27/2/54

(Saint Seiya) : Kiki's spell (p2)

Author : jes

Pairing : ไม่มีจริงๆ

ระดับ : ปลอดภัยไร้กังวล

 Disclaimer : ตัวละครทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของอ. Masami Kuromada ค่ะ
..........................................................................



Chapter 2 : hate spell


Prepare some dough, blood, tear, chili powder, salt and hair from his and her...
(เตรียมแป้งขนมปังก้อนใหญ่, หยาดโลหิต, น้ำตา, พริกป่น, เกลือบริสุทธิ์ และเส้นผมจากเขาและเธอ)

Put the dough on the table, spread it widely, mix with chili powder and salt,
(วางขนมปังบนโต๊ะแล้วแผ่ออกให้กว้าง วางพริกป่น เกลือลงไปผสมให้เข้ากัน)

add blood and tear
(เติมหยดเลือดและหยาดน้ำตา)

bind his hair with hers, put in the dough,
(ผูกเส้นผมของคนสองคนเข้าด้วยกัน วางลงไปบนส่วนผสม)

wrap them all, pin with 3 needles
(นวดแป้งห่อทุกสิ่งไว้ด้วยกัน ปักด้วยเข็ม 3 เล่ม)

in midnight...
(จากนั้น เมื่อยามเที่ยงคืนเวียนมาถึง)

bury them all under the shadow of the big holy tree,
(จงฝังทั้งหมด...ภายใต้ร่มเงาแห่งต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ขนาดใหญ่)

When the morning come,
(เมื่อยามเช้าเวียนมาถึง)

their body, heart and soul,
(ร่างกาย จิตใจ และวิญาณของเขาและเธอ)

will be apart,
(จะไม่มองหน้ากัน)

forever...
(ชั่วนิรันดร์....)

.........................................................................


น้ำตกโรซัน......

“ปู่คร้าบบบบบบบบบบ”

ทันทีที่ตื่นจากการนั่งงีบหลับหลังอาหารกลางวัน ลืมตาขึ้นปุ๊บก็เห็นหลานศิษย์ตัวเล็กของเพื่อนร่วมรุ่นยืนเกาะก้อนหินฉีกยิ้มกว้างอยู่ใกล้ๆ ปั๊บทันที

กิกิเหรอ ชิออนสบายดีมั้ย

ใจร้าย... เจ้าแกะกิทำท่าโอดครวญชวนหมั่นไส้ เจอหน้าก็ถามถึงแต่ท่านชิออน

ก็เห็นๆ กันอยู่นี่นาว่ากิกิสบายดี มีแรงเทเลพอตมาถึงที่นี่ ผู้เฒ่ากำมะลอหัวเราะเบาๆ แล้วรีบใช้เด็กให้เป็นประโยชน์ทันที กลับไปบอกชิออนด้วยนะว่ามีคนคิดถึง

ฮึ..เจ้าแกะตัวดีตีหน้ามุ่ยเหมือนยังงอนไม่หายพลางส่งหมวกปีกกว้างใบเก่งคืนให้เจ้าของ  

“กลับละ ระวังหมวกปลิวหายนะ รักษาสุขภาพด้วยครับ....... บ๊ายบาย”

โดโกมองตามร่างเล็กๆ ที่เพิ่งเทเลพอตหายไปพร้อมกับความสงสัยที่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้น

...สรุปแล้วเจ้ากิกิมาทำไม แล้ว...เอาหมวกไปตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย

.........................................................................


วิหารเจมินี่.....

“ท่านซางะ....เอ่อ....”

แค่โผล่หน้าเข้าไปในวิหารเท่านั้น เสียงที่พยายามให้ฟังร่าเริงเข้าไว้ก็ชะงักกึกเมื่อเห็นคู่แฝดประจำแซงค์อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา

...เอาล่ะสิ ทีนี้จะรู้ได้ไง คนไหนซางะ คนไหนคาน่อน

ทั่วทั้งวิหารเงียบกริบราวกับมีคอสโม่ที่มองไม่เห็นกดดันอยู่รอบๆ เฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสบเข้ากับนัยน์ตาสีน้ำเงินจัด 2 คู่ 4 ข้างที่ประสานพลังกันจ้องตรงมา แค่นี้ก็ชวนขวัญผวาจนอยากหันหลังโกยอ้าวกลับวิหารแกะขาวเอาดื้อๆ

แต่..งานนี้ถอยไม่ได้

กิกิกลืนน้ำลายเอื้อก พยายามแจกยิ้มที่ค่อนข้างกร่อยเต็มทีให้แบบเต็มพิกัด แล้วงัดเอา ไม้ตาย ในมือออกมาใช้ทันที

“คนไหนท่านซางะครับ อาจารย์ชิออนให้เอาแอปเปิ้ลพายมาให้”

เท่านั้น..แฝดคนนึงก็สะบัดหน้าพรืด ส่วนอีกคนก็ยิ้มรับทั้งที่ริมฝีปากและดวงตา

...ชัดแล้ว เป้าหมายอยู่ทางขวา

ในขณะที่ส่งจานขนมให้ เจ้าแกะตัวยุ่งก็ทำตาโตซะโอเว่อร์จนซางะขมวดคิ้วสงสัย

“อะไรเหรอ”

“ผมขาว” เจ้าตัวยุ่งทำเสียงสูงปรี๊ด ก่อนเอื้อมมือไปดึงผมคนตรงหน้าออกมาสองสามเส้น “นี่ไง”

เส้นผมสีขาวค่อนข้างสั้นที่ปรากฏตรงหน้าเล่นเอาซางะอึ้ง ตะลึง จนทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ถือจานค้างไว้อย่างนั้น

“แก่” แฝดน้องได้ทีแสยะยิ้มแล้วรีบเหน็บแนมให้เจ็บใจเล่น

“ก็ แก่พอกันล่ะน่า” แฝดพี่โต้กลับเร็วทันใจ “นายเกิดช้ากว่าฉันไม่กี่นาทีหรอก”

เท่านั้น...สงครามน้ำลายย่อยๆ ระหว่างแฝดเจมินี่ก็เกิดขึ้นแบบไม่มีใครยอมใคร เลยไม่ทันได้สังเกตเห็น ชนวนสงคราม ที่หลบแวบแอบย่องหนีออกไปพร้อมเส้นผมสีน้ำเงินยาวและรอยยิ้มสะใจ

.........................................................................


วิหารทอรัส.....

“ท่านอันเดบารัน”

พอชิ่งหนีจากวิหารเจมินี่ลงบันไดมาถึงวิหารทอรัสได้ ก็เจอเจ้าของวิหารที่เพิ่งกลับจากไปทำธุระตามคำสั่งของอาเธน่าเข้าพอดีพอดิบ

“ว่าไง กิกิ” อันเดบารันยิ้มให้ตามสไตล์ลุงวัวใจดีก่อนอ้าแขนรับแกะตัวเล็กที่โถมตัวเข้าใส่เต็มแรงเหมือนทุกที แต่แล้วก็ต้องนิ่วหน้าเล็กน้อยเพราะดูท่ากิกิคงดีใจมากเกินไปหน่อยเลยสปริงตัวผิดจังหวะ มือแล็กๆ เลยคว้าต้นคอเขาไว้เพื่อไม่ให้ตัวเองร่วงลงไปกองกับพื้น

“มีของฝากให้กิกิกับมูด้วยนะ” พอปล่อยกิกิลงได้ อันเดบารันก็ตั้งหน้าตั้งตาค้นถุงสัมภาระที่กองอยู่อยู่ข้างกำแพงวิหาร “ขนมอร่อยมากๆ หวังว่าคงไม่โดนเจ้าเซย่ามาแฮบไปก่อน นี่ไง...เจอแล้ว”

“ขอโทษครับ”

พอยื่นมือมารับกล่องขนมมาถือไว้ กิกิก็ก้มหน้านิ่งแล้วพูดประโยคที่ไม่คิดว่าจะได้ยินตอนนี้ออกมา   

“เห ????” อันเดเป็นงง

“ยังไงก็ต้องขอโทษจริงๆ นะครับ ท่านอันเดบารัน”

ว่าแล้วก็ค่อยๆ เลี่ยงออกมาเดินลงบันไดไปวิหารแกะขาว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น