27/2/54

(Saint Seiya) : Don’t you know, what I think?

Author : neoaries+jeserith

Pairing : ท่านอัล+ท่านชิ เอ...หรือท่านชิ+ท่านอัลหว่า ชักไม่แน่ใจ

ระดับ : ปลอดภัยไร้กังวล

Disclaimer : ตัวละครทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของอ. Masami Kuromada ค่ะ ....บอกไว้ก่อนว่าฟิคนี้เล่นของสูงนะคะ แบบว่า (สูง) อายุง่ะ  

..........................................................................................


แซงค์ทัวรี่ยามเย็น....

จากท้องฟ้าสีครามที่เคยสดใสในยามเช้าบัดนี้หม่นสลัวเป็นสีเทาจางๆ เช่นเดียวกับแสงแดดที่จางหายกลายเป็นลำแสงอ่อนๆ ของดวงตะวันยามใกล้ลับขอบฟ้า อาบไล้ทุกสิ่งเบื้องล่างให้เป็นสีทองอมส้มตัดกับแสงเงาสีเข้มที่ทาบทับเหนือพื้นดิน สายลมเย็นโบกโบยไปมาเหมือนจะกระซิบบอก ว่าอีกไม่ช้าความมืดมิดแห่งราตรีกาลจะย่างกรายเข้าแทนที่เพื่อบดบังทุกสิ่งให้เลือนหาย เหลือไว้แต่เพียงความว่างเปล่า และ.....ความเหงา

...แล้ววันนี้ก็ไม่มา...

...เงียบหายไปตั้งสองวัน...

...สามวัน...

...ห้าวัน...

...ไม่สิ! หายไปตั้งอาทิตย์กว่าแล้ว...

เสียงถอนหายใจยาวดังมาจากร่างสูงของโกลด์เซนต์พิชเชส อัลบาฟิก้าที่ยืนสงบนิ่งอยู่หน้าวิหาร ดวงตาสีน้ำเงินเข้มกวาดมองไปรอบๆ ตัว จากบันไดเชื่อมต่อวิหารทั้งสิบสองยาวจรดทุ่งกุหลาบกว้างที่คั่นกลางระหว่างสิบสองวิหารศักดิ์สิทธิ์กับวิหารเคียวโก หากกลับไร้วี่แววของคนที่กำลังนึกถึงอยู่ตอนนี้

...เจ้าแกะขนฟู...

นั่นล่ะ ชื่อเรียกที่แอบตั้งให้โกลด์เซนต์ประจำวิหารแอเรียสที่อยู่ไกลออกไปมากที่สุด

เจ้าแกะขนฟู เจ้าของร่างสูงเพรียวบาง นัยน์ตาสีอเมทิสต์เป็นประกายสดใส เส้นผมสีอ่อนซอยไล่ระดับเต็มศีรษะยาวสยายจนปลายแทบจรดพื้น เจ้าแกะขนฟูที่มักมาพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยนตามสไตล์แกะๆ ซึ่งพร้อมจะมอบให้ทุกคนยามได้พบหน้า

ในขณะที่โกลด์เซนต์คนอื่นเดินผ่านมาแล้วก็ผ่านเลยไป จะมีก็แต่เจ้าแกะจอมยุ่งนี่ ที่มาวิหารเคียวโกทีไรเป็นต้องถือโอกาสป่วนวิหารอันแสนสงบเงียบของเขาเสียทุกครั้ง

เริ่มจาก...ทันทีที่มาถึงก็ต้องซดชากุหลาบที่เจ้าแกะวายร้ายนั่นถือวิสาสะไปเก็บกุหลาบพันธุ์พิเศษที่กว่าเขาจะปลูกขึ้นแล้วเลี้ยงให้โตได้ก็แทบร้องไห้ไปหลายรอบมาทำก่อนหนึ่งถ้วยด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มชนิดที่ไม่ได้รู้สึกรู้สมถึงความทรมานใจของคนปลูกบ้างเลย จากนั้นก็ขึ้นไปบอกธุระหรือรายงานความเรียบร้อยบนวิหารเคียวโก พอเสร็จกลับลงมาก็ลงมือชงชาอีกถ้วยพลางลากเอาเก้าอี้ตัวโปรดของเขาไปนั่งริมหน้าต่าง จิบชาไปมองทุ่งกุหลาบข้างนอกไปแล้วก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างมีความสุขอยู่คนเดียว

...เป็นแบบนี้ทุกครั้ง...

...ทุกครั้งที่เจ้าแกะมีธุระต้องขึ้นไปวิหารเคียวโก...

...ใช่ว่าไม่ไล่ แต่ไล่แล้วคนถูกไล่กลับไม่ยอมไป...

ไม่ว่าจะใช้วิธีไล่ทางอ้อมก็แล้ว หรือออกปากไล่ตรงๆ ก็แล้ว เจ้าแกะก็ยังวางท่าไม่รู้ไม่ชี้ทำหูทวนลมไม่สนใจคำพูดค่อนขอดที่ลอยมาเข้าหู หรือถ้ารำคาญมากๆ เข้ายังมีการหันมาขึ้นเสียงใส่เขาอีกแน่ะ

... ขอดูกุหลาบหน่อยเดียวเอง บ่นจัง นายไม่เคยอยู่จามิลบ้างก็แล้วไป

ไม่ก็...

... ไม่ต้องเฝ้าก็ได้ จะไปทำอะไรก็ไปเลย ฉันดูแลตัวเองได้...

คำตอกกลับที่ได้ยินเล่นเอาเจ้าของวิหารซึ่งยังเดินไปเดินมาอยู่แถวนั้นเพราะยังไม่รู้จะไปนั่งที่ไหนได้แต่กระพริบตาปริบๆ พลางจ้องมองคนพูดด้วยความงง นึกกลุ้มตัวเองที่เหมือนจะทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ

...นั่นสิ จะมานั่งเฝ้า ยืนเฝ้า เจ้าแกะให้มันได้อะไรขึ้นมา แต่ขอโทษเถอะ.....ให้มันรู้บ้างสิว่าที่นี่น่ะ มันวิหารพิชเชส วิหารปลาคู่ วิหารราศีมีนของฉันนะ!!!...

ลงท้ายเขาก็จำต้องยอมแพ้แต่โดยดี ปล่อยให้แอเรียส ชิออน นั่งอยู่อย่างนั้นจนแสงสุดท้ายของวันจางหายไปมองอะไรไม่เห็นอีกแล้วนั่นแหละ เจ้าแกะถึงจะค่อยๆ ยุรยาตรกลับวิหารตัวเอง แล้วถ้าได้กินข้าวเย็นก่อนกลับด้วยล่ะก็.....จะยิ่งอารมณ์ดีเป็นพิเศษ

...แต่คงเพราะยอมตามใจมากเกินไป สุดท้าย..แม้ไม่มีธุระที่วิหารเคียวโก เจ้าแกะก็ยังคงแวะเวียนมา...

...แม้ว่าจะเป็นยามฝนตกกระหน่ำ...อย่างเมื่อครั้งที่แล้ว

วันนั้นสายฝนโปรยปรายจากท้องฟ้าไม่ขาดสาย เบื้องหน้ามีเพียงกำแพงน้ำฝนแผ่ปกคลุมอยู่รอบด้านจนแทบมองไม่เห็นอะไรภายนอก อุณหภูมิรอบตัวเริ่มลดต่ำลงจนเย็นจัด หากหลังผืนม่านน้ำนั้นกลับมีเสียงรองเท้าคู่หนักของใครบางคนกำลังวิ่งฝ่าเข้ามาใกล้

สักพักก็มีลูกแกะตกน้ำมาหยุดยืนอยู่หน้าวิหารปลาคู่ในสภาพเปียกปอนทั้งตัว เส้นผมสีอ่อนเปียกลู่ไปตามโครงหน้าและร่างกายที่มีหยาดน้ำเกาะพราว

แทบจะในทันทีที่ก้าวเท้าเข้ามาข้างใน ดวงตาสีอเมทิสต์ก็กวาดมองมาทางเจ้าของวิหารที่ปักหลักนั่งอยู่บนเก้าอี้ยาวกลางห้องครู่หนึ่งเหมือนจงใจให้อีกฝ่ายรับรู้ว่ามีคนมาหาก่อนเบือนหน้าหนีไปทางอื่น แล้วถือวิสาสะทำไม่รู้ไม่ชี้เดินไปชงชาร้อนดื่มโดยไม่ขออนุญาตตามเคย

มาทำไม

ในที่สุดเจ้าของบ้านก็เป็นฝ่ายยอมเปิดปากก่อนด้วยประโยคที่ฟังยังไงก็ไม่ค่อยเหมือนการทักทายสักเท่าไหร่

วันนี้ท่านเคียวโกไม่อยู่ นายมีธุระอะไร

ดูท่าแกะที่กำลังใจจดใจจ่ออยู่กับการชงชาจะหูหนวกชั่วคราว สายตาหยุดนิ่งอยู่ที่กาต้มน้ำร้อน มือก็สาละวนควานหาถ้วยชาในตู้ข้างๆ

ชิออน

เสียงเรียกชื่อด้วยความไม่พอใจดังขึ้นพร้อมๆที่แกะไม่ได้รับเชิญชงชากุหลาบเสร็จพอดี ละไอร้อนที่พวยพุ่งขึ้นมาพร้อมกับกลิ่นหอมจางๆ ชวนให้รู้สึกอบอุ่นและผ่อนคลาย

จนน้ำชาอึกแรกล่วงลงลำคอไปแล้วนั่นล่ะ ชิออนค่อยถอนใจยาวแล้วตอบคำถาม

หลังคาวิหารแอเรียสมันรั่ว เลยกะว่าจะมาขอหลบฝนที่นี่ชั่วคราว นายคงไม่ใจร้ายไล่ฉันออกไปหรอกนะ  

...หลบฝน ที่วิหารปลาคู่เนี่ยนะ!...

...ดูมันจะตลกร้ายไปหน่อยแล้ว ถ้าวิหารติดกันยังพอว่า แต่นี่ เล่นห่างกันเป็นรอบ...

...แล้วทุกวิหารหลังคารั่วหมดหรือยังไง เลยต้องมาถึงนี่

 ฉันเลยต้องเดินสำรวจดูให้ทั่วทุกวิหารจะได้รายงานตอนเคียวโกกลับมาเสียงชิออนเล่าจ๋อยๆว่าเพราะอะไรถึงต้องระเห็จมาไกลถึงวิหารพิชเชส

ที่นี่ไม่มีปัญหาอะไร เชิญกลับไปได้..ฝนเริ่มซาแล้ว

นายนี่..ถ้าจะเฝ้าสวนกุหลาบนานเกินไป คำพูดคำจาทิ่มแทงเหมือนหนามกุหลาบเข้าไปทุกที ชิออนทำเสียงจิ๊กจั๊กในลำคอพลางวางถ้วยชาลงแล้วเอื้อมมือไปหยิบคุกกี้ในโหลแก้วทรงสวยตรงหน้าเข้าปากหน้าตาเฉยแล้วเอ่ยต่อ พอเคียวโกกับโกลด์เซนต์วิหารใกล้ๆ กับนายไม่อยู่กันหมดนี่ แถวนี้มันเงียบจังเลยนะ เหมือนอย่างที่คิดไว้เลย

นัยน์ตาสีน้ำเงินที่ติดจะเฉยชาเงยขึ้นสบกับดวงตาสีม่วงตรงๆเหมือนจะถามว่า..แล้วมันทำไมเหรอ!

อ้าว!” ชิออนทำหน้าประหลาดใจพลางอุทานลั่น ฉันก็นึกว่า...

          นึกว่าอะไร

นึกว่านายอยู่คนเดียวแบบนี้ คงเหงาแย่น่ะสิ

...เหงา

...ที่แท้ เจ้าแกะขนฟูกลัวเขาเหงาเลยหาเรื่องถ่อขึ้นมาคุยด้วย

...เหงา...

...ที่ผ่านมา ไม่เคยมีแม้สักคนจะห่วงใยเขาด้วยคำๆนี้

คำสั้นๆ ที่ฟังดูเหมือนไม่มีอะไร แต่สำหรับอัลบาฟิก้าแล้วกลับกระทบอะไรบางอย่างภายในใจอย่างแรง แต่สิ่งที่ทำได้ก็เพียงแค่จ้องมองแอเรียส ชิออนนิ่งเหมือนไม่เคยพบเห็นมาก่อน  


รุ้ง เฮ้! อัลบาฟิก้า รุ้ง

พอรู้สึกตัวอีกทีด้วยเสียงใสๆ ของเจ้าแกะ สายฝนข้างนอกก็หยุดไปแล้วสักพักเห็นจะได้ จากท้องฟ้าครึ้มฝนที่เต็มไปด้วยก้อนเมฆสีเทาดำก็แปรเปลี่ยนเป็นสีครามปนเทาดูขมุกขมัว แต่กระนั้นก็ยังคงงดงามด้วยแสงเจ็ดสีที่ทอประกายงามระยับเหนือทุ่งดอกกุหลาบกว้าง

อัลบาฟิก้า ดูสิ สายรุ้ง สวยมากเลยเห็นไหมแกะที่ถลาไปยืนเกาะขอบหน้าต่างยังตื่นเต้นไม่เลิก พลางชี้นิ้วไปในทิศทางตรงกันข้ามกับพระอาทิตย์ ดวงตาสีอเมทิสต์เป็นประกายราวกับเด็กเล็กๆ

นายอายุเท่าไรแล้วชิออน ไม่เคยเห็นรุ้งหรือไง

เคย แต่ที่จามิลรุ้งไม่สวยเท่าที่นี่ สายรุ้งกับสวนกุหลาบเข้ากันดีออก ชิออนยิ้มแล้วพยักหน้าซ้ำๆให้กับความคิดของตัวเองก่อนจะเหลียวซ้ายแลขวาหาเก้าอี้ที่เคยนั่งทุกที

ใจคอนายจะปล่อยให้วิหารแกะขาวว่างอยู่อย่างนั้นเหรออัลบาฟิก้าที่ดูออกว่าชิออนคิดจะทำอะไรต่อไปรีบหาวิธีไล่แกะกลับจะได้ไม่ต้องปวดหัวไปมากกว่านี้

มีอันเดบารันอยู่ ไม่ว่างสักหน่อย

แบบนั้นวิหารวัวทองก็ว่างอยู่ดี

ระยะแค่นั้นไม่พ้นรัศมีการดูแลของวิหารคนคู่หรอก...เจอแล้ว!”

พอเหลียวไปเห็นเก้าอี้ตัวโปรดที่วางแอบอยู่แถวมุมห้อง ชิออนก็ตรงเข้าไปลากออกมาโดยไม่ทันสังเกตว่าขาเก้าอี้ขัดอยู่กับขาโต๊ะที่เมื่อกี้เจ้าตัวเพิ่งวางถ้วยชาที่ดื่มหมดแล้วลงไปข้างๆโหลแก้วใส่คุกกี้

เพล้ง!

เสียงของตกกระทบพื้นดังขึ้นท่ามกลางความเงียบพร้อมลมหายใจที่พ่นออกมาอย่างอ่อนแรง

...อีกแล้วเหรอเนี่ย เจ้าแกะซุ่มซ่าม...

เจ้าของโหลแก้วกับถ้วยชาถอนหายใจยาวเมื่อเห็นเศษแก้วกับเศษกระเบื้องแตกกระจายเกลื่อนเต็มพื้นตามด้วยการตวัดสายตามองหน้าตัวต้นเหตุทีนึง แล้วตัดสินใจเข้าไปเก็บกวาดภาระที่เจ้าตัวยุ่งก่อเอาไว้

...แต่สงสัยช่วงเวลาที่ผ่านมาเขาคงอยู่ใกล้เจ้าแกะนี่มากเกินไปจนชักติดโรคซุ่มซ่ามมาด้วยละมัง

แรกๆก็แค่รู้สึกชาที่ปลายนิ้วเลยไม่ได้ใส่ใจจะตรวจดู  แต่สักพัก..บาดแผลที่โดนคมแก้วบางๆบาดลึกก็เริ่มปรากฏเป็นรอยยาว หยาดโลหิตสีแดงสดเริ่มไหลซึมออกจากปากแผลและหยดลงบนเศษแก้วที่ยังเก็บไม่หมด 

ให้ฉันทำเองดีกว่า

ชิออนที่ออกไปหาไม้กวาดกับถุงกระดาษเนื้อหนามาใส่เศษแก้วรีบขยับเข้ามาใกล้ด้วยความสำนึกผิด แต่ทันทีที่เอื้อมมือเข้าไปใกล้กองเศษแก้วก็โดนตวาดไล่อย่างไม่ไยดี

อย่ายุ่ง ถอยไปไกลๆ

...ที่ทำลงไปใช่ว่าไม่พอใจ แต่ก็เพื่อตัวนายเอง

แต่ชิออนก็ยังยิ้มได้แล้วค่อยๆลงมือเก็บเศษแก้วที่กระจายเกลื่อนพื้นอย่างระมัดระวังไม่ให้โดนเลือดที่เปื้อนอยู่ตามเศษแก้ว

นายไปทำแผลเถอะ เลือดออกแบบนั้นถ้าหยดไปตามพื้นวิหารจะยิ่งอันตรายกว่านะ วันดีคืนดีใครไปเหยียบเข้าคงไม่ดีแน่ เดี๋ยวตรงนี้ฉันจะค่อยๆเก็บเอง เอาน่า...ไม่เป็นไรหรอก

...ทั้งๆ ที่เป็นคนพูดแบบนั้นเองแท้ๆ  แต่นับจากวันนั้นมานายหายไปตายที่ไหน..

...เป็นอะไรไปรึเปล่า

...อย่าให้ฉันกลายเป็นคนทำร้ายนายด้วยโลหิตที่ถูกหล่อหลอมจนไม่ต่างอะไรไปจากยาพิษที่พร้อมสังหารทุกสรรพสิ่งรอบข้างนี่เลย...


เฮ้อ!

เสียงถอนหายใจยาวดังขึ้นอีกพร้อมสายตาที่กวาดมองไปรอบๆ ไม่รู้เป็นครั้งที่เท่าไหร่ของวันเพื่อพบกับความว่างเปล่าอย่างที่เคยสัมผัสมาแล้วตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาก่อนตัดใจหันหลังกลับเข้าไปในวิหาร แต่แล้วก็ไปหยุดยืนมองมุมน้ำชาเล็กๆ ริมหน้าต่างที่ช่วงหลังกลายมาเป็นภาระของเขาจนได้ที่ต้องคอยหากุหลาบแห้งมาเติมให้เต็มโถชาเสมอกับเก้าอี้ตัวยาวที่ไม่มีคนนั่ง

...ไม่เข้าใจจริงๆ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับฉันกันแน่...

...คงเป็นเพราะ...ความเหงา...อย่างที่เจ้าแกะขนฟูว่าไว้ ทุกวันที่ต้องทนอยู่เหงาๆ คนเดียว กินข้าวคนเดียว ภายในวิหารสี่เหลี่ยมที่ไม่ต่างอะไรกับกรงขัง และที่สำคัญที่สุด...เขาอ่อนแอเกินไปที่จะเผชิญหน้ากับมัน

พอมีเจ้าแกะตัวร้ายมาวุ่นวายป้วนเปี้ยนใกล้ๆ แม้ว่าจะนานๆ ครั้งก็ตามที แต่มันก็มากเกินพอที่เขาจะทึกทักเอาไว้เป็นความเคยชินส่วนตัว

จะมีผู้ใดล่วงรู้บ้างว่า พิษสงของความเหงามันช่างรุนแรงและกัดกร่อนจิตใจได้มากกว่าพิษร้ายที่โอบอุ้มตัวเขาอยู่เป็นไหนๆ

...มันเกิดอะไรขึ้น...

...ชิออน!...


หรือว่า

...เพราะวิหารแอเรียสกับวิหารพิชเชสมันอยู่ไกลกันเกินไป...


อัลบาฟิก้า?

เสียงโกลด์เซนต์ทอรัส อันเดบารัน เจ้าของวิหารวัวทองอุทานอย่างแปลกใจเมื่อเห็นคนที่ไม่นึกว่าจะได้เจอแถวนี้เดินออกมาจากประตูวิหารเจมินี่

มาทำอะไรน่ะ

ไปเดินเล่นที่หมู่บ้าน เสียงตอบส่งๆ ที่ปิดร่องรอยความหงุดหงิดไม่มิดดังขึ้นจากบันไดเชื่อมต่อระหว่างวิหารทอรัสกับวิหารแอเรียส

ไม่ได้โกรธอะไรอันเดบารันหรอก แต่..โมโหตัวเองต่างหาก

เมื่อสองวันที่แล้ว...ตั้งแต่ได้พบกับโกลด์เซนต์ไลบร้า โดโกที่มาวิหารเคียวโกตามปรกติและกำลังเดินผ่านวิหารปลาคู่เพื่อกลับไปยังวิหารตัวเองเหมือนทุกครั้ง

...ไลบร้า โดโก เพื่อนสนิทที่สุดของแอเรียส ชิออน

คนๆ นี้น่าจะรู้บ้างว่า เจ้าแกะขนฟูหายหน้าหายตาไปไหน แต่พอออกปากถามไป โกลด์เซนต์ราศีตุลย์กลับทำท่าชะงักนิดๆ ราวกับจะตัดสินใจพูดอะไรบางอย่างแต่แล้วก็เปลี่ยนใจเดินจากไป ทิ้งให้เขาจมอยู่กับความสับสนวุ่นวายในใจกับแว่วเสียงที่ลอยผ่าน

ก็แค่เบื่อที่จะขึ้นมาโดยไม่จำเป็นเท่านั้น

คำพูดลอยๆ เหมือนไม่เจาะจงอะไรมากนัก แต่ความหมายกลับชวนให้คิดว่าเป็นคำพูดของเจ้าแกะหัวฟูนั่นที่ฟังแล้วชวนให้ใจหายอย่างบอกไม่ถูก 

คิดทบทวนซ้ำไปซ้ำมาจนถึงวันนี้ที่เริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยการเทชากุหลาบเก่าๆ ในโถชาทิ้งไปแล้วเอาของใหม่ที่เพิ่งทำเสร็จมาใส่ไว้แทนเรียบร้อยก็กำลังนึกอยู่พอดีว่าจะต้องทำอะไรต่อไปอีก ไม่รู้ทำไมอยู่ๆ ถึงใจลอยเดินมาได้ถึงที่นี่...กว่าจะรู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่อัลเดบารันร้องทักนั่นแหละ

แล้วจะบอกได้ยังไงว่าใจลอย เลยจำต้องตอบเอาตัวรอดไปแบบน้ำขุ่นๆ

...เอาเถอะ ออกไปที่หมู่บ้านหน่อยแล้วกัน ไหนๆ ก็บอกไปว่าอย่างนั้นจะได้ไม่เสียคำพูด...

ทว่า เท้าที่กำลังก้าวลงจากบันไดขั้นสุดท้ายของวิหารวัวทองก็ชะงักกึก เมื่อมาถึงวิหารซึ่งเป็นปราการด่านแรกสุดของแซงค์ทัวรี่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า

...วิหารแอเรียส...

...วิหารเจ้าแกะตัวยุ่ง...

...นานเท่าไหร่แล้วนะที่ไม่ได้มาที่นี่...

...นานเท่าไหร่แล้วที่ไม่เคยสนใจความเป็นไปของวิหารอื่นๆที่อยู่โดยรอบ...


ภายในวิหารแอเรียสค่อนข้างมืดและว่างเปล่าอย่างน่าใจหาย ไร้ซึ่งวี่แววคอสโม่ของผู้ดูแลวิหาร สัมผัสได้เพียงคอสโม่จากชุดโกลด์คลอธแอเรียสที่อยู่ในห้องด้านใน

ห้องโถงกลางด้านนอกเต็มไปด้วยข้าวของที่วางกระจัดกระจายเหมือนยังไม่มีเวลาเก็บเข้าที่ ตามโต๊ะ ชั้นวางของมีอุปกรณ์ซ่อมคลอธกับก้อนแร่หน้าตาแปลกๆ วางกองไว้ตรงโน้นบ้างตรงนี้บ้าง ข้างตู้ใส่หนังสือใบใหญ่ก็มีกองหนังสือที่รื้อออกมาแล้วยังไม่เก็บกลับเข้าไปวางสุมระเกะระกะ บางเล่มก็ยังอ่านค้างไว้เลยต้องหาอะไรใกล้ๆ มือแถวนั้นมาคั่นไว้ลวกๆ พอหาอะไรไม่เจอก็คว้าเอาถ้วยชาใช้แล้วที่วางเรียงอยู่สองสามใบมาเป็นที่คั่นหนังสือชั่วคราวไปก่อน ของบางชิ้นก็เห็นชัดว่าเจ้าของรีบร้อนมากจนต้องทิ้งไว้อย่างนั้น หมอนอิงรูปแกะตัวโตที่ร่วงลงมานอนยิ้มอยู่บนพื้นข้างเก้าอี้ตัวใหญ่ริมหน้าต่าง ผ้าคลุมผืนโปรดที่เจ้าแกะชอบใช้เป็นประจำก็กองแหมะเป็นก้อนอยู่บนโต๊ะทำงาน

...รก...

...แต่อย่างน้อยส่วนอื่นของวิหารก็ยังดูสะอาดสะอ้านพอใช้...

ว่าแล้วมือที่ไปไวกว่าสมองจะร้องสั่งก็เอื้อมไปเก็บหมอนรูปแกะที่พื้นขึ้นมาตบไล่ฝุ่นเบาๆ แล้ววางกลับลงไปบนเก้าอี้ แต่ก็อดไม่ได้เลยต้องขอทุบแถมท้ายสักทีสองทีให้หายมันเขี้ยว

...อายุเท่าไหร่แล้ว ยังใช้ของแบบนี้อยู่อีก...

ตามด้วยการจัดหนังสือที่วางอยู่กับพื้นให้เข้าที่เข้าทาง เอาเศษกระดาษที่หาเจอมาคั่นหน้าหนังสือไว้แทนก่อนเอาถ้วยชาออกไปล้าง ตามด้วยการตกลงใจไม่แตะต้องอุปกรณ์ซ่อมคลอธกับบรรดาก้อนแร่ทั้งหลายปล่อยให้วางอยู่ที่เดิม สุดท้ายก็หยิบผ้าคลุมผืนยาวยับยู่ยี่ที่วางกองๆ ไว้ขึ้นมาเตรียมพับเก็บพลางไล้นิ้วมือไปมาตามเนื้อผ้าเบามือ

...ผ้าคลุมเนื้อนุ่ม บอกให้รู้ว่าเจ้าของใช้งานมานานไม่ยอมเปลี่ยนซะที คงจะรักมาก...

...ไม่อยู่ที่วิหารจริงๆ สินะ เอ.....หรือจะอยู่ที่จามิล...

หลังจากเดินไปเดินมาอีกสักพัก พอเห็นว่าไม่มีอะไร แขกผู้มาเยือนโดยไม่บอกล่วงหน้าก็ตัดสินใจกลับ

แต่...

พอปลายเท้าไปสะดุดอะไรบางอย่างเข้า หัวใจของอัลบาฟิก้าก็กระตุกวูบด้วยความคาดไม่ถึงพร้อมกับกระชับดอกกุหลาบขาวในมือแน่นเตรียมพร้อมรับการจู่โจม

...ผู้บุกรุก?  ที่สำคัญ...สัมผัสคอสโม่ไม่ได้...

...ทั้งๆ ที่เขาอยู่ในวิหารนี้นานเกือบชั่วโมง แต่กลับไม่รู้สึกถึงอะไรเลย...

ทว่ายังไม่ทันได้ทำอะไร เสียงคุ้นๆ ก็โวยวายขึ้น ทำให้ดอกกุหลาบที่กำลังจะขว้างใส่ชะงักงัน

เจ็บนะ เหยียบมาได้

ชิออน?

พอเลื่อนฉากไม้ฉลุที่ตั้งอยู่บริเวณมุมห้องออก ก็เห็นโกลด์เซนต์แอเรียส ชิออนในเครื่องแต่งกายธรรมดานอนแผ่เหยียดยาวในสภาพสุดแสนจะมอมแมมอย่างที่ไม่มีใครนึกออกว่าเซนต์ที่ขึ้นชื่อว่ารักความสะอาดสุดๆ จะอยู่ในสภาพนั้นได้

เส้นผมสีอ่อนยาวพันกันยุ่งเหมือนไม่ได้พบหวีมาหลายวันแถมบางส่วนยังจับตัวเป็นก้อนเพราะเลอะคราบดำๆ เหนียวๆ ที่ดูไม่ออกว่าเป็นอะไรอีก บนใบหน้าเต็มไปร่องรอยความเหนื่อยล้าจากการเดินทางอย่างยากที่จะปิดบัง ทั้งเนื้อทั้งตัวทั้งเสื้อผ้าชุดที่สวมอยู่ก็เลอะเทอะไปหมด มีทั้งฝุ่นผง เศษหิน ฝุ่นดิน ละอองทราย คราบน้ำมัน รวมไปถึงสีที่ใช้วาดรูปบนผนังวิหาร ส่วนรองเท้าก็ไม่รู้ไปย่ำโคลนจากไหนมา รวมๆ แล้วเป็นสารรูปที่ใครมาเห็นก็ต้องยอมรับว่า...สกปรกเหนือคำบรรยาย

สภาพยับเยินของแกะตรงหน้าทำให้มือที่กำลังยื่นเข้าไปหาหดกลับแล้วเอาผ้าคลุมที่ยังถือติดมืออยู่สะบัดเบาๆ ลงไปแทนท่ามกลางความรู้สึกที่ทั้งโกรธ ทั้งโล่งใจ ทั้ง ดีใจ

ดีใจ...ความรู้สึกประหลาดที่ไม่ได้รู้สึกแบบนี้มานาน 

ไปทำอะไรมา

ถามได้ น้ำเสียงบอกชัดว่าสุดทนแล้วนั่น ก็เคียวโกน่ะสิ แค่จะอนุมัติเงินซ่อมแซงค์ฯใหม่แค่เนี้ยก็คิดมาก สั่งฉันให้ไปดูวิธีซ่อมวิหารตรงนู้นบ้างตรงนี้บ้าง แถมสั่งได้สั่งดี สั่งเอาๆ สั่งอยู่ได้ ไม่รู้รึไงว่าการเทเลพ็อตไปๆ มาๆ น่ะมันเหนื่อยนะ แล้วฉันก็ไม่ใช่บอลลูนมีชีวิตสักหน่อย แถมเย็นนี้ก็ต้องไปรายงานความคืบหน้าอีก

ชิออนบ่นบู้บี้พลางซุกหน้าลงไปกับผ้าห่มผืนโตที่ปูรองพื้นหินเย็นๆ ไว้ราวกับเด็กอายุสองขวบ

เลยมาแอบนอนหลบอยู่ตรงนี้ ลบคอสโม่ออกด้วย กะว่าจะได้ไม่มีใครตามตัวเจอ เซนต์ราศีมีนพอจะเดาวิธีคิดง่ายๆของเซนต์ราศีเมษออก

ช่างฉัน ชิออนตวาดแว้ด แล้วโกลด์เซนต์วิหารสุดท้ายมาทำอะไรแถววิหารแอเรียสนี่ไม่ทราบ

โกลด์เซนต์วิหารสุดท้ายเงียบไปสามวินาทีเต็มก่อนจะทำหน้าตายแล้วใช้คำตอบเดิม

ว่าจะไปเดินเล่นที่หมู่บ้าน

งั้นเหรอ ชิออนพลิกตัวขึ้นนอนหงายทันทีแล้วหันหน้ากลับมามอง นัยน์ตาสีม่วงสดใสเป็นประกายพราวระริกขึ้นมาเชียวล่ะ

ไปแล้วกลับมาเร็วๆ นะ อย่าลืมหาอะไรมาให้กินด้วย ยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เมื่อวาน หิวข้าวชะมัด โอ๊ย!”

พูดยังไม่ทันขาดคำแท้ๆ ผู้มาเยือนก็เอาผ้าคลุมที่ยังถืออยู่ในมือฟาดโครมลงไปบนตัวเจ้าของบ้านแบบไม่เบานักก่อนจะสะบัดหน้าเดินหายไป ปล่อยให้แกะอารมณ์บูดแถมถูกประทุษร้ายร่างกายพลิกตัวกลับไปนอนคุดคู้ตามเดิมพลางบ่นอะไรหงุงหงิงไปเรื่อย

สักครู่ใหญ่ก็มีเสียงก็อกแก็กดังมาจากในครัวตามด้วยอะไรสักอย่างที่คนข้างในจงใจขว้างออกมา แค่ใช้พลังไซโคคิเนซิสเพียงนิดหน่อยชิออนก็รับไว้ได้สบายๆ ก่อนมองกุหลาบแดง ในมือยิ้มๆ

...เย้! เดี๋ยวก็ได้กินข้าวแล้ว

เสียงก็อกแก็กดังขึ้นอีกทีก่อนมีอะไรบางอย่างลอยมาอีก คราวนี้เป็นกุหลาบดำ...พิราเนี่ยนโรส ที่มาพร้อมประกาศิตคำสั่ง

ไปอาบน้ำ

แต่พออัลบาฟิก้าพูดจบปุ๊บ ชิออนก็รีบสวนกลับทันที

กินก่อน

คราวนี้เป็นเสียงอะไรก็ไม่รู้กระแทกลงกับพื้นวิหารดังปัง เล่นเอาแกะที่ชักไม่แน่ใจว่าตัวเองจะยังมีชีวิตรอดจนได้กินข้าวรึเปล่าสะดุ้งสุดตัวก่อนตะโกนลั่น

 ไม่ต้องโยนบลัดดี้โรสมานะ ฉันไม่กิน

ต่อจากนั้น...แกะขนกระเจิงก็ยอมลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่โดยดี


พอกินเสร็จ ชิออนที่พอจะมีเรี่ยวมีแรงขึ้นมาบ้างก็กลับมาอารมณ์ดีเหมือนเดิม สักพักก็เริ่มออกเดินไปวิหารเคียวโกพร้อมกับอัลบาฟิก้าที่ได้เวลากลับวิหารตัวเอง แต่กว่าจะถึงวิหารเคียวโกได้ก็เล่นเอาเกือบเย็น ถ้าไม่เพราะเจ้าแกะตัวยุ่งที่มัวแต่โอ้เอ้ทักทายโกลด์เซนต์ทุกวิหารที่เดินผ่าน แค่เฉพาะวิหารวัวทอง วิหารปูยักษ์ กับวิหารตราชั่งทองคำของเจ้าแสบโดโกก็เสียเวลาเข้าไปวิหารละกว่าครึ่งค่อนชั่วโมงเข้าไปแล้ว ดีที่เจ้าแกะยังรู้จักเกรงใจคนที่เดินมาด้วยกันบ้างเลยไม่เถลไถลไปมากกว่านี้ แต่ไม่ว่ายังไงโกลด์เซนต์ที่เกือบได้ชื่อว่า สันโดษที่สุดในแซงค์ทัวรี่ก็อดอึดอัดและรู้สึกเจ็บแปลบในใจไม่ได้

จนมาถึงบันไดเชื่อมต่อวิหารอควอเรียสกับวิหารพิชเชส ทุกอย่างที่อัดแน่นในใจก็จางหายไปเมื่อเห็นภาพคุ้นตา

ชิออนเดินตรงเข้าไปที่มุมชงชาริมหน้าต่าง คว้าโถชาเปิดฝาออกดมกลิ่นแล้วหันมาส่งยิ้มให้ก่อนลงมือชงชาตามปรกติ แต่คราวนี้มีชาสำหรับเขาเพิ่มมาอีกหนึ่งถ้วย

...เป็นวิธีขอโทษแบบแกะๆ ที่ทำให้เขาต้องเสียเวลาสินะ...

พอน้ำชาหมดถ้วยด้วยความรวดเร็ว ชิออนก็เดินขึ้นบันไดวิหารเคียวโกไป ปล่อยให้คนที่ยังถือถ้วยชาค้างอยู่ในมือมองตามหลังไปจนลับสายตา

...ขอบคุณเทพเจ้า ขอบคุณอาเธน่า ขอบคุณเทพีแห่งโชคชะตา ที่อย่างน้อยชีวิตนี้ก็ไม่สิ้นไร้ไปเสียทุกสิ่ง...

...เท่าที่เป็นอยู่ทุกวัน อัลบาฟิก้าคนนี้ก็พอใจมากแล้ว...





เรื่องมากชะมัด

เสียงแกะฟิวส์ขาดที่เพิ่งลงมาจากวิหารเคียวโกเมื่อเย็นย่ำค่ำมืดแล้วโวยแหลกขณะจิบน้ำชาในมือไปดวงตาสีอเมทิสต์ก็เขม้นมองทุ่งกุหลาบในความมืดนอกหน้าต่างไป

งานเสร็จยังไม่พอใจ ต้องรายงานรายละเอียดทุกขั้นตอนให้ฟังอีก แล้วยังถามโน่นถามนี่ไม่ยอมเลิกสักที ดูสิ! มืดหมดแล้ว มองไม่เห็นอะไรเลย

ท่าทางเสียงบ่นยังจะมีต่อไปอีกนาน จนเจ้าของวิหารฟิชเชสส่ายหน้าด้วยความเอือมระอาก่อนจะตัดบทด้วยคำถามง่ายๆ

กินข้าวไหม

กิน เสียงชิออนตอบกลับแบบไม่ต้องคิดเหมือนกัน

งั้นก็เลิกโวยวาย แล้วมาช่วยกันทำ

หลังอาหารมื้อค่ำผ่านไป แบตเตอรี่ที่ชาร์จไว้นิดหน่อยเมื่อบ่ายก็เริ่มติดๆ ดับๆ ชิออนที่ใกล้หมดแรงเต็มทีก็เอาแต่นั่งแปะบนเก้าอี้ตัวโปรดด้วยอาการจะพับแหล่มิพับแหล่จนเจ้าของวิหารใจอ่อนยวบ อดสงสารขึ้นมาไม่ได้

ชิออน...

เสียงกระซิบเรียกชื่อเบาๆ ทำให้แกะหมดสภาพฝืนใจลืมตาขึ้นมอง

ไปนอนไป ห้องนอนสำรองอยู่ทางซ้าย

บอกเสร็จ เจ้าของบ้านก็นิ่งเงียบ กลั้นใจรอดูปฏิกิริยาของ แขกพิเศษตรงหน้า

ขอบใจ นายใจดีจัง

เป็นไปตามที่คาดไว้ เจ้าแกะยิ้มรับแล้วลุกขึ้นเดินหัวซุนไปตามทิศทางที่ได้ยินอย่างว่าง่ายก่อนจะล้มตัวลงบนเตียงแล้วหลับสนิทในทันทีที่หัวถึงหมอนเลยไม่ทันรู้สึกถึงไออุ่นจากผ้าผืนหนาที่มีคนคลี่ออกห่มให้อย่างเบามือแล้วเดินออกจากห้องไปเงียบๆ

...ทำแบบนี้ดีแล้วใช่ไหม...

...มั่นใจได้เลยว่าคราวหน้าที่ต้องมาวิหารเคียวโกตอนเย็นๆ แล้วเสร็จธุระตอนดึกๆ อีก เจ้าแกะจอมขี้เกียจต้องโมเมขอนอนค้างอย่างวันนี้แน่นอน...

แต่ช่างเถอะ ในเมื่อ...

...กุหลาบที่ดูแลอยู่ทุกวัน...

...ชาอย่างดีที่เตรียมไว้...

...มื้อเย็นที่บางทีอาจทำให้เซนต์วิหารอื่นไม่พอใจบ้าง เพราะเขาตัดหน้าชวนชิออนกินข้าวก่อน...

ถ้าสิ่งเหล่านี้จะทำให้นายหยุดแวะที่วิหารพิชเชสได้สักครึ่งนาที ก็นับว่าคุ้มค่าแล้ว

เพราะอย่างนั้น...

...ถ้าจะเสียห้องนอนไปอีกสักห้องก็จะเป็นไรไป...


... นายใจดีจัง...

คำพูดของเจ้าแกะขี้เซาที่หลับปุ๋ยไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรอยู่ในห้องนอนยังก้องอยู่ในหู

โกลด์เซนต์ฟิชเชส อัลบาฟิก้าแย้มรอยยิ้มกว้างอย่างพอใจเต็มที่

...ชิออน ฉันคิดค่าตอบแทนแพงนะ รู้มั้ย !...

3 ความคิดเห็น:

  1. วิ๊วววว~น่ารักแบบใสๆ (มีเริ่มขุ่นเล็กน้อยตอนจบ..) แต่ดูเหมือนท่านชิออนจะไม่ค่อยปลอดภัยแล้วนะฮะเนี่ย!! ^^"

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ3/03/2556

    น่ารักจุงเบย *0*
    มาต่ออีกเยอะๆๆ

    ตอบลบ
  3. เอาคู่นี้อีกนะฮะ น้าๆๆๆๆ

    ตอบลบ