Author : jes
Pairing : ไม่มีจริงๆ
ระดับ : ปลอดภัยไร้กังวล
Disclaimer : ตัวละครทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของอ. Masami Kuromada ค่ะ
.................................................................................................................
Chapter 3 : Kiki’s spell
....พอกันที กับทุกๆ วันที่ผ่านไปราวฝันร้าย
...ฝันร้ายที่ไม่มีทางหนีพ้น และยังต้องฝืนทนเห็นอยู่ร่ำไป....
คืนนี้....
...ฝันร้ายจะยุติ ฝันดีจะกลับคืนมาเหมือนอย่างที่เคยเป็น....
…
…
‘ไม่ว่าใครก็ตามที่คิดจะมาแย่ง ‘ท่านมู’ กับ ‘ท่านชิออน’ ไป ต้องถูกกำจัด..’
……………………………
แซงค์ทัวรี่ยามดึกสงัด....
บนผืนฟ้ากว้างไร้ประกายพร่างพราวจากดวงดาวน้อยใหญ่ มีเพียงเสี้ยวจันทร์เล็กบางทอแสงซีดสลัวมัวหม่นเสียจนทุกสรรพสิ่งเบื้องล่างถูกย้อมไปด้วยม่านสีดำแห่งราตรีกาลและความเงียบ ไม่มีแม้เสียงสายลมพัดหวีดหวิวหรือเสียงต้นไม้กิ่งไม้สะบัดไหวตามแรงลมเหมือนที่เคย
ยามนี้...ทุกชีวิตต่างถูกสะกดไว้ด้วยมนตราแห่งนิทรารมย์อันแสนสุข ยกเว้นก็แต่ ‘เจ้าแกะ’ ประจำวิหารแกะขาวที่แอบหลบสายตา ‘แกะ’ ตัวอื่นๆ ออกมาทำอะไรลับๆ ล่อๆ อยู่คนเดียวในลานกว้างหลังวิหาร
ท่ามกลางความมืดมิด แสงสว่างเพียงหนึ่งเดียวมาจากเชิงเทียนขนาดใหญ่ที่มีเทียนเล่มสั้นบ้างยาวบ้างตามแต่จะหาได้ปักไว้ ข้างๆ กันเป็นหนังสือโบราณเก่าคร่ำคร่าเล่มมหึมาที่วางแผ่อยู่บนพื้นหญ้า พร้อมกับบรรดาข้าวของต่างๆ ที่วางกองสุมๆ กันเกลื่อนกลาด ตรงกลางตั้งอ่างโลหะใบใหญ่ 2 ใบ ใบหนึ่งว่างเปล่า แต่อีกใบบรรจุน้ำไว้เกือบเต็ม ที่ขอบอ่างใบหนึ่งวางมีดเงินเล่มเล็กแต่เป็นประกายคมกริบไว้ที่ด้านบน
ไม่เพียงเท่านั้น...บริเวณพื้นหญ้าโดยรอบยังโรยผงสีล้อมไว้เป็นรูปวงกลม จากนั้นก็เขียนอักขระโบราณตามตำแหน่งที่บอกไว้ในหนังสือเปี๊ยบ
เจ้าแกะน้อย ‘กิกิ’ มอง ‘พิธีมนตร์ดำ’ ตรงหน้าด้วยสายตาว่างเปล่า ขณะเริ่มลงมือช้าๆ
...ไม่เข้าใจจริงๆ ว่า ในเมื่อก็มีคนหน้าตาดี (น้อยกว่า) อยู่อีกตั้งมากมายทั้งในสายตระกูลของตัวเองและสายตระกูลของคนอื่น อีกอย่างพวกซิลเวอร์เซนต์กับบรอนเซนต์ที่หัวใจยังว่างก็มีอีกเป็นโขยง แต่ทำไมหลายๆ คนต้องพาเหรดกันมาตามตอแย วอแวกับท่านมูและท่านชิออนด้วย...
แล้วท่านมูกับท่านชิออนก็ใจดีเกินไป เห็นแก่มารยาทมากเกินไป คนพวกนั้นถึงได้ใจกันขนาดนี้
เพราะงั้น...การที่ ‘แกะสายตรง’หรือ ‘ว่าที่เซนต์แอเรียสคนต่อไป’ จะออกโรงปกป้องอาจารย์คนสำคัญทั้งสองจึงเป็นสิ่งที่ถูกต้องและเป็นหน้าที่อันควรปฏิบัติ
...ถึงตอนนี้จะยังทำได้แค่นี้ก็เถอะ
คิ้วสั้นๆ ของแกะจิ๋วยิ่งสั้นเข้าไปใหญ่จนแทบจะเห็นเป็นจุดกลมๆ 2 จุดบนหน้าผาก เมื่อเปิดสมุด(เดธ)โน้ตคู่มือออกดูรายชื่อผู้ไม่ประสงค์ดี
เริ่มต้นจากคนแรก....
....‘โกลด์เซนต์ทอรัส อันเดบารัน’
ให้สามคะแนนสำหรับท่าทางเป็นแฟมิลี่แมนแสนดี มีน้ำใจ เป็นที่พึ่งของเด็ก สตรี และคนชราได้เสมอ เพิ่มอีกสามคะแนนที่คอยเป็นหูเป็นตาเป็นด่านหน้าดูแลแซงค์ทัวรี่แทนท่านมูช่วงที่กลับไปอยู่จามิล เพิ่มสองคะแนนเพราะขนมอร่อยๆ ที่ชอบเอามาฝากท่านมู แล้วก็อีกหนึ่งคะแนนสำหรับความชอบส่วนตัว (มีปัญหาอะไรมั้ย...)
แต่...
ลบสิบคะแนน เพราะไม่เข้าใจจริงๆ ว่า เวลาเกิดสงครามขึ้นทีไร ทำไมท่านอันเดเป็นต้องเดี้ยงไม่ก็ตายก่อนใครเค้าเพื่อนทุกที(และทุกภาค) แล้วแบบนี้จะคอยปกป้องคุ้มครองท่านมูได้ยังไง เพราะงั้น...ไม่ผ่าน
ต่อมา
....‘โกลด์เซนต์เจมินี่ ซางะ’
หมอนี่....หักสามคะแนนสำหรับมหาวายร้ายตัวเอ้ เจ้าของตำแหน่งมารแฟมิลี่หมายเลขหนึ่ง ลบอีกสองเพราะลำพังนิสัยผีเข้าพระเจ้าออกที่ว่าเต็มกลืนแล้วยังไม่พอ ใจคอยังโลเลอีก ทุกวันนี้ยังไม่รู้จะเอาไงแน่ ใจนึงรักท่านชิออนแต่เสียดายท่านมู... อีกใจนึงก็อยากเก็บท่านมูไว้พอๆ กับไม่อยากทิ้งท่านชิออน..ลบไปอีกห้า ดูท่าแล้วคิดจะงุบงิบเอาไว้เองทั้งสองคนเลยสินะ...แบบนี้จากที่เหลือศูนย์ กลายเป็นติดลบสิบไปเลย เฮอะ! ให้อภัยไม่ได้
คนต่อไป....
....‘โกลด์เซนต์เลโอ ไอโอเรีย’
จากเต็มสิบอยากเพิ่มให้อีกสองคะแนนตามแรงเชียร์ของพวกเซย่า แต่หักลบความทื่อ บื้อ ติดพี่ที่เป็นเอกลักษณ์ส่วนตัวมาแต่ไหนแต่ไรแล้วให้รวมๆ แค่แปดคะแนนก็พอ ลบอีกสามเพราะดูแล้วไม่ค่อยเป็นแฟมิลี่แมนเท่าไหร่ สมน้ำหน้า! อยากขึ้นเสียง เถียงท่านมูคำไม่ตกฟากในภาคฮาเดสเองทำไม ที่สำคัญลบอีกสี่เพราะมีข่าวลือมาแรงว่าแอบนอกใจท่านมูไปกิ๊กกับท่านช่า คิดไปคิดมา...คนนี้ ไม่เวิร์ก
ต่อมา ต้องเป็น....ใช่แล้ว
....‘โกลด์เซนต์เวอร์โก้ ชากะ’
เห็นมาดนิ่ง จริงใจ น่าเลื่อมใสศรัทธาขนาดนี้ก็เถอะ หักสองคะแนนกับการชอบหลับตา ทำท่าเหมือนคนตาบอด ไม่รู้รึไงว่ามันไม่โรแมนติกง่ะ หักอีกสองคะแนนที่ทำอะไรเองไม่เป็น ไม่ว่าอะไรก็มีลูกศิษย์ลูกหาคอยจัดหาให้ตลอด ใจคอจะเอาแต่นั่งสวดมนต์ภาวนา เทศนาธรรม โปรดสัตว์โลกมันทั้งวันไม่ได้หรอกนะ ลองใครได้ไปเป็นแฟนคงหนีไม่พ้นต้องคอยเป็นโยมอุปัฏฐากตลอดศก ...จะทำเหมือนท่านมูเป็นคนใช้ได้ไงโดนหักไปอีกสองซะดีๆ สุดท้ายเพื่อความยุติธรรมต้องลบออกอีกสี่ด้วยจะได้เท่ากันกับท่านไอโอเรีย เพราะยังเคลียร์ข่าวที่ว่าไม่ได้ สรุป...กิไม่ปลื้ม
อีกคนที่ลืมไม่ได้ และคงลืมไม่ลง
....‘โกลด์เซนต์ไลบร้า โดโก’
หักทีเดียวห้าคะแนนที่ทิ้งให้ท่านชิออนต้องอยู่โยงเฝ้าแซงค์ทัวรี่ผุๆ พังๆ คนเดียวตั้ง 200 กว่าปี แต่ตัวเองหนีไปนั่งอู้งานอยู่ข้างน้ำตกซะงั้น ที่เหลือหักอีกห้า เพราะคนเขียนไม่ค่อยถูกชะตากับหมอนี่เท่าไหร่ (เฮ้ย!) ..กลับไปเลี้ยงหลาน (ลูกชิริวกับชุนเร) ซะเถอะ ไป๊....
...
...
...เห็นมั้ย ว่าไม่มีใครคู่ควร ไม่มีใครดีพอสักคน
เพราะงั้น....
..
..
เจ้าแกะกิทำหน้าโหด วางสมุดในมือลงแล้วลากหนังสือเล่มหนามาเปิดหาหน้าที่ต้องการ
...โชคดีจริงๆ ตอนไปเยี่ยมพวกเซย่าที่คฤหาสน์คิโดะแล้วไปเจอ ‘ของดี’ ซ่อนอยู่หลังโต๊ะเครื่องแป้งของอาเธน่าเข้า เหอๆๆๆ ขอยืมมาลองใช้หน่อยแล้วกัน
..
ขั้นแรก....
ต้องกำจัด ‘จุดอ่อน’ ออกไปให้พ้นทางซะก่อน
...ในเมื่อคนทั้งแซงค์ก็แอบซุบซิบนินทาถึงข่าวลือน่าสงสัยของทั้งสองคนอยู่แล้ว กิกิคนนี้จะช่วยทำให้มันเป็นความจริงขึ้นมาเอง
...ท่านชากะน่าจะดีใจ เพราะจะได้เด็กวัดคู่ใจ คนทำความสะอาด คนรับใช้ คนทำสวน พร้อมๆ กันในคราวเดียว...สะดวก ประหยัด...คุ้ม!
...ส่วนท่านไอโอเรียก็... ‘โหสิเหอะนะ คิดซะว่าสวรรค์ลงทัณฑ์ เอ้ย! สวรรค์ประทานรางวัลให้แก่ความซื่อ(บื้อ)ของท่านด้วยท่านช่าแล้วกัน
เริ่มต้นเลยแล้วกัน...
ใส่เปลือกแอปเปิ้ล ใบเมเปิ้ล น้ำตาล น้ำผึ้งลงในชามแก้ว....
กว่าจะได้เปลือกแอปเปิ้ลมาก็ต้องลงทุนลงแรงอ้อนว่าอยากกินแอปเปิ้ลพายอยู่เป็นนานกว่าท่านมูจะมีเวลาทำให้ สุดท้ายพอทำเสร็จก็ต้องตัดใจเอามาเป็น ‘วีซ่าผ่านประตูวิหาร’ จนได้ ใบเมเปิ้ลก็ไปเก็บเอาแถวๆ น้ำตกโรซัน ส่วนน้ำตาล น้ำผึ้งไม่ต้องห่วง ในครัวมีเพียบ
จุมพิตสิ่งที่ได้มาจากเขา พันเข้ากับเส้นผมของเธอ...
ในมือกิกิตอนนี้มีผ้าเช็ดหน้าเนื้อนุ่มผืนใหญ่พันไว้ด้วยเส้นผมสีทองยาว ....เหอๆๆ ป่านนี้ท่านไอโอเรียยังนึกไม่ออกด้วยซ้ำล่ะมั้งว่าผ้าเช็ดหน้าหายไปไหน ก็หายตอนอุ้มแกะขึ้นมาก่อนหกล้มที่หน้าบันไดนั่นล่ะท่าน หยิบออกมาจากกระเป๋าเสื้อแบบเนียนๆ เลย แล้วตอนเอาไปเช็ดหน้าให้ท่านช่ารับรองว่าโดนริมฝีปากแน่นอน แค่นี้ก็เรียบร้อย
ผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน ก่อนพรมน้ำค้างและโปรยกลีบกุหลาบ
น้ำค้างนี่ต้องลงทุนตื่นก่อนไก่ไปเก็บที่น้ำตกโรซันตามเคย โรยด้วยกลีบกุหลาบพันธุ์พิเศษที่เสี่ยงตายแอบไปเก็บมาจากวิหารปลาทอง
เผาทุกสิ่งให้มอดไหม้...ภายใต้แสงสว่างแห่งดวงจันทร์สีเงิน ด้วยเปลวสีเพลิงอันศักดิ์สิทธิ์
อาฮะ..นี่นะ ไม่ใช่ไฟธรรมดาๆ นะ ไปต่อมาจากไฟที่จุดบูชามหาเทพเซอุสกับอาเธน่าเลยล่ะ ศักดิ์สิทธิ์แค่ไหนคิดดู
สักพัก...ชามแก้วใบใหญ่ก็ว่างเปล่า
ขั้นต่อมา....
เสร็จจาก ‘จุดอ่อน’ แล้ว ก็ถึงเวลา ‘อำลาจุดแข็ง’ กับพวกที่ไม่เข้าคู่เข้าข้างกับใคร
สาธุ~~~ ขอให้ทุกคนออกไปให้พ้นๆ จากชีวิตของพวกเราชาวแกะทีเถอะ ช่วยลืมๆ ท่านมูกับท่านชิออนไปจากใจซะเถอะนะปู่โด ท่านอันเด ท่านซางะ..
วางขนมปังบนโต๊ะแล้วแผ่ออกให้กว้าง วางพริกป่น เกลือลงไปผสมให้เข้ากัน
คาถานี้..เตรียมอุปกรณ์แสนสบาย ทุกอย่างหาได้จากห้องครัว (ตามเคย)
เติมหยดเลือดและหยาดน้ำตา
ตอนช่วยท่านมูปอกแอปเปิ้ลโดนมีดบาด เลยได้เลือดกับน้ำตามาสมใจ (แต่เจ็บบบบ....ตัว ฮือออออ.....)
ผูกเส้นผมของคนสองคนเข้าด้วยกัน วางลงไปบนส่วนผสม นวดแป้งห่อทุกสิ่งไว้ด้วยกัน ปักด้วยเข็ม 3 เล่ม
เส้นผมของท่านมูกับท่านชิออนเก็บเอาตามแปรงแปรงผมได้ แต่ผมของคนอื่นนี่สิ...แทบตาย กว่าจะหามาได้ครบ ผมท่านอันเดค่อนข้างง่ายหน่อย ไปค้นๆ หาเอาได้เลย เพราะเจ้าตัวไม่อยู่ที่วิหารตั้งหลายวัน ของปู่ก็หยิบที่ร่วงๆ อยู่ในหมวกนั่นแหละ ส่วนของท่านซางะ นึกว่าแผนตบตาจะล้มเหลวซะแล้ว ดีที่สองแฝดหันมาทะเลาะกันเองซะก่อนเลยไม่ทันดูว่าผมหงอกที่เอาให้ดูน่ะ..มันของปู่ต่างหาก ....วะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
ว่าแต่..
พ่อมดกิกิมองเส้นผมสีเขียวอ่อน สีม่วง สีน้ำตาล สีน้ำเงิน และสีขาว(หงอก??) ในมือด้วยความลังเล
...มีผมตั้ง 5 คนง่ะ เอาไงดี
เอา...ผูกมันให้หมดเลยแล้วกัน
สักพักเส้นผม 5 สีที่พันเข้าด้วยกันก็ถูกวางลงในแป้งขนมปัง นวดให้เข้ากัน ปั้นเป็นก้อนกลมๆ ก่อนเอาเข็มจิ้มลงไปตรงกึ่งกลางตามตำราบอก
เมื่อยามเที่ยงคืนเวียนมาถึง จงฝังทั้งหมด...ภายใต้ร่มเงาแห่งต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ขนาดใหญ่
ฝังมันใต้ต้นไม้หลังวิหารแกะขาวนี่แหละ ใจจริงอยากเอาไปฝังใต้ต้นสาละของท่านชากะมากกว่า ท่าทางจะขลังใช่เล่น แต่...ใจไม่กล้าพอง่ะ
เสร็จแล้ว ทุกคาถาสำเร็จตามที่ตั้งใจไว้ทุกประการ เย้......
ก่อนเลิกพิธีต้องตบท้ายด้วยคาถาสุดท้ายและท้ายสุด...
เจ้าตัวร้ายดึงโหลคุ้กกี้ที่เจ้าตัวแสดงฝีมือลงครัวเองเมื่อบ่ายออกมา ถึงหน้าตาจะขี้เหร่ไปนิด ดูเกรียมๆ แก่ไฟไปหน่อย แต่ก็ทำด้วยใจนะเออ ท่านมูกับท่านชิออนคงไม่ใจร้ายโยนทิ้งหรอกน่า
คิดแล้วก็ยกยกโหลแก้วขึ้นทูนหัว กะให้แสงจันทร์ส่องลงมาโดนคุ้กกี้พอดี ปากก็พึมพำคาถาที่สำคัญที่สุดไปพร้อมพลังใจเต็มร้อย เพราะพรุ่งนี้ต้องวัดดวงกันที่คาถาเนี้ย...
...รักฉัน หลงฉัน ...รักฉัน หลงฉัน ...รักฉัน หลงฉัน
...รักฉันที่สุด หลงฉันที่สุด
ทันใดนั้นเอง.....
“กิกิ ทำอะไรอยู่” เสียงประมุขแกะดังมาจากห้องด้านใน “ดึกมากแล้ว ทำไมยังไม่นอน”
ตามด้วยเสียงอาจารย์สายตรง
“กิกิ นอนได้แล้ว”
รอยยิ้มบางๆ แต่งแต้มที่ริมฝีปาก ก่อนที่เจ้าแกะจิ๋วจะส่งเสียงตอบกลับไปพลางเก็บอุปกรณ์ ทำลายหลักฐานทุกอย่างไม่ให้เหลือ
“คร้าบ จะนอนเดี๋ยวนี้ล่ะ”
...นึกว่าจะไม่ห่วงกันซะแล้ว
...ก็ท่านมูกับท่านชิออนเป็นซะแบบนี้
แล้วจะตัดใจยอมยกให้คนอื่นง่ายๆ ได้ไงล่ะ
for the little Kiki ,
Jeserith
11 / 11 / 2010
3.30 a.m.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น