26/2/54

(Baramos) : The kings’ heart (ว่าด้วย...หัวใจกษัตริย์) (p4)


Author : neoaries+jeserith

Pairing : LL ???

ระดับ : ปลอดภัยไร้กังวล

Disclaimer : ตัวละครทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของคุณ rabbit ค่ะ
-----------------------------------------------------------------------

เอเดน: กับเวลาที่ไม่สิ้นสุด

ชายแดนแอเรียส-ทริสทอร์

...ทำอะไรก็ได้เหรออะไรก็ได้นี่มันอะไรล่ะ...

...พูดน่ะมันง่าย แต่ทำจริงมันยาก...

...ลองถ้าสองคิงนั่นพูดว่า ไม่คำเดียวก็จบ แล้วเจ้าชายตัวเล็กๆ อย่างเราจะไปทำอะไรได้...


...กลุ้ม!...



ถ้อยความคิดที่ใครก็มิอาจรู้ ว่าภายใต้หน้ากากยิ้มละไมและท่าทางอันสุดแสนจะมั่นอกมั่นใจเหลือล้นที่เมจิกปรินซ์แห่งเจมิไนแสดงออกต่อหน้าน้องๆ ซึ่งเดินตามหลังมาเป็นพรวนตอนนี้จะซ่อนความกลัดกลุ้มทุกอย่างไว้ในใจ ขณะเดินขึ้นไปบนสันเขาบริเวณที่ชายแดนเวนอล เอเธนส์ แอเรียส และทริสทอร์บรรจบกัน

...กลับไปเจมิไนคราวนี้ เห็นทีต้องทำคะแนนแล้วเป็นกษัตริย์ให้ได้ คอยดู! ให้มันรู้กันไปว่าคิงแห่งเจมิไนจะสู้คิงจากแอเรียสและทริสทอร์ไม่ได้

...หรือทางที่ดี เราควรเลิกยุ่งเกี่ยวกับเจ้าพวกนี้ จะเป็นทางออกที่ดีกว่า...


สักพักทั้งขบวนก็มาถึงหอคอยสังเกตการณ์บนภูเขาของเวนอล

จะว่าไปก็ต้องขอบใจไอคิวเกินคนของเจ้าชายขอทานอัจฉริยะที่สั่งให้สร้างหอคอยสังเกตการณ์เป็นรูปตัววาย ปลายด้านล่างสุดอยู่ในเขตเวนอล ปีกด้านซ้ายยื่นเข้าไปในเขตแอเรียส ส่วนปีกด้านขวาสร้างล้ำเข้าไปในเขตทริสทอร์ ทั้งสองด้านมีทหารคอยจับตาดูการกระทำของทั้งสองฝ่ายอยู่ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง เพราะฉะนั้นแค่เดินไปจนสุดทางของแต่ละด้านก็พอจะตะโกนพูดกับคนที่อยู่อีกฟากได้

ทว่าแค่อยู่ในเขตเวนอลแล้วมองออกไป เจ้าชายโรเวนก็อึ้งรับประทานจนพาลจะอยากหนีกลับบ้านเอาดื้อๆ

ป้อมปราการฝั่งทริสทอร์สร้างขึ้นเป็นรูปโทรโข่งยักษ์นับสิบตัว แถมทุกตัวยังกำกับมนตร์ขยายเสียงแบบอินฟินิตี้ ส่วนทางด้านแอเรียสก็ไม่น้อยหน้า บนยอดหอคอยนับสิบป้อมที่เรียงรายกันราวกำแพงสูงตระหง่านบนยอดเขาต่างติดตั้งอุปกรณ์การยิงวิสัยไกลขนาดใหญ่ไว้พร้อมเพรียงเตรียมรับมืออีกฝ่าย

ยังไม่ทันที่เมจิกปรินซ์จะคิดทำอะไรต่อไป เวลาแห่งสงครามยามบ่ายก็อุบัติขึ้น เมื่อพระวรกายสูงสง่าของกษัตริย์ลูคัสปรากฎขึ้นด้านหลังโทรโข่งเวทมนตร์ตัวใหญ่ที่สุดแล้วกรอกสุรเสียงลงไปพร้อมรอยยิ้มสนุกสุดๆ


ลอรี่... ลอรี่... ลอรี่... ลอรี่...


วินาทีต่อมา กษัตริย์ลอเรนซ์ที่ยืนหน้าหงิกคอยอยู่แล้วบนหอคอยที่อยู่ตรงกลางก็โบกมือให้สัญญาณกองทัพทหารเวททั้งซ้ายและขวาให้ยิงอะไรบางอย่างลักษณะกลมออกไปข้างหน้า กะเล็งทีเดียวให้ตรงกับปราการโทรโข่งที่อยู่ตรงข้ามให้มากที่สุด

พลัน เมื่อยิงขึ้นไปกลางอากาศ เจ้าลูกกลมๆ นั่นก็กลายเป็นมีดสั้นขนาดเล็กส่องประกายแวววาวคมกริบนับพันนับหมื่นเล่มพุ่งตรงไปยังเป้าหมายยังกับติดเรด้าร์นำวิถี

เฟี้ยว~

แต่พอเข้าไปใกล้อีกแค่ไม่ถึงครึ่งเมตรจะถึงหน้าหอคอยทริสทอร์ บาเรียป้องกันที่ผู้ใช้เวทตระกูลซาโดเรียช่วยกันร่ายไว้ก็ทำงานทันทีด้วยการสะท้อนมีดบินส่วนใหญ่ออกไปชนิดคนละทิศละทางจนบางเล่มเลยข้ามพรมแดนไปทั้งอย่างนั้น มีเพียงไม่กี่เล่มที่ผ่านทะลุเข้ามาได้ เลยเป็นหน้าที่ของกลุ่มราชองครักษ์ประจำพระองค์ต้องวิ่งวุ่นวายหาอะไรมาป้องกันไว้ท่ามกลางรอยยิ้มสนุกสนานของกษัตริย์แห่งทริสทอร์ที่สามารถยั่วโมโหกษัตริย์อดีตคู่หูได้สำเร็จอีกครั้ง

...ทุกอย่างแทบไม่แตกต่างจากสมัยอยู่ป้อมอัศวิน แถมยังอัพเกรดกลายมาเป็นเรื่องระดับประเทศ...

เอาไงดีพี่เสียงถามจากโรที่ยืนอยู่ใกล้สุด เรียกสติที่ล่องลอยของโรเวนกลับมาอีกครั้ง

อะ...อืม...เมจิกปรินซ์คนเก่งแอบกลืนน้ำลายเอื๊อกแล้วขยับเดินไปทางซ้าย

ลองเจรจากับทางแอเรียสก่อนแล้วกัน

 

หอคอยฝั่งแอเรียส

พอเดินมาถึงสุดทางปุ๊บโรเวนก็รีบกวาดสายตาหาอดีตเพื่อนร่วมป้อมฯ ที่เจ้าตัวเลือกสรุปด้วยเหตุผลข้างๆ คูๆ เต็มทีว่าน่าจะเป็นคนที่พูดด้วยง่ายกว่าในบรรดาคู่หูตัวแอลทั้งสองคน

กษัตริย์ลอเรนซ์ โมนาโรคในชุดฉลองพระองค์สีขาวสะอาดสมกับที่เป็นอดีตนักบวชกำลังยืนมองอุปกรณ์เล่นแร่แปรธาตุทั้งหลายที่วางกองสุมๆ อยู่บนโต๊ะตัวใหญ่ข้างตัวด้วยสีพระพักตร์บึ้งตึงเหมือนทุกครั้งที่เห็น สักพักก็เงยหน้าขึ้นมองอดีตกษัตริย์ริชาร์ดพระบิดาที่กำลังตะโกนลั่นถามบรรดานักเล่นแร่แปรธาตุกับพ่อมดในปกครองถึงผลลัพธ์ของการโจมตีที่เพิ่งผ่านไป 

ว่าไง เข้าเป้ากี่เปอร์เซ็นต์ หา!

อา...พ่อมดคนที่ถูกถามหน้าแหยยี่สิบสองเปอร์เซ็นต์กระหม่อม

ยี่สิบสองเปอร์เซ็นต์พ่อมดมหัศจรรย์ทวนคำด้วยความอึ้งนิดๆ ก่อนโวยแหลกทำไมมันน้อยนักห๊า...เมื่อสองวันก่อนยังได้ตั้งสี่สิบสี่เปอร์เซนต์ ทำตามสูตรแปรธาตุที่ฉันคำนวณให้ไปถูกรึเปล่า ไม่ได้มั่วแน่นะ

เป๊ะๆ เลยพ่ะย่ะค่ะ รับรองได้ แต่ยี่สิบสองเปอร์เซ็นต์คราวนี้มีที่ทะลุผ่านบาร์เรียไปได้ตั้งสองเปอร์เซ็นต์นะฝ่าบาท คราวสี่สิบสี่เปอร์เซ็นต์นั่นไม่มีผ่านบาร์เรียเลยสักนิด

เรอะ งั้นก็ค่อยยังชั่วหน่อยอดีตกษัตริย์ริชาร์ดค่อยยิ้มออก แต่พอหันไปเห็นลูกชายสุดที่รักที่พอรู้ผลก็เมินหน้าไปอีกทางด้วยความหงุดหงิด พ่อที่ดีที่สุดในเอเดนก็รีบแก้ตัวทันที

ลอเรนซ์...ไม่เป็นไรนะลูก คราวหน้ามันต้องเกินห้าสิบเปอร์เซ็นต์ให้ได้ นั่นใครน่ะ....

โรเวน?” ลอเรนซ์ที่หันไปมองตามเสียงพระบิดาขมวดคิ้วเมื่อเห็นรุ่นเพื่อนและรุ่นน้องยืนมองมาหน้าสลอนอยู่ทางหอคอยฝั่งเวนอล

ว่าไงเมื่อเห็นหน้าคนรู้จัก ลอเรนซ์ก็เดินตรงมาคุยด้วยที่หอคอยที่อยู่ติดกับทางเวนอลมากที่สุด

ยังไม่ทันที่โรเวนจะได้อ้าปากพูดอะไร บรรดาน้องๆ ที่เพิ่งได้ชมการต่อสู้ทางอากาศอันน่าตื่นตาตื่นใจก็ส่งเสียงกันให้แซ่ดยิ่งกว่านกกระจอกแตกรัง

สุดยอดไปเลยพี่ครี๊ดชมเปาะด้วยความประทับใจสุดๆ ท่ามกลางสายตาจิกกัดของเจ้าชายแห่งไนล์ที่จ้องมา

ขอบใจได้ยินเสียงสนับสนุนแบบนี้ ใบหน้าของลอเรนซ์ค่อยหายกระด้างขึ้นบ้าง

ใช้เวทอะไรถึงทำให้เศษไม้กลายเป็นอาวุธได้กัสสงสัย

ไม่รู้สิ ถามพ่อฉันโน่น รายนั้นงกไม่ยอมให้ใช้แร่ของจริง หาว่าเปลือง ใช้ของเหลือแบบนี้จะได้เป็นการกำจัดขยะในแอเรียสไปในตัว

ว่าแล้วก็ชี้ไปที่อดีตกษัตริย์ริชาร์ดที่กำลังเรียกประชุมพลพรรคนักเล่นแร่แปรธาตุเพื่อวางแผนการโจมตีครั้งใหม่อยู่ที่หอคอยกลาง

แล้วพี่จะทำแบบนี้ต่อไปถึงเมื่อไหร่ครับเอ็ดเวิร์ดถาม

ไม่รู้สิ จนกว่าเจ้าบ้าลูคัสมันจะหยุดตะโกนเรียกชื่อบ้าๆ บอๆ นั่นมาจากฝั่งโน้นล่ะมั้ง

มันยากนะพี่ ยังไงก็ถือซะว่าทำบุญบุญกรวดน้ำแผ่เมตตาอย่าไปสนใจเลยดีกว่ามาทิลด้าพยายามโน้มน้าวสุดชีวิต แน่นอนล่ะว่าไม่ได้รับคำตอบใดๆ กลับมา 

แล้วถ้ามีดบินเกิดไปโดนใครเค้าเข้าล่ะครับ บาปกรรมแย่ซีบิลทำหน้าหวาดเสียวด้วยความสยองแทนประชาชนของประเทศเพื่อนบ้านที่ยังต้องรับกรรมกันต่อไปพลางรู้สึกหัวใจพองโตที่เกิดมาเป็นคนบารามอส

ไม่ต้องห่วง ถ้าไม่ใช่พวกที่อยู่หลังบาร์เรียนั่น ถึงใครจะโดนมีดบินเวทมนตร์ที่ถูกสะท้อนออกไปปักขั้วหัวใจก็แค่เจ็บๆ คันๆ ไม่ถึงตายหรอก” 

...เหรอ แต่มันจะตกใจตายไปก่อนหน้า ตั้งแต่เห็นมีดบินพุ่งเข้าใส่แล้วน่ะสิ...

ฉันรู้ว่านายคิดอะไรอยู่โรเวนลอเรนซ์มองอดีตเสธ.ซ้ายแห่งป้อมอัศวินด้วยสายตาจริงจังพลางกวาดสายตาไปยังรุ่นน้องแต่ละคนแล้วถอนใจยาว

แล้วรู้ด้วยว่าพวกนายมานี่ที่เพื่ออะไร แต่อย่างที่บอกไว้ สงครามบ้าๆ นี่จะหยุดลงก็ต่อเมื่อฉันไม่ได้ยินเสียงเรียกชื่อประสาทๆ นั่นอีก” 


หอคอยฝั่งทริสทอร์

โรเวน โรรี่ ครี๊ดดี้ ซีบี้ กัสซี่ เอ็ดดี้ มาที่ เอฟี่ ดีใจจังที่ทุกคนมาเยี่ยม อ้อ! รวมคนอื่นที่ฉันไม่เคยเจอด้วยนะ

พอทั้งกลุ่มเดินมึนตึ้บกันออกมาจากฝั่งแอเรียสที่อยู่ด้านซ้าย ก็ได้ฤกษ์ย้ายมาทางทริสทอร์ที่อยู่ทางฝั่งขวาบ้าง

เมื่อเดินมาสุดทางปุ๊บก็ได้ยินเสียงทักด้วยชื่อประสาทๆ อย่างที่ลอเรนซ์ว่าไว้ทันที เรียกให้ทุกสายตามองตรงไปยังต้นเสียงอย่างไม่ต้องนัดหมายบนป้อมปราการแห่งทริสทอร์

กษัตริย์ลูคัสในชุดฉลองพระองค์สีดำสนิทยืนส่งยิ้มสไตล์ซาตานมาให้อย่างเริงรื่นชื่นบานเต็มพิกัดอยู่หลังโทรโข่งยักษ์ที่พรุนไปด้วยรอยคมมีด แต่ประสิทธิภาพเสียงยังเต็มร้อย

แค่เห็นหน้าเซ็งหลุดโลกของคนนับสิบที่อยู่ตรงหน้า ลูคัสก็หัวเราะออกมาเบาๆ แล้วตรงเข้าประเด็นทันที

ลอรี่ยืนกรานไม่ยอมเลิกขว้างมีด ถ้าฉันไม่ยอมเลิกเรียกชื่อก่อนล่ะสิ

แล้วนายจะยอมทำตามที่บอกไหมล่ะโรเวนชิงพูดก่อนด้วยน้ำเสียงเนือยๆ เพราะเบื่อกับปัญหาโลกแตกของสองกษัตริย์เต็มที

ก็อยากอยู่หรอกนะ ฉันรู้ว่ามันทำให้คนอื่นลำบากลูคัสพยักหน้ารับอย่างเข้าใจแต่...เมื่อก่อนตอนฉันยังเด็ก ชีวิตมันเหงามากเลย เช้าตื่นขึ้นมาก็ต้องฝึกการใช้เวท ค่ำก็หลับไปพร้อมหนังสือเวทที่ยังอ่านไม่จบ วันแต่ละวันผ่านไปมันช่างชักช้า ซ้ำซากและสุดแสนจะน่าเบื่อ จนได้มาอยู่ในโรงเรียนพระราชาเนี่ยแหละ ชีวิตฉันถึงมีสีสันต์ขึ้นเยอะ มีคนให้ยั่วโมโหเล่น มีมีดบินให้คอยหลบ มีเสียงตะโกนด่า มีเรื่องบ้าๆ บอๆ เยอะแยะให้แปลกใจได้ทุกวัน ชีวิตแบบนี้เป็นสิ่งที่ฉันต้องการมาตลอดเลยนายรู้ไหม

...ช็อค...

...คนที่ได้ยินต่างช็อคค้างไปตามๆ กันกับกุศโลบายการใช้ชีวิตของกษัตริย์ลูคัส...

ตอนที่ทางทริสทอร์ยังไม่ติดต่อมา ฉันยังนึกในใจเลยว่าถ้าลอรี่กลับแอเรียสเมื่อไหร่ฉันคงแย่เพราะตามเข้าไปป่วนในวังไม่ได้ โชคดีที่บังเอิญได้เป็นกษัตริย์ขึ้นมา แต่ก็ดันมีกฎระเบียบบ้าๆ บอๆ เต็มไปหมด ทำโน่นก็ไม่ได้ ทำนี่ก็ไม่ดี วิธีแก้เหงามันก็เลยเหลืออยู่ทางเดียวนี่ล่ะ แหม...ก็แค่สามเวลาหลังอาหารเอง ทนๆ กันหน่อยแล้วกันนะทุกคน


เปรี้ยง!


เหมือนเส้นด้ายตึงๆ ที่ขึงอารมณ์ของทุกคนขาดผึงลง เมื่อได้รับคำตอบแจ่มแจ้ง

ที่แท้ความหมายของวิชาหัวใจกษัตริย์ที่ร่ำเรียนมามันเป็นอย่างนี้ตะหาก

...หัวใจกษัตริย์ของกษัตริย์ลูคัส คือ การคลายเหงายามว่าง

...หัวใจกษัตริย์ของกษัตริย์ลอเรนซ์ คือ การฆ่าได้หยามไม่ได้ แต่...ถ้าจะมองอีกแง่มุมหนึ่ง บางทีกษัตริย์ลอเรนซ์ก็อาจจะเหงาไม่ต่างจากกษัตริย์ลูคัสก็ได้ เลยใช้วิธีคลายเหงาแบบเดียวกัน

...หัวใจกษัตริย์ของ (ว่าที่) กษัตริย์โรเวน น่าจะเป็น การตั้งปณิธานว่าจะเลิกยุ่งกับเรื่องชาวบ้านไม่ว่าในกรณีใดๆ จะได้หายปวดประสาท

...หัวใจกษัตริย์ของ (ว่าที่) จักรพรรดิชาเบรียน คือ หาสารพัดวิธีเพื่อสกัดดาวรุ่งกษัตริย์รุ่นพี่ทั้งหลายไม่ให้เด่นเกินหน้าเกินตาไปมากกว่านี้

...หัวใจกษัตริย์ของ (อดีต) กษัตริย์ริชาร์ด หนีไม่พ้นความสุข สนุกสนานได้ตลอดเวลา ตามประสาคน (มัน) เก่ง

...หัวใจกษัตริย์ของ (อดีต) กษัตริย์วีเมย์ คงเป็นการหาตัวตายตัวแทนไว้ ตัวเองจะได้หมดทุกข์หมดโศกกะเค้าบ้าง


เฮ้อ!


...ลาก่อน ปรากฏการณ์มีดบินที่ต้องทนกันมาตลอดเจ็ดปีในป้อมอัศวิน...

แล้ว

...สวัสดี สงครามโทรโข่งที่ยังมองไม่ออกว่าจะยุติวันไหน...

...ต่อจากนี้ไปก็ตามบุญตามกรรมแล้วกันนะทุกคน หมดปัญญาจะช่วยแล้ว...


...จบ...





เดี๋ยวสิพี่ จะจบแบบนี้จริงน่ะ

เสียงเหล่ารุ่นน้องตะโกนไล่หลังโรเวนที่จู่ๆ ก็ตัดสินใจหันหลังก้าวฉับๆ กลับออกไปด้วยใบหน้านิ่งสงบ

ฉันก็ช่วยเท่าที่ฉันจะทำได้แล้ว ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับสองกษัตริย์นั่นจะตัดสินใจเถอะโรเวนเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่พยายามปรับให้ราบเรียบที่สุด แต่สายตาบ่งชัดแล้วว่าไม่อยากเข้าไปยุ่งเรื่องปวดหัวนี้เต็มแก่ ทว่าในใจกลับเต็มไปด้วยถ้อยคำอาฆาต พยาบาท และมาดร้ายอันแสนจะดุเดือด

…….ใช่ ตอนนี้อาจทำอะไรไม่ได้ แต่อีกไม่นานหรอก รอให้ฉันได้ขึ้นเป็นคิงก่อนเถอะ ตำแหน่งไฮคิงที่ยังว่างอยู่รับรองว่าเสร็จฉันแน่......แล้ววันนั้นกษัตริย์ทั้งเอเดนต้องยอมสยบให้......มหาราชโรเวน คอยดู!” 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น