26/2/54

FF7 (AU) advent children: ตามหาพี่ชาย....ยยยยยยย! (p3)

Shonen ai Warning : รังสีอัลตราไวโอเล็ตรุนแรงเล็กน้อย (คิดว่านะ) แต่รับรองว่ายังปลอดภัยต่อสุขภาพ

Title : ตามหาพี่ชาย....ยยยยยยย!

Author : jes

Pairing :
ไม่มี๊...ไม่มี อีกอะแหละ

Disclaimer :
ตัวละครเป็นลิขสิทธิ์ของ square enix ค่ะ ไอเดียนี้เกิดขึ้นเพราะความเซ็งตอนฟังสัมมนา เพื่อถ่วงหนังตาไว้ไม่ให้หลับคาโต๊ะเลยขีดๆ เขียนๆ ฟิคมันแก้เบื่อ เลยได้ฟิคนี้ออกมา

Intro : เขียนตามใจอยากค่ะ เนื้อหาเลยไม่ตรงเนื้อเรื่องหลักและค่อนข้างไร้สาระ คิดว่าอ่านเอาสนุกแล้วกันนะเจ้าคะ ตามพล็อตเรื่องคราวนี้ตัวละครหลักจะเป็นฝ่ายชินระทั้งหมด เซฟจัง แซคกี้ แองจีล และเจเนซิสเลยได้มีบทกะเค้าบ้างหลังโดนเจสดองเก็บไว้ไม่เห็นหน้าค่าตาในฟิค brother เลยสักคน (เปลี่ยนมาดองบทเอริธ ทีฟ่า แบร์เร็ต และพวกพ้องคนอื่นๆ แทน -*-)  

แต่แค่อ่านชื่อเรื่องก็รู้แล้วใช่มะว่า...หนีไม่พ้นคลาวด์คุงกับแก๊ง 3 หนุ่มผมเงินตามเคย

ปล. เจสเป็นแม่ยกคลาวด์ค่ะ (หรือจะพูดให้ถูกคือ เซฟี่คลาวด์) อย่าว่าคลาวด์กันเลยนะ ถึงจะยอมรับว่าหมอนี่พึ่งไม่ค่อยได้จริงๆ ก็เหอะ!

-----------------------------------------------------------------------


“น่า..นะ นะ นะ คาจัง คนดี๊คนดี น๊า...” เสียงออดอ้อนชวนฝันขวัญผวาของปาป้าซังร่างยักษ์เจ้าของร้านอาหารที่ยาซูทำงานอยู่เซ้าซี้กวนใจไม่ยอมเลิก “ช่วยเจ๊หน่อยน่า นะ นะ คาจัง นะ พลีสสส.... ”

“คาดาจ เรียกให้มันถูกๆ หน่อย” น้องเล็กแห่งกลุ่ม 3 หนุ่มผมเงินตวาดแว้ด “แล้วทำไมฉันต้องเอาดอกไม้ขอบคุณไปให้คุณรีฟอะไรนั่นด้วยล่ะ”

“ก็เมื่อวานที่คุณรีฟให้ทางร้านไปจัดงานเลี้ยงไง ทางร้านเลยได้ออเดอร์มาอีกเพียบ ฮิฮิ” เจ่เจ๊ ทำสีหน้าเคลิ้มฝันพลางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ด้วยความปลาบปลื้มซะไม่มี “เจ๊ก็ต้องเชื่อมสัมพันธไมตรีเอาไว้เพื่อผลดีต่อไปในภายภาคหน้าสิจ๊ะ”

“แต่ในการ์ดที่แนบไปมีทั้งชื่อ รูปถ่าย ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ครบเซ็ตเลยเนี่ยนะ” คาดาจหรี่ตามอง “แค่นามบัตรร้านใบเดียวก็พอมั้ง”

“ไม่ด๊ายยยยยย” คราวนี้จากยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กลายเป็นยืนบิดไปก็บิดมาด้วยความเขิลล์สุดๆ แทน “แหม ดัจจี้ก็ จะมาจับผิดอะไรเจ๊ แค่ให้ช่วยเอาของไปส่งให้หน่อยแค่เนี้ย ตอนแรกว่าจะวานยาซูจัง แต่รายนั้นโวยวายลั่นร้านว่าหัวเด็ดตีนขาดยังไงก็ไม่ไป ไม่รู้ทำไม..เจ๊เองก็ไม่เข้าใจ ก็เหลือแต่ดัจจี้นี่แหละที่จะช่วยเจ๊ได้...”

“คาดาจ” เจ้าของชื่อยืนเท้าเอวหน้าบึ้งก่อนสะบัดหน้าพรืด “ถ้ายังเรียกไม่ถูกก็ให้ลอซไปแทนเหอะ ...กลับห้องดีกว่า”

“โอ๋...โอ๋...คาดาจจ้ะ คาดาจ รักหรอกเลยหยอกเล่น ตัวเองอย่าโกรธเค้าเลยน้า.. แล้วขืนให้ลอซคุงไปคุณรีฟต้องเข้าใจผิดคิดว่าเจ๊ส่งคนไปทวงหนี้แหงๆ งานนี้ต้องให้คนน่ารักๆ ไปเท่านั้นจ้ะ ...เอ้า! นี่ดอกไม้ นี่การ์ด ส่งให้ถึงมือคุณรีฟเลยนะ ต้องให้กับมือนะจ๊ะ อย่าฝากใครไว้ล่ะ”

ขณะที่หนุ่มน้อยกำลังปั่นจักรยานรุ่นคุณปู่เรียกพี่ออกไปด้วยความระมัดระวังสุดยอดและทุลักทุเลเต็มทน เพราะเจ้าช่อดอกไม้แทนใจไซส์พิเศษที่วางอยู่ในตะแกรงด้านหน้ามันมหึมาเสียจนบังทางข้างหน้าแทบมองไม่เห็น ก็มีเสียงตะโกนไล่หลังตามมา

“ส่งของเสร็จแล้วกลับมากินข้าวเที่ยงที่ร้านนะจ๊ะ คาจัง เอ๊ย ดัจจี้ เจ๊อยากรู้ว่าคุณรีฟฝากบอกอะไรถึงเจ๊บ้าง อย่าลืมนะ”

“คาดาจ คาดาจ คาดาจ ฉันชื่อดาดาจ อย่าเรียกชื่อคนอื่นเพี้ยนๆ ตามใจตัวเองได้มั้ย หา....เหวอ!!!!!!

จังหวะเดียวกับที่ลืมตัวหันไปโวยวายใส่ปาป้าซังตัวดี เลยไม่ทันได้มองทางข้างหน้าว่าตัวเองขี่จักรยานออกไปถึงหน้าถนนใหญ่โดยไม่ได้ชะลอความเร็วดูรถทางตรง ผลคือจ๊ะเอ๋เข้ากับลีมูซีนคันใหญ่เข้าอย่างจัง

เสียงเบรกกระทันหันดังสนั่นไปทั่วบริเวณตามด้วยแรงกระแทกที่ไม่เบานักพุ่งเข้ากระทบจนจักรยานที่ขี่อยู่เอียงวูบ แม้นัยน์ตาสีเขียวจะเบิกกว้างแต่สิ่งที่เห็นกลับเป็นแค่อะไรสีขาวๆ เคลื่อนไหววูบวาบ ในหูก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรราวกับโลกทั้งโลกเงียบกริบลงไปในชั่วพริบตา สองมือขยำอกเสื้อไว้แน่นจนแทบขาดติดมือเพราะอากาศในช่องอกมันบีบอัดจนเจ็บร้าวไปหมด...

สักพักก็ได้ยินเสียงหัวใจเต้นดังตุบๆ ตุบๆ รัวแรงราวกับจะหลุดออกมาข้างนอก ลมหายใจที่ติดขัดก็ค่อยๆ คลายออก คาดาจกระพริบตาปริบเพื่อขับไล่ความมึนงงก่อนจะรู้สึกถึงมืออุ่นๆ ที่ลูบหลังลูบไหล่อยู่ ตามมาด้วยเสียงคนคุยกันข้างๆ หู

คนนึงเอาแต่โวยวายโหวกเหวกต่างกับอีกคนที่นิ่งสนิท

“เจ้าเด็กนั่นขี่จักรยานตัดหน้าผมจริงๆ นะครับ คุณเส็ง”

...ใช่ เขาเองที่เป็นฝ่ายไม่ดูทาง

“ถนนโล่งแถมไฟเขียวอย่างนี้เป็นใครก็เร่งความเร็วกันทั้งนั้นแหละ”

...อาฮะ พูดอีกก็ถูกอีก

“เรื่องนั่นช่างก่อน มีใครเรียกรถพยาบาลรึยัง”

...คงเป็นเสียง คุณเส็ง

“สาบานได้ว่าไม่ได้ขับโดนสักนิด แต่เด็กนั่นล้มโครมลงไปเองนะครับ”

...???

“เบรกทันก็จริงอยู่ แต่ถ้าโดนแรงกระแทกเข้าไปเต็มที่..ไม่บาดเจ็บก็ต้องช้ำใน”

...???

“ท่าทางคงเป็นเด็กจนๆ แถวนี้ จะแกล้งตัดหน้าแล้วเรียกร้องเอาเงินรึเปล่าก็ไม่รู้”

...อ้าว! เฮ้ย! พูดแบบนี้ไม่ค่อยเข้าหูเท่าไหร่นะพวก

ไม่ได้ยิน คุณเส็งตอบว่าอะไร แต่รู้สึกถึงแรงตบเบาๆ ที่ใบหน้า ขณะที่อีกคนยังพล่ามไม่ยอมหยุด

“ถ้ายังไง เดี๋ยวผมลองไปถามหาญาติของหมอนี่แล้วให้เงินไปดูแลรักษากันเอาเอง...”


“เงียบไปเลยนะ”

1 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ5/23/2554

    O_O! เฮือก! เกิดอะไรขึ้นค่ะ!!!
    แล้วดัจจี้เป็นไรไหมอ่าT[]T
    โอ๊ย เป็นห่วง

    ตอบลบ