26/2/54

(Baramos) : Little Laury (p1)


Author : jes

Pairing : LL  (มั้งนะ)

ระดับ : ปลอดภัยไร้กังวล

Disclaimer : ตัวละครทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของคุณ rabbit ค่ะ
-----------------------------------------------------------------------


......ณ ยามค่ำคืนที่กาลเวลารอบตัวคล้ายหยุดนิ่งไปชั่วขณะด้วยต้องมนต์แห่งนิทรา มีเพียงเสียงสายลมแห่งฤดูร้อนที่พัดผ่านยอดไม้ดังหวีดหวิวดังแว่วมาทางหน้าต่าง แต่แล้วมนตราแห่งนิทราอันศักดิ์สิทธิ์กลับใช้ไม่ได้ผลกับร่างสูงใหญ่ของใครบางคนที่เอาแต่นอนกระสับกระส่ายพลิกตัวไปมาอย่างหาความสุขไม่ได้อยู่บนเตียง....ในห้องที่มีรูพรุนมากที่สุดในป้อมอัศวิน

เบื่อจัง!

ทำไมแต่ละวันๆที่ผ่านๆไปมันถึงได้ชักช้า ซ้ำซากและสุดแสนจะเซ็งแบบเน้~....

เฮ้อ!

......................

เมื่อ 2 อาทิตย์ก่อน

ลอรี่!” เสียงซาตานอารมณ์ดีดังขึ้นป่วนประสาทนักบวชอารมณ์บูดเหมือนทุกที

เฟี้ยว....ฉึก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

ไม่ทันขาดคำ....พายุมีดบินสีเงินก็ปลิวว่อนเป็นการตอบรับเหมือนเคย

ลูคัส ถ้าแกยังไม่อยากตาย ก็รีบๆหุบปากไปซะ ลอเรนซ์ ดอร์น เดอะพรีทส์ ออฟแอเรียสที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาเก็บของใช้จำเป็นใส่ลงในกระเป๋าเดินทางใบย่อมยอมเสียเวลาอันมีค่าเงยหน้าขึ้นมาตวาดใส่

อีกไม่กี่วันก็ปิดเทอมหน้าร้อนแล้ว สรุปว่าเราสองคนจะไปเที่ยวที่ไหนกันดี ผู้วิเศษแห่งทริสทอร์ที่เอี้ยวตัวหลบคมมีดด้วยความชำนาญเหมือนทุกครั้งเริ่มแย้มรอยยิ้มเข้าสู้แล้วพลิกหนังสือ “Unseen Edenที่ถืออยู่ในมือไปมา

ไปบุกทุ่งหิมะที่สโนว์แลนด์กันมั้ยหรือไปเดินป่าที่อเมซอนดี อืม...ไปพายเรือล่องแพที่ไนล์ก็เข้าท่า หรือว่าไปว่ายน้ำ อาบแดดที่เกาะสวรรค์ทะเลใต้ก็ไม่เลว นายว่าไง

ตามใจ เรื่องของแก ไม่เกี่ยวกับฉัน ลอเรนซ์สะบัดหน้าใส่

ฉันจะกลับบ้าน

ได้ไง ซาตานเบิกตากว้างพลางส่งเสียงประท้วงง้องแง้ง ไหนตกลงกันว่า...เอาเถอะ งั้นให้ฉันตามไปที่มหาวิหารแห่งแอเรียสด้วยคนได้มั้ยล่ะ นะ นะ นะ น้า......พลีสสสสสสส.....

เสียงอ้อนวอนออดๆจบลงพอดีพร้อมกับที่เสียงปิดกระเป๋าดังขึ้น ลอเรนซ์ยกกระเป๋าขึ้นสะพายบ่า มือเรียวได้รูปคว้ากุญแจห้องที่วางไว้บนโต๊ะเขียนหนังสือหย่อนลงในกระเป๋าเสื้อแล้วเปิดประตูเดินจากไปหน้าตาเฉย

พ่อฉันสั่งให้กลับบ้านด่วน ไม่ใช่มหาวิหารเรียกตัว ไปนะ เจอกันเปิดเทอม

.........ปัง.............

(ไม่บอกก็รู้ใช่มะว่าเสียงกระแทกประตูปิด เจส / เออ... - คนอ่าน)

........

...................

ปั้ง ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ  

เสียงรัวกำปั้นทุบหมอนแบบไม่มียั้งดังขึ้นจากซาตานที่ถูกนักบวชทอดทิ้งตามด้วยการนอนกลิ้งตัวไปมาระบายความหงุดหงิดอีกสองสามที

เปิดเทอม....

เปิดเทอมเนี่ยนะ....

กว่าจะเปิดก็อีกตั้งหลายเดือน แล้วพอลอรี่ไม่อยู่...ก็ไม่มีคนให้ยั่วโมโหเล่น ไม่มีมีดบินให้คอยหลบ ไม่มีเสียงตะโกนด่า ชีวิตแบบนี้จะไปมีค่ามีความหมายอะไร แถมช่วงนี้โรเวนกับอาตี้ก็ต้องตามพวกเฟรี่ คาลี่ คิลลี่ไปเดมอสอีก ชิววี่กับโซมี่ก็หนีไปเที่ยวไหนไม่รู้กันสองคน ไม่มีใครสนใจลูคัสผู้โดดเดี่ยวคนนี้บ้างเล้ย  

ฮือออออ.......

ลอรี่จ๋า รีบๆกลับมาเต๊อะ....เค้าเหงาจะแย่อยู่แล้ว

และในที่สุดลูคัสผู้น่าสงสารก็ซบหน้าลงกับหมอนอีกครั้งก่อนจะ.......

...........Zz Zz

.......... Zz Zz Zz Zz Zz

...........ZZzzzzzzzzz  ZZZZZZzzzzzz...........


เอ๋....

ทำไมจู่ๆลูคัสก็รู้สึกเหมือนลืมตาตื่นขึ้นกะทันหัน รอบตัวคือความมืดสนิทที่ให้ความรู้สึกวังเวงและหดหู่ ดูๆไปแล้วไม่ค่อยน่าไว้ใจเท่าไหร่

ลูคัส....ลูคัส ซาโดเรีย......ลูคัส ซาโดเรีย

เสียงประหลาดดังมาจากความมืดข้างหน้าเรียกให้ต้องหันกลับไปมอง

ท่านคือผู้ถูกเลือก ลูคัส ซาโดเรีย ถูกเลือกจากมงกุฎแห่งใจ จงบอกสิ่งที่ท่านปรารถนามาแล้วข้าจะบันดาลให้ท่านสมหวัง

หือม์ อะไรก็ได้เหรอ ลูคัสทวนคำอย่างชักสนใจขึ้นมานิดหน่อย แล้วฉันต้องให้อะไรเป็นการแลกเปลี่ยนล่ะ

ใช่ อะไรก็ได้ ไม่มีข้อแลกเปลี่ยน นานทีร้อยปีหนมงกุฎใจอย่างข้าก็อยากทำอะไรที่มันดีๆขึ้นมามั่งเหมือนกันล่ะน่า 

ได้ทุกอย่างแน่นะ แล้วต้องให้ฟรีจริงๆด้วย คนถูกเลือกถามซ้ำอีกครั้งเป็นการตอกย้ำความมั่นใจ

เอ๊...บอกว่าได้ก็ได้เด่ะ จะเซ้าซี้ถามอะไรนักหนา ท่าทางมงกุฎใจชักยัวะขึ้นมามั่ง จะขอหรือไม่ขอ เสียเวลา...ข้าจะได้ไปถามคนอื่นแทน

แหม อย่าโมโหสิ..เอาเป็น...ลูคัสหยุดคิดเล็กน้อยก่อนบอกความปรารถนาในหัวใจ

ฉันอยากเจอลอรี่

แล้วท่านจะได้ดังใจหวัง

เสียงหัวเราะเบาๆดังขึ้นก่อนจะค่อยๆจางหายไปพร้อมแสงสีทองแสบตาที่สว่างวาบ

............................

เฮ้!  ตื่น ตื่นสิ ลืมตาได้แล้ว

เสียงปลุกดังแว่วเข้าหูทำให้นัยน์ตาสีเข้มหลังแว่นกรอบทองลืมขึ้นอย่างช้าๆก่อนจะหลับตาลงแล้วลืมขึ้นอีกที แต่ถึงจะหลับตาลืมตาใหม่อีกสักกี่หนจนแล้วจนรอดก็ไม่มีภาพของคนที่อยากเห็นปรากฏเข้ามาในสายตาอยู่ดี

....สงสัยจะถูกไอมงกุฎซังกะบ๊วยนั่นหลอกเข้าให้แล้วสิ ฮึ่ม...ฝากไว้ก่อนเหอะ เจออีกทีเมื่อไหร่จะเอาน้ำกรดราดเลย คอยดู!

ซาตานแห่งป้อมอัศวินถอนหายใจเฮือกแล้วทรงตัวลุกขึ้นเดินไปนั่งบนเก้าอี้ที่อยู่ใกล้ๆพลางกวาดสายตามองไปรอบๆ

ที่ไหน.....

ห้องขนาดใหญ่ที่แม้จะไม่หรูหราแต่ก็ได้รับการตกแต่งอย่างดีเยี่ยมแบบนี้มั่นใจได้เลยว่าไม่มีทางเป็นห้องรับแขกในโรงเรียนพระราชาที่มักถูกนักเรียนนินทาอยู่บ่อยๆว่าบ่จี๊

นั่นใคร.....

ที่โซฟาตัวใหญ่กลางห้อง ชายผมดำอายุประมาณ 30 ปีนั่งอยู่คนเดียวเงียบๆพลางจ้องมองตรงมาอย่างใช้ความคิด

ที่นี่ที่ไหน ผู้มาเยือนถามคำถามแรกขึ้นก่อนเพื่อชิงความได้เปรียบ

มหาวิหารแห่งแอเรียส คำตอบดังมาจากชายผู้ปลุกซาตานให้ตื่นขึ้นจากนิทรา ส่วนเธอ....แต่งตัวแบบนี้...นักเรียนโรงเรียนพระราชาสินะ อยู่ปีไหนล่ะ

ป้อมอัศวิน ปีห้า ปีเดียวกับเจ้าชายโรเวนแห่งเจมิไน ลูคัสตอบพร้อมขอใช้บารมีโรเวนเป็นที่พึ่ง ก็จะมีสักกี่คนเชียวที่ไม่รู้จักเมจิกพรินซ์คนเก่ง จริงมั้ย

เข้าใจล่ะ ชายแปลกหน้าพยักหน้าหงึกหงักก่อนยักคิ้วให้ เธอมาจากอนาคตสินะ ถึงไม่รู้ว่าคิงเซธแห่งเจมิไนเพิ่งจัดงานฉลองวันเกิดครบรอบ 6 ปีให้เจ้าชายโรเวนไปเมื่อ 2 เดือนก่อน

ว่าไงนะ...หมายความว่า..... คนหลงยุค อ้าปากค้าง แต่ก็พอเข้าใจอะไรขึ้นมาลางๆ

....ไอมงกุฎสับปะรังเคนั่น มันส่งเขากลับมาในอดีต หนอย...มันน่านัก

ชายผมดำมองสีหน้าตกตะลึงของอีกฝ่ายพลางถอนใจยาวก่อนจะพูดขึ้นอย่างคนที่ตัดสินใจอะไรบางอย่างได้แล้ว ฉันมีวิธีพาเธอกลับไปยังที่ๆเธอมาได้ แต่ต้องทำงานให้ฉันอย่างนึงก่อน

ลูคัสผ่อนลมหายใจลงเล็กน้อยก่อนเอ่ยปากถาม นายเป็นใคร แล้วจะให้ฉันทำอะไร

ฉันเหรอ...ก็แค่พ่อมดธรรมดาๆ อย่าสนใจเลย ส่วนงานที่จะให้ทำก็...เป็นพี่เลี้ยงคอยดูแลความปลอดภัยให้เด็กเล็กๆคนนึงที่ฉันเป็นผู้อุปถัมป์อยู่ ก็เท่านั้น

ก๊อก ๆ ๆ

เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรียกร้องความสนใจ สักพัก...เด็กชายตัวจ้อยก็ก้าวเข้ามาในห้อง แค่แวบแรกที่แลเห็นก็เล่นเอาลูคัสถึงกับตะลึงไปอย่างไม่เชื่อสายตา

แม้คนตรงหน้าจะเป็นแค่เด็ก 6 ขวบ แต่เส้นผมสีทองแลดูอ่อนนุ่มราวไหมเนื้อดีที่ปลิวระใบหน้ากับนัยน์ตาสีอเมทิสต์เป็นประกายที่จ้องมองผู้ใหญ่ 2 คนในห้องสลับกันไปมาอย่างไม่ค่อยไว้ใจนั้นดูคุ้นตาอย่างบอกไม่ถูก....ถึงบนใบหน้าอ่อนเยาว์จะไม่มีร่องรอยความหงุดหงิดที่เป็นจุดเด่นประจำตัวก็ตามที แต่รูปลักษณ์แบบนี้จะเป็นคนอื่นไปได้ยังไง....

หัวใจของซาตานตัวแอลพองโตด้วยความดีใจ

......นั่นนายใช่มั้ย นายจริงๆใช่มั้ย

พอเด็กน้อยเดินเข้ามาใกล้ พ่อมดธรรมดา(มั้งนะ)แห่งแอเรียสก็แย้มรอยยิ้มอ่อนโยนยิ่งพร้อมเอ่ยทักทาย

 ไม่ได้เจอกันพักนึง โตขึ้นเยอะเลยนะ ลอเรนซ์


............................................


มืดอ้ะ

ก็พระอาทิตย์ตกดินไปตั้งนานแล้วนี่นา

เสียงพึมพำกระซิบกระซาบโต้ตอบกันระหว่างคู่หูต่างวัยคู่ใหม่ดังมาจากหลังพุ่มไม้ใหญ่ ถัดออกไปข้างหน้าคือคฤหาสน์ร้างขนาดใหญ่แถบชานเมืองแอเรียสที่ชาวบ้านร่ำลือกันว่า ผีดุสุดๆ เพราะไม่ว่าใครก็ตามที่เข้าไปข้างในเพราะอยากลองของเป็นอันต้องจับไข้หัวโกร๋นออกมากันทุกคน

จุดไฟสักนิดไม่ได้เหรอ มองไม่เห็น เสียงเล็กๆเริ่มงอแง

มีแสงสว่างเดี๋ยว ไวท์ เลดี้ ก็ไม่ยอมออกมาหรอก ทนอีกนิดน่า

ลูคัสกระซิบปลอบเด็กน้อยที่นั่งอยู่บนตักขณะเพ่งมองผ่านความมืดมิดเข้าไปในตัวคฤหาสน์เพื่อค้นหาบางสิ่ง

.....ไวท์ เลดี้กุญแจดอกแรกที่จะนำไปสู่พิธีสาบานตนเป็นนักบวชของลอเรนซ์ ดอร์น เดอะพรีทส์ ออฟแอเรียสคนที่เขารู้จัก

สักพักร่างเล็กๆก็ขยับเบียดเข้ามาใกล้อีกแล้วเอื้อมมือเล็กๆไปคว้าเอาชายเสื้อคนข้างตัวมากำไว้ให้พออุ่นใจว่าไม่ได้อยู่คนเดียว

....ผีกับเด็ก คู่อาฆาตตลอดกาล ไม่เว้นแม้แต่ลอเรนซ์ ดอร์น

หนาว

คนตัวเล็กว่าเข้านั่นแล้วรีบทำไม่รู้ไม่ชี้เมินหน้าหนีไปอีกทางแต่พอเห็นเงาอะไรวูบวาบก็รีบหลับตาปี๋หันหน้ากลับมาแทบไม่ทัน เลยไม่เห็นรอยยิ้มในความมืดของคนตัวโตที่หมายจะกลบเกลื่อนด้วยการกระชับผ้าคลุมที่มีอยู่ผืนเดียวให้แน่นเข้า แต่ความที่อยู่ใกล้กันมากก็ทำให้รู้สึกได้ถึงอาการสั่นน้อยๆจากความพยายามกลั้นหัวเราะอย่างสุดความสามารถ

หนูน้อยลอเรนซ์เริ่มหน้างอด้วยความขัดใจ

แล้วต้องรอต่อไปอีกนานแค่ไหน เราเข้าไปข้างในกันเลยดีกว่าน่า คราวนี้น้ำเสียงบอกชัดว่าคนพูดเริ่มอารมณ์บูด

โอเคลูคัสพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย เชื่อแล้วว่าคนข้างตัวความอดทนต่ำตั้งแต่เด็ก เชิญท่านผู้นำนำหน้าเข้าไปก่อนเลย

ไม่อ๊าวววววววว

เสียงท่านผู้นำร้องลั่นอย่างลืมตัวเรียกเสียงหัวเราะแผ่วเบาในลำคอท่านผู้ตามขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

แต่ยังไม่ทันจะได้ลงมือวิวาทประเดิมการเป็นคู่หูยกแรก...สัมผัสบางอย่างที่เย็นยะยือกชวนให้ขนลุกซู่ก็ขยับใกล้เข้ามาทีละน้อย


มาแล้ว.....


หญิงสาวร่างผอมบางปรากฏตัวขึ้นในบริเวณที่พอจะเดาได้ว่าเคยเป็นสวนดอกไม้มาก่อน....สีขาวสะอาดของเสื้อคลุมตัวยาวที่เธอสวมใส่ดูโดดเด่นตัดกับสีดำสนิทของยามรัตติกาล

ช่วยไม่ได้ที่สีหน้าของลอเรนซ์ที่เดิมก็ขาวอยู่แล้วจะซีดลงๆจนใกล้เคียงกับสีเสื้ออยู่รอมร่อแถมมือไม้ยังเย็นเฉียบ ร่างเล็กๆสั่นสะท้านจนลูคัสรู้สึกได้

ระวังตัวด้วยล่ะ ลอรี่

เหมือนสายฟ้าไม่มีเสียงฟาดเปรี้ยงลงมา ลอเรนซ์กระชากเสียงกลับโดยอัตโนมัติ

ห้ามเรียกลอรี่นะ เข้าใจมั้ย บอกว่าห้ามเรียก

....สำเร็จแฮะ.... ลูคัสแอบยิ้มอยู่ในใจ

ทำไมล่ะ เรียก ลอรี่ก็น่ารักดีออก

ชื่อนี้..นอกจากแม่แล้วมีพ่อเรียกได้คนเดียว คนอื่นห้ามเรียกเด็กน้อยเสียงแข็งอย่างไม่ยอมแพ้ ความกลัวที่เหมือนน้ำแข็งบางๆเกาะกุมหัวใจอยู่เมื่อกี๊ไม่รู้ละลายหายไปไหนหมด

....แม่บอกว่า ถ้าได้เป็นนักบวชเมื่อไหร่...พ่อจะมาหา แล้วถ้าทำงานนี้สำเร็จ เอา ของ ที่เจ้าพ่อมดที่จนป่านนี้ก็ยังไม่รู้ชื่อกลับไปคืนได้ล่ะก็...วันจัดพิธีสาบานตัวเป็นนักบวชก็จะมาถึง....วันนั้น จะได้พบพ่อ

ลอรี่ เสียงกวนๆยังดังขึ้นเป็นระยะให้แสบๆคันๆหัวใจเล่น

บอกว่า....

ถ้าไม่รีบตามไป เธอจะหายตัวไปซะก่อนนะลูคัสที่ยังลุกขึ้นไม่ได้เพราะมีลอเรนซ์นั่งอยู่บนตักเอ่ยยิ้มๆพลางชี้นิ้วไปยังไวท์เลดี้ที่กำลังเดินหายเข้าไปในบ้าน

....เออ จริงด้วย ลืมไปสนิทเลย

ได้ยินเท่านั้น ลอเรนซ์ก็ลืมกลัวกระโจนพรวดวิ่งตามหญิงในชุดขาวไปอย่างไม่รอช้า

เดี๋ยวก่อน...อย่าเพิ่งไป อุตส่าห์ออกมาแล้วก็อยู่นานๆหน่อยสิ ได้ยินม้ายยยย

ใช่แล้ว ดีมาก วิ่งตามไปเลย ลอรี่ สู้เค้า!” เสียงเชียร์ยังไล่หลังมาติดๆ เล่นเอาเด็กน้อยชะงักฝีเท้านิดนึงแล้วหันหลังกลับไปกระชากเสียงใส่คนที่ยังนั่งเอ้เตอยู่กับพื้นอย่างเหลืออด

อย่าเรียกแบบนั้นนะ แล้วรีบตามมาเร็วๆด้วย

...............................

ภายในคฤหาสน์ร้างแม้จะทรุดโทรมเอาการแต่ก็กว้างใช่ย่อย กว่าลอเรนซ์กับลูคัสจะวิ่งตาม ไวท์ เลดี้ที่เดินเรื่อยๆเข้าไปถึงห้องชั้นในได้ก็เล่นเอาแทบหมดแรง

ฉับพลัน....หญิงชุดขาวก็หันขวับกลับมาเผชิญหน้า เล่นเอาสองคู่หูจับมือกันถอยหลังกรูดดดดด.....ด้วยความตกใจแทบไม่ทันเมื่อมองสบเข้ากับดวงตาสีแดงภายใต้เส้นผมยาวรุ่ยร่าย แต่ในชั่วพริบตาร่างนั้นก็พร่าเลือน....กลายเป็นเด็กวัยรุ่นซนๆ ผมสีน้ำตาล ดวงตาสีทับทิมคนนึงที่กำลังอ้าปากหัวเราะด้วยความดีใจสุดขีด

เย้! ในที่สุดก็มีเด็กใจกล้าตามเข้ามาซะที อ่ะ...หมดนี่ข้าให้ รับไปเลย

ในจังหวะที่คู่หูตัวแอลยังไม่ทันตั้งตัวติด....อะไรสักอย่างกลมๆเป็นประกายแววววาวก็โปรยปรายลงมาชนิดถล่มทลาย ไม่ช้าพื้นห้องทั้งห้องก็เต็มไปด้วยเหรียญทองกองพะเนิน แต่เมื่อดูดีๆถึงรู้ว่ามันเป็น เหรียญทองช็อกโกแลต!!!

เจ้านี่เป็นภูติตะหาก...ไม่ใช่ผี เมื่อเห็นหน้าตาของคู่กรณีชัดๆ ลูคัสก็ถอนใจยาวด้วยความโล่งใจก่อนจะหันมาส่งยิ้มให้คนข้างตัว ก็พอดีมีช็อกโกแลตยื่นส่งมาให้แทบจะถึงปาก

อร่อยนะ อ้ำเร็ว...อ้าปาก

ขนาด นายน้อยพยายามยืดตัวสุดๆแล้วนะเนี่ย...แต่ความสูงก็ยังไม่เป็นใจจน พี่เลี้ยงต้องก้มหน้าลงมารับช็อกโกแลตเองหลังจากเหลือบไปเห็นเศษกระดาษห่อหลายชิ้นบนโต๊ะข้างๆที่เป็นหลักฐานอย่างดีว่าเจ้าตัวชิมดูแล้วว่าอร่อยจริง

.... เพิ่งรู้นะนี่ว่าลอรี่ชอบกินช็อกโกแลต

นาย...

ฟินเซล ข้าชื่อฟินเซล ภูติตัวโตแนะตัวตัวเอง

นายเอาขนมพวกนี้มาจากไหน ลูคัสยังสงสัยไม่เลิกผิดกับลอเรนซ์ที่ตั้งอกตั้งใจแกะห่อช็อกโกแลตส่งเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆอย่างมีความสุข

ก็ใช้เวทมนตร์สร้างขึ้นมาอ่ะดิ กะว่าจะใช้แทนคำขอบคุณ...คือ...บังเอิญฉันเห็นเจ้าหนูนี่วิ่งนำเข้ามาก่อน..เหรียญพวกนี้เลยกลายเป็นของกินไป จะเสกใหม่ให้เป็นทองแท้ก็ทำไม่ได้แล้ว โทษทีนะ ฟินเซลหัวเราะแหะๆก่อนจะทำสีหน้าจริงจังแล้วชี้มือไปที่มุมห้อง

....คทาแบตเตอรี่ส่องแสงสว่างจ้าอยู่ในวงเวทคาถาตรึงอาณาเขตอย่างที่ไม่น่าจะมีใครทำได้

 ขอร้องล่ะนะ ช่วยปล่อยข้าให้เป็นอิสระทีเถอะ ข้าถูกขังอยู่ในนี้มาเกือบ 10 ปีแล้ว แค่ดึงคทานั่นออกมาก็พอ

ภูติอย่างนายยังดึงไม่ออก แล้วฉันล่ะ ลูคัสขมวดคิ้ว

ก็เจ้าพ่อมดคนที่ขังข้าไว้ดันกำกับคาถาพิเศษไว้ด้วยน่ะสิ คทานี่..พวกภูติหรือปิศาจไม่มีทางดึงออก ต้องมนุษย์เท่านั้นถึงจะดึงได้

แล้วทำไมต้องปลอมเป็นผีด้วย ลอเรนซ์ถามบ้าง

......ไม่ใช่ผีจริงๆซะหน่อยนี่นา แล้วจะกลัวไปทำไมล่ะ เนอะ....

ก็เป็นมุขเด็ดสำหรับล่อให้คนตามเข้ามาในนี้ไงล่ะ แต่เจ้าพวกที่เข้ามาก่อนนี้น่ะนะ ไม่รู้ทำไม พอข้าเริ่มพูดด้วยไม่ก็แสดงตัวออกมาให้เห็นทุกคนก็เอาแต่กรีดร้องไม่เป็นภาษาบางคนงี้ถึงกับช็อกค้างไปเลย ภูติเจ้าปัญหาบ่นพึมพำ เล่นเอาแอลใหญ่กับแอลเล็กมองหน้ากันอย่างไม่รู้ว่าควรจะสงสารหรือสมน้ำหน้าดี

ได้ ลอเรนซ์รับคำตามด้วยการเจรจาต่อรอง เดี๋ยวจะดึงคทาออกให้ แต่นายต้องบอกที่ซ่อน กล่องสี่เหลี่ยมสีขาวเล็กๆที่ฝากล่องแกะสลักเป็นรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว มาเป็นการแลกเปลี่ยน

กล่อง? ฟินเซลทวนคำงงๆ ไม่มีนี่ ไม่ได้หลอกนะ ข้ารู้จักทุกซอกทุกมุมของบ้านหลังนี้ดี รับรองไม่มีกล่องที่ว่าแน่นอน

....หมายความว่าไง ไม่มี

มันต้องมีสิ....ลองนึกดูดีๆก่อน ลูคัสอุ้มลอเรนซ์ที่สีหน้าไม่ค่อยดีขึ้นมาปลอบแล้วหันไปถามเจ้าภูติจอมกวนอีกครั้ง

ไม่มี ไม่เชื่อลองหาดูเองก็ได้ แต่ข้าไม่ช่วยนะ เบื่อบ้านบ้าๆนี่เต็มทน

....................

2 ชั่วโมงต่อมา

ตรงนี้ไม่มี 

ตรงนี้ก็ด้วย

บนชั้นหนังสือ โคมไฟ ใต้หมอน ในเตาผิง หลังโซฟา หาทั่วแล้วรึยัง

แถวนั้นหาหมดแล้ว ไม่เจอ ลองไปหาในอ่างอาบน้ำ ใต้กระถางต้นไม้ หลังภาพวาด ดีกว่า

นี่...พอเหอะ หยุดได้แล้ว เหนื่อยเปล่าน่าฟินเซลผู้น่าสงสารตะโกนขึ้นสุดเสียงเพราะต้องคอยหลบบรรดาข้าวของที่คู่หูตัวแอลช่วยกันรื้อกระจาย...ขนาดหลบแก้วน้ำที่ลอยมาเฉียดหน้าพ้นจนกระโดดหนีขึ้นไปนั่งบนหลังตู้ริมห้องก็ยังไม่วายโดนหนังสือจากมือใครสักคนโยนลงหัวอีก

ลอร..เรนซ์ พอแล้วล่ะ คงไม่มีจริงๆอย่างที่ฟินซี่บอก ลูคัสถอนใจพร้อมกับที่หนูน้อยพยักหน้ารับอย่างว่าง่ายก่อนจะเริ่มต้นเก็บของที่กองเกลื่อนเข้าที่

บางทีพ่อมดอาจจะจำผิดก็ได้ลอเรนซ์ยังมองโลกในแง่ดีทั้งๆที่เจ้าตัวยิ้มไม่ออก

อืม...เดี๋ยวก่อน ลูคัสชะงักไปนิด เราสองคนเข้าใจอะไรผิดไปรึเปล่า ตอนนั้นพ่อมดบอกว่า..ให้ไปถามเรื่องกล่องกับไวท์ เลดี้นี่นะ ไม่ได้บอกให้มาเอากล่องที่ไวท์ เลดี้สักหน่อย...มันจะหมายถึง...ตัวกล่องอาจจะไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่ฟินซี่รู้ว่าอยู่ที่ไหนก็ได้ จริงมั้ย

อ๊ะ! จริงด้วยลอเรนซ์เบิกตากว้างพลางตบมือเปาะแปะ ลูคัสหัวดีจังเลย

และแล้วสายตา 2 คู่ก็เล็งโฟกัสมาที่ ไวท์ เลดี้กันเป็นตาเดียว

ถ้านายรู้อะไรดีๆก็รีบๆบอกมาซะ ไม่งั้น....ว่าที่เดอะพรีทส์ ออฟแอเรียสยิ้มเย็น ก็อยู่ในนี้ต่อไปอีกสัก 500 ปีเถอะ 

ใช่ ฉันจะช่วยกำกับคาถากักบริเวณเพิ่มเติมให้เอง เอาเป็น...ให้อยู่ได้แต่เฉพาะในห้องนี้เท่านั้นท่าจะดีผู้วิเศษแห่งทริสทอร์ร่วมด้วยช่วยกันข่มขู่ เอ้ย ช่วยกันเกลี้ยกล่อมแบบไม่ค่อยสุภาพนักตะหาก

เนอะ ฟินเซลเนอะ ว่าแล้วสองคู่หูตัวแอลหันมาฉีกยิ้มหวานเจี๊ยบให้เจ้าภูติที่เริ่มหน้าซีดเหงื่อตก

....โหย พอเจ้าสองคนนี่รวมหัวกันแล้ว มันสุดแสนจะน่ากลัวยิ่งกว่าไอเจ้าพ่อมดปิศาจนั่นอีก

....เอ....พ่อมด หรือว่า........

อืมมม...พ่อมดที่เจ้าว่าน่ะ...ใช่คนผมดำยาวๆ สูงๆ ตัวเพรียวๆ นัยน์ตาสีน้ำตาลทองแถมยังใส่เครื่องประดับวูบวาบครบเครื่องเลยใช่ป่ะฟินเซลทำท่าเหมือนจะพอนึกอะไรบางอย่างออก

ใช่...หมอนั่นแหละ ลอเรนซ์พยักหน้าหงึกหงัก

งั้นก็คนเดียวกับที่ขังข้าไว้ เฮ้ย!...รู้แล้ว!!!!!

อะไร คู่หูตัวแอลประสานเสียงกันดังลั่นจนแทบหูอื้อ

คืองี้ ฟินเซลกระแอมกระไอ ไม่รู้ว่าเพราะอายหรือว่าเขิน เมื่อก่อนข้านิสัยไม่ค่อยดี วันๆชอบแกล้งพวกมนุษย์ให้ตกใจเล่น ก็มันสนุกดีนี่นา ทีนี้พวกที่ถูกข้าแกล้งหนักๆเข้าคงทนไม่ไหวเลยรวมตัวกันไปฟ้องคิงแห่งแอเรียส สุดท้ายเจ้าพ่อมดใจร้ายนั่นก็โผล่มาจับข้าขังไว้ในบ้านร้างหลังนี้เป็นการดัดนิสัย

ลอเรนซ์กับลูคัสหันมาสบตากันปิ๊งแล้วเมินหน้ากันไปคนละทางกลบเกลื่อนรอยยิ้ม

....สมน้ำหน้า เจ้าภูตินิสัยไม่ดี ท่าทางจะเข็ดแล้วสินะ

พอเรื่องถึงหูพ่อข้าที่กลัวว่าข้าจะถูกขังลืมเลยรีบมาเจรจาประนีประนอมยอมความพร้อมขอปล่อยตัว แต่ไม่รู้คุยกันท่าไหนลงท้ายข้าก็ถูกขังเหมือนเดิม จำได้ลางๆว่าตอนนั้นเจ้าพ่อมดให้ อะไรสักอย่าง มาเป็นหลักประกันว่า...พอถึงคราวจำเป็นต้องใช้ของนั่นเมื่อไหร่ก็จะมารับกลับคืนไปและเมื่อนั้นข้าจะเป็นอิสระ ไม่แน่...บางทีอาจเป็นกล่องที่เจ้าสองคนตามหากันอยู่ก็ได้

งั้นกล่องก็น่าจะอยู่กับพ่อของฟินเซลสินะ ว่าแต่ที่ไหนล่ะลอเรนซ์ถามเสียงใส นัยน์ตาสีม่วงเป็นประกายด้วยความยินดี

ปราสาทเจ้าแห่งภูติพรายที่จมอยู่ใต้ทะเลสาบแถวๆแกรนไลน์น่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น