่เมื่อ 3 ชั่วโมงที่แล้ว..น้องๆกลัวแทบตายแถมยังถูกพวกพี่ๆแกล้งหลอก พวกพี่ๆบางคนก็น่วมไปทั้งตัวเพราะโดนน้องๆร่วมรุมสกรัม แต่พอบรรยากาศงานเลี้ยงเริ่มกระจายไปทั่ว นักเรียนป้อมอัศวินทุกคนก็ออกอาการเฮฮาปาร์ตี้กันเป็นที่เริงรื่นชื่นบาน

ทุกคน ก่อนอื่นครูขอประกาศผลเกมส์ก่อนนะ มิสแรมเซิลขอเบรกความสนุกของเด็กๆด้วยการอ่านม้วนกระดาษในมือ

ปี 2 ที่เอาผ้าเช็ดหน้ามาผูกที่ต้นไม้ได้มี....โร เซวาเรส มาทิลด้า ซิลเวอร์ แองเจลีน่า โรมานอฟ คิลมัส ฟิลมัส เรนอน ธีน็อต เฟริน เดอเบอโรว์ และคาโล วาเนบลี ยินดีด้วยนะจ๊ะ

เฮ...วี้ดวิ้ว เสียงปรบมือดังสนั่นเมื่อมิสแรมเซิลประกาศชื่อหัวขโมยสุดแสบกับเจ้าชายน้ำแข็งออกมาเป็นอันดับท้ายๆ

ส่วนปี 6 ที่ชิงผ้าเช็ดหน้ามาได้ อืม...แนะนำตัวเองแล้วกัน ครูไม่รู้ว่าใครเป็นใครน่ะ มิสแรมเซิลหัวเราะให้กับบรรดารุ่นพี่ในชุดแฟนซีปิศาจ

เริ่มที่ฉันก่อนก็ได้ ยมทูตยิ้มแล้วชูผ้าเช็ดหน้าขึ้น 3 ผืน ปี 6 : โรเวน ฮาเวิร์ด ปี 2 : ซอร์โร วันวิล ทิวดอร์ วาโดรีลและ โคลว์ อาร์มสตรอง 

ปี 6 : ไธนอส ทิลดอล ปี 2 : ครี้ด ธันเดอร์ โครงกระดูกในเสื้อคลุมแบบเดียวกับโรเวนเปี๊ยบแนะนำตัวเองบ้าง จริงๆแล้วไธนอสใส่ชุดดำที่สกรีนเป็นลายโครงระดูกต่างหาก แล้วพอใส่หน้ากากหัวกะโหลกเพิ่มเข้าไปด้วยก็เป็นอันครบชุด

 ส่วนฉัน มัมมี่ขยับผ้าพันแผลที่เริ่มกะรุ่งกะริ่งออกแล้วโบกมือหยอยๆ ปี 6 : ชิวาส เดเบส ปี 2 : อาชูร่า เอพริล

 ปี 6 : โซมาเนีย มิสทรัล ปี 2 : เจค สวอน กับ เดธ ไฟเออร์ เมดูซ่าถอนใจเฮือกที่ได้ถอดหมวกแบตเตอรี่ที่ทำให้งูเคลื่อนไหวออกซะที

ตามมาด้วยท่านเคาท์แวมไพร์ที่ดวงตายังเป็นสีแดงสดเพราะไม่ได้ถอดคอนแทค เลนส์ ปี 6 : ลูคัส ซาโดเรีย ปี 2 : เอ็ดดี้

เอ็ดเวิร์ด ลอเรนโซ่ตะหากคร๊าบบบบพี่เอ็ดเวิร์ดประท้วงเสียงอ่อยด้วยความเกรงใจ๊เกรงใจซาตานตัวแอล

ปี 6 : ลอเรนซ์ ดอร์น ปิศาจจิ้งจอกที่ยังคงสภาพผมยาวเพราะวิกและตาสีทองด้วยคอนแทค เลนส์เช่นกันพูดไปด้วยมือก็ควานหาผ้าเช็ดหน้าที่เก็บไว้ในชุดกิโมโนสีขาววุ่นวาย ส่วนปี 2 ก็ ซีบิล สเวน

ลอรี่ลูคัสอึ้งไปนิดเพราะเดาไม่ออกว่าคู่หูคิดจะทำอะไร แต่ที่เรียกชื่อต้องห้ามได้ก็เพราะตรวจสอบแล้วว่าข่ายมนต์ยังมีผลอยู่

พี่ลอเรนซ์ฮะซีบิลเองก็พูดไม่ออก

เฮ้!” เจ้าชายโรมรีบชูผ้าเช็ดหน้าในมือขึ้นแสดงกรรมสิทธิ์ ฉันเป็นคนจับเจ้าหนูนั่นได้ต่างหาก

กิจกรรมของป้อมอัศวินไม่เกี่ยวกับแผ่นดินประชาชนลอเรนซ์ที่เริ่มหงุดหงิดขึ้นมานิดๆก่อนจะไหวไหล่แล้วคลี่ผ้าเช็ดหน้าในมือออกให้เห็นชื่อที่ปักอยู่จะๆตา เอ้านี่! ดูซะให้ชัดๆ หมอนั่นเป็นเหยื่อของฉัน

บนผ้าเช็ดหน้ามีเส้นไหมสีทองปักเป็นคำว่า ซีบิล สเวนเด่นชัดถนัดตา ส่วนผืนในมือโรมเป็นผ้าสีขาวธรรมดา

นั่นมัน ซาตานประจำป้อมฯตะลึงไปนึดก่อนจะหันไปต่อว่าคู่หู นายทำแบบนี้ได้ไงลอรี่ นั่นผ้าเช็ดแว่นฉัน มิน่า...หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ

โทษที นักบวชตัวแอลทำหน้าครึ่งบึ้งครึ่งยิ้ม มันคล้ายๆกับของจริงน่ะ

นี่หมายความว่า... โรมชักเข้าใจอะไรขึ้นมาหน่อยๆ

พี่แอบสับเปลี่ยนผ้าเช็ดหน้าผม นานๆทีซีบิลจังจะขออาละวาดกับเค้ามั่ง แบบนี้ถึงผมจะเอาผ้าไปผูกที่ต้นไม้สำเร็จก็ยังถือว่าถูกพี่จับได้อยู่ดีใช่มั้ยครับเนี่ย

ก็ต้องงั้นสิ ตอนฉันถามว่ามีกล่องหรืออะไรมาใส่มีดสั้นมั้ยเพราะมันไม่มีปลอก เธออยากส่งผ้าเช็ดหน้ามาให้เองทำไม

.....เพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่านักบวชอย่างลอเรนซ์ ดอร์นก็เจ้าเล่ห์แถมโมเมเก่งไม่ใช่เล่น

เอาล่ะจ้ะ ถือว่ายกผลประโยชน์ให้คนที่มีผ้าผืนจริงอยู่ในมือไปแล้วกันนะ มิสแรมเซิลทำหน้าที่กรรมการตัดสินแล้วรีบปิดประเด็นก่อนที่เรื่องจะยิ่งยุ่งไปมากกว่านี้ ว่าแต่กิจกรรมครั้งนี้ทางป้อมอัศวินดีใจที่ปราสาทขุนนาง ปราการปราชญ์และแผ่นดินประชาชนให้ความสนใจนะจ๊ะ ครั้งหน้าถ้ามีกิจกรรมแบบนี้อีกเราจะทำบัตรเชิญไปให้ แต่ตอนนี้เราขอนักเรียนของเราคืนก่อนนะ ได้มั้ยจ๊ะ...อาเธอร์

....แล้วกัส โทนียาก็ได้ไปเป็นเหยื่อส้มหล่นรายที่สองของไธนอส

พอหมดปัญหา..การเฉลยตัวจริงของพี่ปี 6 และชื่อน้องปี 2 ที่ถูกจับได้ก็มีต่อไปจนครบ....ถึงเวลาที่จะกล่าวปิดเกมส์และพูดเปิดงานเลี้ยงซะที ทีนี้มันมีประโยคสุดท้ายที่หลายๆคนไม่อยากให้มาถึงเลยน่ะสิ

สำหรับคนที่รอดในเกมส์นี้ไปได้ก็ขอให้หลับฝันดีโรเวนยิ้มกริ่มก่อนจะประกาศด้วยเสียงดังฟังชัดได้ยินถนัดทั่วทุกตัวคน และนี่คือบทลงโทษ....ขอให้ทุกคนทำตามนี้....ปี 6 ที่แย่งหน้าเช็ดหน้าไม่ได้ให้ไปช่วยกันจัดงานลอยกระทงแทนน้องปี 1 ส่วนพวกปี 2 ที่ถูกแย่งหน้าเช็ดหน้าก็...ให้ไปลอยกระทงกับรุ่นพี่ที่จับตัวเองได้แล้วกันนะ เอาล่ะเกมส์จบแค่นี้ เริ่มงานเลี้ยงได้เลย….”

1 ความคิดเห็น:

  1. นิหน่าเองค่ะ2/26/2554

    555 งานฮัลโลวีน สุดท้ายไปลอยกระทง^^ แต่งมาอีกเยอะๆน้าพี่เจส รออ่านอยู่ ><

    ตอบลบ