10/7/56

Fiction Saint Seiya : Shaka in Wonderland (1)

Pairing : เหมียวเรีย” กับ “อลิช่า(กะ)”

Intro : อลิซต้นฉบับวิ่งตามกระต่าย แต่อลิช่าของเรา...วิ่งตามแมวววววววว!!! ^^” ปล. ท่านช่ารับบทอลิซ...อลิซคือสาวน้อย โอเค๊ 5555+

-----------------------------------------------------------------------

เช้าวันอากาศแสนจะสดใส.....

ในหมู่บ้านเล็กๆ เงียบสงบและแวดล้อมไปด้วยธรรมชาติแสนงาม

ชากะกำลังเลือกตะกร้าสานใบสวย กล่องใส่ขนม โบ และริบบิ้นให้เข้าชุดกัน พลางฮัมเพลงในคอเบาๆ อย่างมีความสุข

...วันดีๆ แบบนี้เหมาะจะอบขนมอร่อยๆ ไปแจกเพื่อนบ้าน พวกเด็กกำพร้า ผู้ตกทุกข์ได้ยาก คนยากคนจน ถือเป็นการทำบุญให้ทาน โปรดสัตว์โลก เป็นบุญเป็นกุศล

...เค้กกับคุกกี้อบใหม่ๆ กลิ่นหอมฟุ้ง วางรอให้เย็นอยู่ในห้อง

...เก็บดอกไม้ในสวนไปด้วยท่าจะดี ขนมกับดอกไม้เข้ากันดีออก

แต่เพราะในสวนดอกไม้หน้าบ้านมีดอกไม้มากมาย ชากะเลยใช้เวลาเลือกนานไปหน่อยกว่าจะได้ ดอกสาละ ช่องามติดมือออกมา แต่พอจะเดินกลับเข้าไปในบ้านก็เห็น...สิ่งมีชีวิตตัวโตกำลังทำอะไรกุกกักอยู่ในครัว



ชากะเม้มริมฝีปากแน่น วางดอกสาละบนเก้าอี้ยาวตัวใหญ่แล้วค่อยๆ เปิดประตูบ้าน ขยับตัวเดินเข้าไปข้างในช้าๆ ก่อนปิดประตูลั่นกุญเบามือ นัยน์ตาสีฟ้าเป็นประกายวาววับจับจ้องไปยังเจ้าแมวลายเสือสีส้มตัวเบ้อเริ่มใส่ชุดทักซิโดสีดำผูกหูกระต่ายสีแดงกำลังนั่งกินเค้กอย่างมีความสุข!!!

...การให้อาหารแมวก็ถือเป็นการสร้างกุศล

...แต่ นี่...แมวขโมย

...ต้องจับมาเทศน์สั่งสอนให้รู้สำนึกซะบ้างว่าการ ขโมย น่ะมันเป็นบาป

แต่ทั้งๆ ที่เหลืออีกนิดเดียวจริงๆ อีกนิดเดียวก็จะถึงตัวแล้วแท้ๆ เจ้าแมวร้ายกาจกลับหูดีเกินคาด ไหวตัวทันเสียก่อน

ร่างสูงสะดุ้งโหยงหันมาทางเจ้าของบ้าน พอเห็นลูกกุญแจในมืออีกฝ่ายเข้าก็หน้าเจื่อนไปนิด หูเรียวแหลมหรุบลู่ไปข้างหลังเล็กน้อยด้วยความตกใจ ก่อนจะรีบยัดเค้กคำสุดท้ายเข้าปาก แล้วกระโดดแผล็วหนีออกจากทางหน้าต่างไปต่อหน้าต่อตา

...หนอย

...จะหนีทั้งทีก็ไม่หนีเปล่า คว้าเอาคุกกี้ทั้งถาดติดมือไปด้วย

...เช่นนี้แล้ว จะให้ ชากะ คนนี้นิ่งเฉยและให้อภัยได้อย่างไร

วินาทีนั้น...การไล่ล่าก็เริ่มต้นขึ้น ชากะวิ่งตามแมวขโมยเข้าไปในป่าทึบหลังบ้านหวังจะไล่ให้จนมุม

แต่พอวิ่งตามไปได้สักพัก

“ไลต์นิ่ง โบลต์...ย๊ากกกกก”

เจ้าแมวคงเห็นจวนตัวเต็มทีก็ตัดสินใจปล่อยหมัดความเร็วแสงใส่ก้อนหินใหญ่ อึดใจต่อมาก็ปรากฏเงาดำจุดเล็กๆ ที่ค่อยๆ ขยายตัวใหญ่ขึ้นๆ ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนเห็นเป็นรูหนู เอ้ย รูแมวขนาดใหญ่ จากนั้นเจ้าตัวก็กระโดดผลุงลงไป

ช่วยไม่ได้...ชากะที่รีบวิ่งตามมาติดๆ จะเบรกตัวเองไม่ทัน ผลคือหล่นตุ้บตามลงไปด้วยอีกคน

ระหว่างที่ร่วงลงไป ชากะพยายามมองลงไปข้างล่างหวังจะได้เห็นหน้าเห็นหนวดเจ้าแมวตัวป่วนที่โดดลงมาก่อนหน้าบ้าง แต่ทุกอย่างรอบตัวกลับมืดสนิทเสียจนไม่เห็นอะไรสักอย่าง ได้ยินแต่เสียงลมพัดไหวไปมารอบตัวขณะหล่นลงไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ เรื่อยๆ เรื่อยๆ...เหมือนตกลงไปในอุโมงต่างมิติที่ไม่มีวันสิ้นสุดยังไงยังงั้น

มารู้ตัวอีกที ก็มานั่งงงอยู่ในสวนดอกไม้เล็กๆ ที่มีทิวเขาสีเทาเข้มล้อมรอบ พอเงยหน้ามองข้างบนก็เห็นท้องฟ้าสีครามใสสะอาด มีปุยเมฆสีขาวลอยอยู่เป็นระยะ...รูประหลาดสีดำหายไปแล้ว ที่สำคัญ...เจ้าแมวสีส้มก็หายไปด้วยเหมือนกัน

ที่ตีนเขาด้านหนึ่งมีเถาวัลย์กับต้นกุหลาบเลื้อยพันกันแน่นจนดูเหมือนซุ้มประตูเล็กๆ...ไม่แน่...บางที เจ้าแมวตัวแสบอาจวิ่งหนีเข้าไปข้างในก็ได้

แต่พอก้าวตรงไปทางซุ้มประตูกุหลาบได้ไม่กี่ก้าว เสียงแหบๆ ก็ร้องทักมาจากพงหญ้า

“เจ้าเป็นใคร ชื่ออะไร”

ชากะขมวดคิ้วแล้วมองไปรอบๆ เบื้องหน้าไม่มีอะไรที่พอจะส่งเสียงพูดได้ เพราะในพงหญ้านั้นมีแต่....

ดอกเห็ด!

สักพักเสียงถามก็ดังขึ้นอีก

“เจ้าเป็นใคร ชื่ออะไร หูตึงเรอะไง ข้าถามทำไมไม่ตอบ”

ตั้งสติอยู่ชั่วครู่ ก็ต้องยอมรับกับตัวเองว่าเสียงที่ได้ยินมาจากดอกเห็ดยักษ์สีเทาๆ หงิกๆ งอๆ เหี่ยวๆ ย่นๆ สวมหมวกปีกกว้าง สูงประมาณครึ่งน่อง ที่นั่งจ๋องอยู่ในพงหญ้าข้างหน้าจริงๆ นั่นแหละ

“ฉัน...ชากะ”

เท่านั้นแหละ...เจ้าเห็ดประหลาดก็กรีดเสียงร้องลั่นดังสนั่นทุ่งหญ้าขึ้นมาทันที

“มีใครอยู่บ้าง ใครอยู่แถวๆ นี้ เร็วเข้า...มีผู้บุกรุก ผู้บุกรุกหน้าตาหน้าเกลียดน่าชัง ผมทองตาฟ้า ผูกริบบิ้นคาดผมสีดำ ใส่ชุดกระโปรงบานสีน้ำเงิน ผ้ากันเปื้อนสีขาว ชื่อชากะ เร้ว...รีบไปบอกราชาไอโอรอสเร็วเข้า”

เจ้าเห็ดนั่นคงร้องโวยวายไม่ยอมเลิก ถ้า....

“ถ้าไม่เงียบล่ะก็” ชากะพูดยิ้มๆ พลางยกชายกระโปรงขึ้นเล็กน้อย “จะเหยียบให้แบนซะเดี๋ยวนี้”

“......”

เจอประโยคเด็ดเข้าไป เห็ดที่ไหนก็ต้องยอมหุบปาก

“ที่นี่ที่ไหน” ชากะเป็นฝ่ายเริ่มต้นถามคำถามก่อน

“....”

“เป็นเห็ดแท้ๆ แต่ทำไมพูดได้”

“....”

“งั้นที่ได้ยินเสียงพูดเมื่อกี้คงหูฝาด” ชากะทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ คุกเข่าลง แล้วยื่นมือเข้ามาใกล้ “ถอนไปทำต้มยำเห็ดซะเลยดีมั้ยน้า...”

“หยุดนะ” ปู่เห็ดตวาดแว้ด “โดโกคนนี้รับคำสั่งจากเทพีอาเธน่าให้มาเฝ้ายามตรงนี้นาน 200 กว่าปีแล้ว ถ้าอยู่ๆ โดนเด็กเมื่อวานซืนอย่างแกถอน รู้ถึงไหน อายไปถึงนั่น”

“อ้อ...” เด็กเมื่อวานซืนพยักหน้าหงึกหงัก “ที่นี่เป็นดินแดนของเทพีชื่อ อาเธน่า สินะ”

“องค์เทพีคอยปกป้องพวกเราอยู่บนโน้น ตอนนี้ราชาผู้ดูแล ดินแดนมหัศจรรย์ แห่งนี้ชื่อไอโอรอส” โดโกเงยหน้าขึ้นมองฟ้าก่อนจะสะบัดพรืดใส่หน้าชากะ “....แล้วทำไมเห็ดอย่างฉันจะพูดไม่ได้ ใครๆ เค้าก็พูดได้กันทั้งนั้นแหละ รู้แล้วก็รีบๆ กลับออกไปซะ เจ้าผู้บุกรุก”

“เห็นแมวสีส้มวิ่งเข้าไปในนั้นมั่งมั้ย” ชากะชี้ไปที่ซุ้มประตูพลางปลดริบบิ้นผ้าสีดำที่ผูกผมอยู่ออกมาถือไว้

“ไม่รู้ไม่เห็น รีบๆ กลับออกไปซะก่อนที่ฉันจะ อุ๊บ..อ่อยอั๋น...อ๊ะ..ไอเอ็กอ้า...อื้อ...อู้อี้ๆๆๆๆ

“เอาล่ะ อยู่เงียบๆ สักพักเถอะนะ...อาจจะพักใหญ่ๆ หน่อย ใหญ่มากๆ เลยด้วย” หลังจากมัดดอกเห็ดทั้งดอกด้วยริบบิ้นผูกผมให้แน่น ชากะก็เดินเข้าไปในซุ้มประตูกุหลาบอย่างไม่ลังเล


หลังซุ้มประตูเป็นป่าโปร่งเขียวขจี มีต้นไม้ ดอกไม้ และบรรดาสารพัดสัตว์ (ประหลาด) มากหน้าหลายตาโผล่มาให้เห็น

...แต่ไม่มีแม้เงาของเจ้าแมวเหมียวที่ตามหา

“เฮ้! เธอน่ะ ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย ไม่ใช่คนที่นี่ล่ะสิ”

ระหว่างเดินๆ อยู่แบบไม่รู้ทิศทาง ก็มีเสียงทักดังลั่นมาจากชายผมสีน้ำเงินยาว สวมชุดยาวสีเขียวใบไม้ นั่งแกว่งขาไปมาอยู่บนกิ่งของต้นไม้ใหญ่ใบหนาข้างทาง พอชากะเดินเข้าไปใกล้เจ้าตัวก็กระโดดตุ้บลงมาเจรจาปราศรัย

“ฉันกำลังตามหาแมวลายเสือสีส้ม”

“มีเยอะไป ในวังที่อยู่ไกลลิบๆ โน่นน่ะ” ชายแปลกหน้าบุ้ยใบ้ไปทางเหนือของป่า มองเห็นยอดปราสาทอยู่ไกลลิบๆ

“ตัวโตๆ ตาสีเขียว”

“อืมมม คุ้นๆ แฮะ ฉันก็รู้จักแมวหน้าตาแบบนั้นอยู่ตัวนึงนะ”

“ใส่ชุดทักซิโดสีดำ ผูกหูกระต่ายสีแดง”

“เอ...” ชายผมสีน้ำเงินในชุดสีเขียวทำหน้ายุ่ง “ที่พูดมายังกะเจ้าไอโอเรียงั้นแหละ แต่ป่านนี้มันคงไปหาขนมกินอยู่”

“นั่นล่ะ ใช่แล้ว” ชากะงี้แทบอยากเข้าไปเขย่าตัวให้หัวสั่นหัวคลอน “เจ้าแมวนั่นอยู่ไหน รีบบอกมาเร็วๆ”

“เจ้าไอโอเรียมันวิ่งเข้าไปในนั้นแหละ” ชายผมสีน้ำเงินชี้ไปที่โพรงแมวเล็กๆ ใต้โคนต้นไม้ใหญ่ที่ตัวเองนั่งอยู่เมื่อกี้

...เพราะมันเป็นโพรงแมว..แมวไอโอเรียตัวเบ้อเริ่มเลยวิ่งเข้าไปได้ แต่คนตัวขนาดชากะกลับติดแหง็กอยู่หน้าโพรง ไม่เข้าใจ!!!!

“ถามจริง เธอจะตามหาเจ้านั่นไปทำไม” ชายผมสีน้ำเงินป้อนคำถามโดนใจ

“ก็.....” ชากะก็อธิบายไม่ถูก

...นั่นสินะ

...ที่โกรธก็หายโกรธแล้ว

...จริงๆ แค่เค้กกับกับคุกกี้ อบใหม่อีกทีก็เสียเวลาไม่เท่าไหร่ แต่ทำไม ผู้ใกล้เคียงพระเจ้าอย่างชากะถึงกับต้องวิ่งไล่ตามแมวบ๊องๆ ตัวนึงจนหลงเข้ามาในดินแดนพิลึกๆ นี่

“หลังพุ่มไม้นั่นมีบ่อน้ำเล็กๆ สีฟ้า” ชายผมสีน้ำเงินบอกง่ายๆ น้ำเสียงคล้ายจะเห็นใจหน่อยๆ “ถ้ายังอยากตามหาเจ้าไอโอเรียอยู่ล่ะก็”  

“ขอบใจ”

บ่อน้ำที่เห็นน่าจะเป็นตาน้ำมากกว่าเพราะทั้งเล็กทั้งแคบทั้งตื้น แต่น้ำที่เป็นสีฟ้าจางๆ สะอาดใสแจ๋วเย็นชื่นใจ ชากะเลยจิบเข้าไปอึกใหญ่ และคงจะจิบต่อไปอีกหลายอึกถ้าไม่รู้สึกผิดปรกติซะก่อน

...จากตาน้ำแคบๆ ตอนนี้ขยายใหญ่กลายเป็นสระน้ำ

...ต้นไม้ที่อยู่รอบๆ ก็สูงชะลูด แต่ถ้าดูดีๆ แล้วมันเป็นแค่ใบหญ้าสีเขียวเท่านั้น

...ใบไม้แห้งยักษ์ที่หล่นเกลื่อนพื้นหญ้านั่นอีก


หลังพุ่มไม้นั่นมีบ่อน้ำเล็กๆ สีฟ้า ถ้ายังอยากตามหาเจ้าไอโอเรียอยู่ล่ะก็

ประโยคที่ชายแปลกหน้าบอกไว้ลอยกลับเข้ามาในหัว

...อ้อ! เข้าใจล่ะ พอตัวเล็กลงก็จะเข้าไปในโพรงแมวได้

แต่...


แบบนี้มันเล็กเกิ๊นนนนนนน~~~!!! ต้องเดินอีกกี่ชาติจึงจะถึงหน้าโพรงล่ะนี่~~~!!!!


ระหว่างที่รวบรวมสมาธิคิดแก้ปัญหา เจ้าแมวตัวร้ายก็โดดโครมลงมาจากยอดไม้แถวนั้น แล้วหันไปตบมือดังแปะกับ...

“ขอบใจเว้ยมิโร่” ไอโอเรียยักคิ้วแผล็บ ก้มหน้ามองชากะที่ไม่ต่างอะไรจากลูกเจี๊ยบสีเหลืองๆ ตัวฟูๆ ในกำมือ “ไม่นึกว่าจะหลอกง่ายขนาดนี้นะเนี่ย”

...อาจารย์อัสมิตะ ศิษย์มันสอนไม่จำ อาจารย์สอนไม่ให้ไว้ใจคนแปลกหน้า ชากะสำนึกผิดแล้ว
...คิดแล้วก็เสียใจ เสียใจจริงๆ นะ ไม่ได้โกรธหรือโมโหอะไร


“หึๆ” เจ้าแมวยิ้มชั่วร้าย กางเล็บแหลมคมออกช้าๆ ทีละนิ้วๆ ตั้งท่าจะตะปบลงมา ชากะที่เข้าใจว่าเดี๋ยวคงหมดสิทธิ์หายใจก็ได้แต่หลับตาปี๋


...พุทโธ ธัมโม สังโค ความตายไม่น่ากล้วๆๆๆๆ

...แต่ยังไม่อยากตายตอนนี้นี่นา


รู้สึกเหมือนอะไรนุ่มๆ เข้าห่อหุ้ม จากนั้นตัวก็ลอยสูงขึ้น

จมูกแหลมๆ ที่อยู่ใกล้ๆ จนรู้สึกถึงลมหายใจเบาๆ ทำเสียงฟุดฟิดๆ แล้วลิ้นชื้นก็ตวัดแผ่วเบาแตะที่ข้างแก้ม

!!!!

รู้ตัวอีกทีก็มานั่งอยู่ในขวดแก้วใส มีหน้าตากวนโมโหของเจ้าแมวตัวแสบอยู่ใกล้แค่แผ่นแก้วคั่น

...นัยน์ตาสีฟ้าใสสบเข้ากับนัยน์ตาคมสีเขียวเข้ม

“ยังนิสัยไม่ดี ชอบเล่นกับเหยื่อไม่เลิก” เจ้ามี่หรือมิโร่ค่อนขอด “แล้วอย่าลืมสัญญาล่ะ”

“เออน่า” เจ้าเหมียวเรียยิ้มแป้น ซุกขวดไว้ในอกเสื้อนอกนุ่มนวล เดี๋ยวฉันจะไปพูดกับคา....จ๊าก

เถากุหลาบขาวหนามแหลมจากไหนไม่รู้ พุ่งปราดเข้าพันขาแล้วดึงอย่างแรงจนเจ้าแมวที่ไม่ทันระวังตัวล้มกลิ้งไม่เป็นท่า หน้าทิ่มพื้น ขวดแก้วก็กระเด็นหลุดออกมากลิ้งขลุกๆ กระแทกเข้ากับก้อนหินใหญ่ที่อยู่ไกลออกไป

...ไม่มีทั้งรอยแตก รอยรั่ว รอยร้าว ขวดอะไรทนจริงๆ

ชากะที่จนปัญญาจะทำอะไร ก็ได้แต่มองดูเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยความสนใจ

“กลับไปกับเจ๊คนสวยเดี๋ยวนี้นะย้า....” ชาย(ละมัง)ในชุดแนวโลลิตาสีชมพูลูกไม้ฟูฟ่องคาบกุหลาบสีแดงไว้ในปากกำลังหิ้วคอแมวที่ถูกเถากุหลาบมัดขาสองข้างติดกันไปทางปราสาท “ราชาไอโอรอสมีคำสั่งให้เอาตัวเจ้าชายไอโอเรียกลับไปที่วังให้ได้”

...โห! เจ้าแมวนั่นเป็นถึงเจ้าชายเชียวเรอะเนี่ย

“ไม่ ไม่ ไม่กลับ” เจ้าชายไอโอเรียโวยวายอาละวาดดิ้นพราดๆ ไปตลอดทาง “ปล่อยฉัน พี่สะใภ้เล็ก ไม่งั้นอย่าหาว่าไม่เตือน”

“ต๊ายยยย...คิดจะขัดขืนเจ๊ เร็วไปสองร้อยปีนะคะ โฮะๆๆๆๆๆๆ ....โอ๊ยยย

เขี้ยวไม่เล็กแถมคมพอใช้งับผั่บลงบนมือที่ถือเถาบลัดดี้โรสอยู่ เรียกเสียงกรี๊ดลั่นสนั่นป่า

“อ๊ายยยยยย...ไอแมวบ้า แบบนี้ไม่น่ารักเลยนะยะ ดูสิมือเป็นรอยแดงแบบนี้ เดี๋ยวแม่เชือดทิ้งซะหรอก แล้ว...รองพื้นล่ะ บลัชออน ลิปสติกอีก ยังงดงามดีอยู่ใช่มั้ย”

อาศัยจังหวะที่ พี่สะใภ้เล็ก มัวแต่ห่วงสวย ไอโอเรียก็ฉวยโอกาสโกยอ้าววิ่งหนีเข้าไปในป่ารกทึบข้างทางทันที

ป๊อก!

เสียงเปิดฝาดังขึ้นก่อนขวดจะเอียงวูบจนชากะกลิ้งหลุนๆ ออกมานั่งแปะอยู่บนใบไม้สีทองใบใหญ่

“ฉันเอง” มิโร่ส่งยิ้มเขินๆ ให้ก่อนถือใบไม้ลัดเลาะไปอีกทาง สักพักก็วางลงข้างๆ สระขนาดใหญ่ที่มีน้ำสีแดงใสคล้ายไวน์องุ่นชั้นดีบรรจุอยู่เต็ม

“เจ้าไอโอเรียมันห่วงเธอ น้ำสีแดงนี่...ดื่มเท่ากับที่ดื่มน้ำสีฟ้าล่ะ”

พูดจบมิโร่ก็หายตัวไปมันง่ายๆ

...อาจารย์อัสมิตะสอนไม่ให้ไว้ใจคนแปลกหน้า แต่..ไว้กลับไปชากะค่อยขอขมาท่านสองรอบแล้วกัน

พอน้ำสีแดงร่วงลงลำคอ สระน้ำตรงหน้าก็ค่อยๆ เล็กลงๆ ต้นไม้ต้นหญ้าก็ค่อยๆ เตี้ยลงๆ เตี้ยลงๆๆๆ จนตอนนี้แต่ยื่นมือออกไปข้างหน้าก็แตะยอดบนสุดของต้นไม้ใหญ่แถวนั้นได้แล้ว

...เอาล่ะ ได้เวลาเอาคืน

ชากะที่ตัวโตกว่าเดิมหลายเท่าเสียเวลาก้มหน้าก้มตาเหลียวซ้ายแลขวาค้นหาอยู่ชั่วครู่ก็เจอแมวลายเสือสีส้มกำลังวิ่งตัดทุ่งหหญ้า คงตั้งใจจะออกไปทางซุ้มประตูกุหลาบ  

เพราะมีเงาดำๆ ของใครสักคนพาดทับ ไอโอเรียที่ผิดสังเกตก็หันกลับมามอง แต่แค่เห็นเส้นผมสีทองที่ปลิวไสวก็รีบวิ่งหน้าตั้ง เรี่ยวแรงมีเท่าไหร่เป็นโกยไม่ยั้ง ผิดกับชากะที่แค่ก้าวยาวๆ ไม่ถึงสิบก้าวก็ถึงตัว จากนั้นก็คีบหนังคอเจ้าแมวจอมแสบที่ตอนนี้ตัวเท่าลูกแมวเท่านั้นขึ้นมา

“ว๊ากกกกกกกกกกกกกก....”

ไอโอเรียร้องลั่นเมื่อถูกโยนขึ้นสูง พอหล่นลงมาก็มีมือใหญ่ๆ รับไว้แล้วโยนกลับขึ้นไปใหม่...ด้วยอารมณ์แบบว่า สะใจ

สามสี่รอบแรกเจ้าแมวยังมีแรงแหกปากร้องโวยวายได้อยู่ แต่พอรอบที่ห้าที่หกกลับไม่ร้องสักแอะ จน ผู้ก่อการทรมาน เอะใจแล้วเปลี่ยนเป็นอุ้มไว้เฉยๆ

เท่านั้นแหละ...เจ้าแมวจอมมารยาทำท่าคอพับคออ่อนก็ดิ้นสุดแรงเกิดกระโจนหลุดจากมือลงมาที่พื้นหญ้าแล้ววิ่งปรู๊ดหนีกลับเข้าไปในป่าอีกครั้ง แถมยังมีหน้าหันมาแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ให้เจ็บใจเล่นอีกแน่ะ

“แบร่ๆ...กิ๊วๆ”

...ฮึ่ม!!

“มานี่เลย” ซากะโมโหจี๊ดดดด... “มาให้จับอีกทีซะดีๆ มา”

แต่พอควานมือเข้าไปหาตามต้นไม้ใบไม้ในป่าได้สักพักก็รู้สึกเจ็บแปลบที่นิ้วต้องรีบชักมือกลับ ก่อนจะทันเห็นเจ้าแมววายร้ายทำหน้าตาตกใจพลางถอยหลังกรูดๆ ออกมาจากดงไม้คล้ายหนีอะไรสักอย่าง ก่อนจะเข่าอ่อนทรุดลงนั่งแหมะกับพื้น

ชายผมดำในเครื่องแต่งกายเรียบๆ ค่อยๆ ก้าวตามออกมา

“พี่สะใภ้รอง???”

ใบหน้ายิ้มๆ ของชายผมดำช่างตรงข้ามกับความเย็นชาในดวงตาสีเดียวกันเล่นเอาเจ้าแมวทำหน้าเหยเกเมื่อมือได้รูปค่อยๆ ยื่นมาแตะหัวลูบหางเบาๆ

“เป็นเด็กดีว่าง่ายกลับไปที่วังกับพี่เถอะนะ.....เอกซ์คาลิเบอร์

เท่านั้นแหละ เจ้าเหมียวก็ทรุดฮวบลงไปนอนสลบเหมือดให้อีกฝ่ายแบกขึ้นบ่า ก่อนจะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงจนมองด้วยตาเปล่าไม่ทัน

.......


 เขียนอะไรฮาๆ แบบนี้ก็สนุกไปอีกแบบ แล้วจะรีบมาต่อค่ะ ใครอยากบอกอะไร เขียนคอมเมนต์บอกได้นะคะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น