26/2/54

(Baramos) : The kings’ heart (ว่าด้วย...หัวใจกษัตริย์) (p2)



Author : neoaries+jeserith

Pairing : (คิดว่า) LL  

ระดับ : ปลอดภัยไร้กังวล

Disclaimer : ตัวละครทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของคุณ rabbit ค่ะ

-----------------------------------------------------------------------

แอเรียส : สองพ่อลูกมหัศจรรย์
 

หมายความว่า ท่านย่าริเรียของผมกับท่านทวดไกอาของพี่เป็นพี่น้องกันเจ้าชายอดีตขอทานกิตติมศักดิ์กะพริบตาปริบด้วยความงงและความปลงในโชคชะตาที่อยู่ดีๆ ก็มีญาติเพิ่มขึ้นมาซะงั้น แถมยังเป็นพวกไม่น่านับญาติด้วยเลยอีกต่างหาก

ถูกต้อง ฉลาดมากโรรี่ลูคัสตอบพลางยังไม่เลิกแจกจ่ายรอยยิ้มประจบตามสไตล์ให้กับแววตาลังเลระคนครุ่นคิดของโรเวน กับสีหน้าหงิกๆ ส่อเค้าอารมณ์บูดๆ ที่เคยเห็นจนชินตาของใครอีกคน

พอเห็นคนรอบข้างมัวแต่อ้ำๆ อึ้งๆ เพราะตะลึงกับสิ่งที่เพิ่งรู้กัน คนหน้าหงิกที่เอาแต่เงียบตลอดเวลาก็เริ่มทนไม่ไหว เสียงพูดลอยๆ เลยดังขึ้นเหมือนไม่อยากเชื่อเท่าไหร่ แต่ในใจน่ะเชื่อเต็มร้อยละร้อยไปแล้ว

ไร้สาระ

แหม...ตอนแรกฉันก็ไม่รู้หรอกนะดูท่าว่ากษัตริย์พระองค์ใหม่แห่งทริสทอร์จะชินชาซะแล้วกับคำพูดจิกๆ กัดๆ ชนิดให้เจ็บแสบหัวใจเล่นอย่างที่เคยโดนเป็นประจำสมัยเรียน สีพระพักตร์เลยยังระบายด้วยรอยแย้มพระโอษฐ์เหมือนไม่ถือสาถ้อยคำที่ถ้ากษัตริย์เมืองอื่นได้ยินเข้ามีหวังสั่งตัดลิ้นคนพูดก่อนจะยื่นพระหัตถ์ซ้ายออกมาข้างหน้า

แหวนวงใหญ่ดูเด่นเป็นสง่าอยู่บนนิ้วพระหัตถ์ แหวนที่หากดูเผินๆ คงไม่สำคัญอะไร ถ้าหัวแหวนไม่เป็นไข่มุกแสงจันทร์เม็ดงาม

แม่บอกว่าเป็นของดูต่างหน้าของตา แล้วก็ยังเป็นสมบัติที่หลงเหลืออยู่แค่ชิ้นเดียวของทวด แต่ของแบบนี้ไม่ต้องเป็นเจ้าชายก็มีได้นี่นะ ทั้งแม่ทั้งตาเลยไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วทวดเป็นใครมาจากไหน ลงท้ายก็สรุปเอาเองว่าเป็นแค่พ่อค้าธรรมดาที่เร่ร่อนตระเวนขายของไปตามเมืองต่างๆ 

ต่อมาทวดกับตาก็ดันทะเลาะกันรุนแรงชนิดไม่ต้องมามองหน้ากันเป็นสิบปี ตาเลยประชดทวดด้วยการแต่งงานเข้าตระกูลของยายที่เป็นครอบครัวชาวทริสทอร์ที่ย้ายไปอยู่ฟรานซ์นานแล้วแถมเปลี่ยนนามสกุลใหม่ซะอีก พอถึงรุ่นแม่ก็อพยพกลับมาทริสทอร์อีกครั้งแล้วแต่งงานกับพ่อที่เป็น ซาโดเรีย เดอะซอเซอเร่อร์เลยสืบประวัติกันยากหน่อยกษัตริย์พระองค์ใหม่คิงลูคัสสาธยายความเป็นมาของตัวเองยาวยืดแล้วเงียบไปเหมือนคิดถึงความหลัง

แล้วไงคนที่ไม่ได้เป็นญาติโยมอะไรกับใครเขาเร่งยิก นัยน์ตาสีน้ำเงินเป็นประกายด้วยความสนใจ

แล้วพี่กับกษัตริย์วีเมย์ เอ่อ...โรที่ชักมึนตึ้บกับการเรียงลำดับญาติโกโหติกาสะระตะไปมาอยู่ในหัวจนคิ้วขมวดผูกกันเป็นโบว์ถามหมายถึงท่านทวดวีเมย์ของผม แต่เป็นแม่ของทวดของพี่น่ะ มาเจอกันได้ยังไง ใช่ตอนที่ไฮคิงสั่งประชุมกษัตริย์ทั้งเอเดนที่เอดินเบิร์กเมื่อหลายปีก่อนหรือเปล่า

ไม่ใช่หรอก เป็นคราวที่ได้รับคำสั่งจากมหาปราชญ์ให้ออกติดตามหาพวกเฟรี่ให้เจอแล้วพาตัวกลับมาต่างหาก โรรี่เองก็ติดกลุ่มไปกับเขาด้วยไม่ใช่เหรอลูคัสยิ้มมากขึ้นแล้วเหลือบมองเจ้าหญิงสองดินแดนที่กำลังฉีกยิ้มกว้างพลางมองจานของว่างในมือเจ้าองครักษ์ (ที่ไม่เคย) พิทักษ์นายได้อย่างเจ้าโกโดม โคมุสกำลังยกมาถวาย ท่ามกลางสายตาสุดเซ็งและสุดแสนจะเอือมระอาแต่ก็ยังรักอยู่ดีของเจ้าชายไอซ์ซี่ที่ยืนขนาบอยู่ข้างๆ อย่างขำๆ

ตอนที่ลงไม้ลงมือกันนิดหน่อย คิลลี่ทำสร้อยร้อยแหวนที่ฉันห้อยคอไว้ขาดแล้วคงมีใครเห็นเข้า แต่ก็อีกนานพอดู จนอีกสามเดือนก่อนจะเรียนจบนั่นล่ะถึงมีคนจากราชสำนักทริสทอร์ติดต่อมา เพราะงั้น...

กษัตริย์ลูคัสลากเสียงยาวขณะหันมามองหน้าโรที่เริ่มยิ้มไม่ออกด้วยท่าทางที่เสแสร้งแกล้งทำให้ดูน่ารักน่าสงสารให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

ต่อไปก็ช่วยรักหลานผู้น่าสงสารคนนี้ให้มากๆ ด้วยนะครับ ท่านน้า

...ท่านน้า?...

...นี่ฉันกลายเป็นน้าไปแล้วเรอะ!...

ประโยคที่ได้ยินเล่นเอาท่านน้าชาเบรียนของท่านหลานลูคัสทำหน้าไม่ถูก จะหัวเราะก็ไม่ใช่ จะดีใจก็ไม่เชิง จะยิ้มก็ไม่เหมือน จะร้องไห้ก็ใกล้เคียง สมใจอดีตรุ่นพี่ที่ขึ้นชื่อนักหนาว่าชอบหาเรื่องแกล้งรุ่นน้องเป็นงานอดิเรก เสียงหัวเราะจึงดังขึ้นราวนัดคิวกันไว้ ขนาดลอเรนซ์ยังยิ้มออกมาได้พลางส่ายหัวไปมา

...บรรยากาศสมัยอยู่ป้อมอัศวินกลับคืนมาอีกครั้ง...

ถ้าอย่างนั้นก็ขอแสดงความยินดีด้วยกับกษัตริย์แห่งทริสทอร์พระองค์ใหม่โรเวนยิ้มพลางยกถ้วยชาในมือขึ้นสูงแล้วค้างไว้ในท่าดื่มอวยพร

ขอบใจลูคัสถอนหายใจยาวแล้วพยักหน้ารับด้วยท่าทางเป็นการเป็นงานผิดกับที่เคยเห็นทุกครั้งจริงๆ แล้วฉันไม่ได้อยากรับตำแหน่งนี้นักหรอก แต่ทำไงได้ในเมื่อมีเพื่อนเป็นเจ้าชายตั้งสองคน ถ้าสิ่งนี้จะช่วยให้ฉันเข้านอกออกในวังหลวงที่เจมิไนกับแอเรียสได้ง่ายขึ้นล่ะก็...มันก็คุ้มแล้ว จริงมั้ยลอรี่

เหมือนมุขเก่าที่เอากลับมาเล่าใหม่ แถมยังใช้ได้ดีไม่ว่าในสถานการณ์ใดๆ แค่ได้ยินคำต้องห้ามที่คิดว่าชาตินี้คงไม่มีใครบังอาจพูดให้ระคายหูอีกแล้วเท่านั้น อดีตนักบวชผู้คุมกฎแห่งป้อมอัศวิน ลอเรนซ์ ดอร์น ถึงกับเลือดขึ้นหน้า มือขวากำมีดสั้นสีเงินเป็นประกายวาววับที่ไม่รู้ว่าแอบหลบเอาเข้ามาในงานได้ยังไงไว้แน่น

 “เลิกเรียกฉันด้วยชื่องี่เง่านั่นซะลูคัส ถ้าแกยังไม่อยาก...ปล่อย!!

ประโยคแรกเป็นการแผดเสียงใส่ซาตานคู่หูอย่างที่หลายคนเคยได้ยินเป็นประจำสมัยยังเรียนหนังสืออยู่ด้วยกัน แต่คำสุดท้ายนี่สิกลายเป็นการตวาดใส่เจ้าชายแห่งเจมิไนอดีตเสธ.ซ้ายประจำป้อมฯที่ตรงเข้ามายึดแขนลอเรนซ์ไว้แน่น

ลอเรนซ์ ใจเย็นโรเวนเอ่ย พยายามล็อกตัวนักบวชที่ตั้งท่าจะแผลงฤทธิ์ให้อยู่นิ่งๆ อย่างยากลำบาก นั่น ลูคัส นี่ ทริสทอร์

ถ้อยความเพียงสองคำที่ลอเรนซ์ถึงกับชะงัก

...นั่นสินะ...

...เพราะความเคยชินตลอดเจ็ดปีที่ผ่านมาแท้ๆ ทำให้ลืมตัว ลืมไปว่าเวลานี้คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าไม่ใช่เพื่อนคู่หูคนเก่า แต่เป็น....


...ลูคัส ซาโดเรีย คาราคัส เดอะคิง ออฟทริสทอร์...


ลมหายใจของคนที่เป็นแค่เจ้าชายแห่งแอเรียสชะงักกึกพลางสะบัดมือให้หลุดออกจากการยึดไว้ของเจ้าชายแห่งเจมิไน นัยน์ตาสีอเมทิสต์มองตรงไปยังใบหน้าที่ยังแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มแล้วต้องกำมือแน่นจนเล็บจิกลงไปในอุ้งมือเพื่อเรียกสติคืนมา

และนี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ฉันยอมรับตำแหน่ง

คราวนี้กษัตริย์ลูคัสเป็นฝ่ายบรรจงยิ้มใส่ตาเจ้าชายลอเรนซ์

เพราะการเป็นกษัตริย์ทำให้พูดคำว่า ลอรี่ได้ง่ายขึ้นเยอะเลย เนอะ เห็นด้วยมั้ย ลอ...รี่

เพียงเท่านี้ก็เข้าใจจุดประสงค์ของอดีตซาตานตัวแอลแจ่มแจ้ง

...ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง

เมื่อเห็นลอเรนซ์สูดลมหายใจแรง กัดฟันแน่นจนกรามนูนเป็นสัน รวมถึงเปลวเพลิงสีม่วงในแววตาที่แทบจะแผดเผาทุกสิ่งให้ไหม้เกรียมได้ในพริบตา ทั้งโรเวนและโรก็เริ่มสอดส่ายสายตามองซ้ายแลขวาหาตัวช่วยที่ดีที่สุดที่ชื่อวีเมย์ที่จะช่วยยุติศึกระหว่างทริสทอร์กับแอเรียสให้คลี่คลายไปได้ แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีใครเห็นผู้ปกครองทริสทอร์เลยว่าทรงประทับอยู่ที่ใด

แต่ก่อนที่เหตุการณ์จะเข้าขั้นเลวร้ายสุดยอด ท่าทางที่ไม่ต่างจากแมวที่ถูกยั่วโมโหจนหงุดหงิดเต็มที่แต่ก็จนปัญญาจะตอบโต้อะไรได้เพราะมีเส้นไหมบางๆ ที่เรียกว่า ที่ต่ำที่สูงล่ามไว้ก็หายไป ร่างสูงโปร่งค้อมศีรษะลงต่ำแสดงความเคารพเต็มพิธีการท่ามกลางความงุนงงของทุกคน

ลอเรนซ์ โมนาโรค แห่งแอเรียส ขอถวายพระพรให้กษัตริย์พระองค์ใหม่แห่งทริสทอร์ทรงพระเจริญ

ว่าแล้วก็เดินสะบัดหน้าจากไปง่ายๆ

สงสัยฉันจะเล่นแรงไปหน่อยกษัตริย์ที่เพิ่งได้รับการอวยพรเสียงอ่อยละม้ายคล้ายลูคัสเจ้าเก่าลอรี่ต้องโกรธมากแน่เลย เดี๋ยวฉันไปง้อหน่อยท่าจะดี

ไม่ต้องแล้วล่ะโรเวนถอนใจเฮือกขณะรับกระดาษแผ่นน้อยที่องครักษ์นำมาส่งให้พลางไล่สายตาไปตามตัวอักษรหนาหนักแกมหวัดเล็กน้อยที่ผู้เขียนคงรีบตวัดเส้นขณะจรดปลายปากกา

โรเวน

ฉันทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายเรียบร้อยแล้วและกำลังจะกลับบ้าน ว่างๆ ก็มาเยี่ยมฉันที่แอเรียสแล้วกัน

 
ลอเรนซ์


ถ้าฉันตามไปง้อที่แอเรียสจะโดนไล่ตะเพิดออกมามั้ยลูคัสถึงกับหน้าจ๋อยไปทันตาเมื่ออ่านจบ

ก็นายนี่น้าโรเวนถอนหายใจพลางส่ายหน้า รู้อยู่ว่ารายนั้นไม่ชอบ ก็ยังไม่วายแกล้งได้แกล้งดี แกล้งได้ทุกทีไม่มีเลิก

...เพราะงั้นหาวิธีง้อเอาเองเหอะ ไม่ยุ่งด้วยแล้ว...

แอเรียส


พ่อ

เจ้าชายรัชทายาทที่จากบ้านไปนานแผดเสียงลั่นคับปราสาทเป็นการประกาศการกลับมาพร้อมกับเสียงกระชากบานประตูเปิดดังโครมสนั่น เล่นเอากษัตริย์ริชาร์ดแห่งแอเรียสที่กำลังเพลินอยู่กับการเลือกอัญมณีมาทำเครื่องประดับชุดใหม่ถึงกับสะดุ้งสุดตัวจนทับทิมเม็ดงามสองสามเม็ดที่คัดแยกไว้กระเด็นตกหายไป

พระเนตรสีน้ำตาลทองไล่มองไปตามเสียงตกกระทบพื้นของเจ้าอัญมณีด้วยความเสียดาย หากไม่ว่าพระองค์จะทรงก้มมองเช่นไรก็ไม่พบสิ่งที่ต้องการ

...หาไม่เจอแฮะ แต่ช่างมัน คนมันรวยก็เงี้ย เดี๋ยวซื้อใหม่ก็ได้...

พอตัดพระทัยได้ก็เงยพระพักตร์ขึ้นเผชิญกับผู้มาใหม่ พอเห็นลูกชายสุดที่รักเดินหน้าบึ้ง ลงส้นเท้าโครมๆ เข้ามาใกล้ คนที่เชื่อว่าตัวเองเป็นพ่อที่ดีที่สุดในเอเดนก็รีบฉีกยิ้มเอาใจพลางอ้าแขนออกโอบคนตรงหน้าไว้ให้แน่ใจว่าไม่ได้ฝัน

ลอเรนซ์ลูกพ่อ ในที่สุดก็กลับบ้านจนได้ ดีจริงๆ เดี๋ยวจะส่งจดหมายไปชวนบาโรกับเฮลด้า อืม... กาเบรียลด้วยก็ได้ หรืออาจจะพ่วงชามัลติดไปอีกคนว่าสนใจไปเที่ยวเกาะสวรรค์ทะเลใต้กันมั้ย

แต่แล้วความฝันอันเพริศแพร้วของกษัตริย์ริชาร์ดก็มีอันสลายเมื่อได้ยินเสียงกระซิบโหดๆ ของลูกชายคนโปรดที่ไม่รู้ว่าไปอารมณ์บูดมาจากไหนตอบกลับมา

ยกตำแหน่งกษัตริย์แห่งแอเรียสให้ฉันก่อน แล้วอยากไปไหนก็ไป


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น